🔴 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ตระหนักถึงความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และวัฒนธรรม กับประเทศในเอเชียตะวันออก อันประกอบด้วยญี่ปุ่น จีน และเกาหลี เป็นอาทิ มาเป็นเวลาช้านานและนับวัน มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงควรสนับสนุนให้มีการศึกษา เกี่ยวกับประเทศเหล่านั้นให้กว้างขวางและลึกซึ้ง เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์และความเข้าใจ อันดีระหว่างประชาชน กับเพื่อรวบรวมผลการค้นคว้า วิจัยใว้อย่างมีระเบียบภายใต้สถาบันเดียวกัน เพื่อประโยชน์แก่สาธารณชน จึงได้จัดตั้งสถาบันญี่ปุ่นศึกษาขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2524 และเพื่อขยายขอบเขตงานให้กว้างขวางยิ่งขึ้น คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติให้จัดตั้งเป็นสถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2526 ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2527
🔴 ต่อมารัฐบาลญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าเป็นเงิน 115 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารศูนย์ญี่ปุ่นศึกษา ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2527 และในพิธี เปิดอาคารศูนย์ญี่ปุ่นศึกษา เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2528 และต่อมาทรงพระมหากรุณารับสถาบันเอเชียตะวันออกศึกษาไว้ในพระราชูปถัมภ์อีกด้วย
🔴 จากปี พ.ศ. 2527 จนถึงปัจจุบัน สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา ได้ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เผยแพร่สู่สาธารณชน โดยให้บริการวิชาการในรูปแบบต่าง ๆ แก่สังคม นอกจากนี้ สถาบันฯยังมีโอกาสต้อนรับบุคคสำคัญระดับชาติ ที่ให้เกียรติมาเยือนเละชมอาคารศูนย์ญี่ปุ่นศึกษา เช่น เจ้าชายฮิตาชิ และพระชายาแห่งประเทศญี่ปุ่น H.I.H Prince Takamado เชื้อพระวงศ์ญี่ปุ่น ฯลฯ ทาคาโอะ ฟูกูดะอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฯลฯ ชิเกทามิ ชูนาดะ อดีตรัฐมนตรีศึกษาธิการญี่ปุ่น
🔴 นอกจากนั้นยังมีนักวิชาการที่มีชื่อเสียงและบุคคลชั้นนำในวงการต่าง ๆ เดินทางมาเยี่ยมชมอาคารศูนย์ญี่ปุ่นศึกษาอยู่เนือง ๆ
บทความ : ผู้ช่วยศาสตราจารย์บัญญัติ สุรการวิทย์ และศูนย์ญี่ปุ่นศึกษา
อ่านบทความผู้ช่วยศาสตราจารย์บัญญัติ สุรการวิทย์ และศูนย์ญี่ปุ่นศึกษา
ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารไทย-ญี่ปุ่นศึกษา ฉบับเดือนธันวาคม 2535
ได้ที่ https://shorturl.at/noptD