新疆
เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์
วันที่ 11-15ตุลาคม 2564
จำนวน 2คาบ
เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์
วันที่ 11-15ตุลาคม 2564
จำนวน 2คาบ
เขตปกครองตนเองทิเบต หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า ทิเบต ตั้งอยู่ใจกลางทวีปเอเชีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน มีพื้นที่ติดต่อกับมณฑลต่าง ๆ ของจีน ประเทศภูฏาน และประเทศเนปาล โดยมีเมืองหลวงชื่อ ลาซา (Lhasa) จัดเป็นเขตปกครองตนเองที่มีพระเป็นผู้นำ ชาวทิเบตจึงนับถือศาสนาพุทธนิกายวัชรยาน
ทิเบต มีพื้นที่ทั้งหมด 1,200,000 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วย 7 จังหวัด ดังนี้
ลาซา (เมืองหลวง)
น่าชูตี้ชู (Nagchu Prefecture)
ชางตูตี้ชู (Chamdo Prefecture)
หลินจือตี้ชู (Nyingtri Prefecture)
ชานหนานตี้ชู (Shannan Prefecture)
ลื่อคาเสอตี้ชู (Shigatse Prefecture)
อาหลี่ตี้ชู (Ngari Prefecture)
ทิเบตตั้งอยู่บนพื้นที่ชิงไห่-ทิเบต ซึ่งเป็นที่ราบสูงที่สูงที่สุดในโลก อยู่เหนือระดับน้ำทะเลด้วยความสูงเฉลี่ย 4,000 เมตร จนได้รับฉายาว่า หลังคาของโลก (The Roof of the World) พื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยเทือกเขาที่มียอดเขาปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนตลอดทั้งปี ทำให้มีภูมิอากาศที่หนาวเย็นมาก และมีความกดอากาศและออกซิเจนที่ต่ำ
ทิเบตถูกจัดเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีคุณภาพสิ่งแวดล้อมดีที่สุดในระดับโลกประจำปี 2019 โดยมีระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่นที่มีเสถียรภาพและสมบูรณ์อย่างมาก แทบจะไม่มีปัญหาสิ่งแวดล้อมขึ้นในพื้นที่นี้เลย ทั้งนี้ เมื่อสิ้นปี 2019 ทิเบตได้จัดตั้งเขตอนุรักษ์ธรรมชาติรวม 47 แห่ง คิดเป็น 34.35% ของพื้นที่ทั่วทิเบต
ทิเบต เริ่มมีร่องรอยของอาณาจักรเกิดขึ้นในช่วงสมัยศตวรรษที่ 7 โดยเป็นอาณาจักรอิสระมีเมืองลาซาเป็นเมืองหลวง และมีลัทธิโบน (Bonism) เป็นลัทธิที่เก่าแก่ของทิเบต บูชาสวรรค์ เทวดา และต้นไม้ จากนั้นก็เริ่มมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศจีน ในสมัยราชวงศ์ถัง และเริ่มมีการศึกษาเทคโนโลยีทางการผลิต ผลงานทางการเมือง และวัฒนธรรมที่ทันสมัย
ถึงช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 13 ทิเบตก็ได้รวมเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน แต่ก็มีความขัดแย้งเกิดขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมและกฎข้อห้ามในการนับถือศาสนาในทิเบต จนกระทั่งต่อมาประเทศจีนประกาศให้ทิเบตเป็นเขตการปกครองตนเองภายใต้การปกครองรูปแบบเดิม คือมีองค์ดาไลลามะเป็นผู้นำ ภายใต้ระบอบคอมมิวนิสต์
เมืองลาซา เมืองหลวงของทิเบต ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของที่ราบสูงทิเบต อยู่ทางเหนือของเทือกเขาหิมาลัย มีแม่น้ำลาซาไหลผ่าน นับว่าเป็นเมืองที่สูงที่สุดในโลก โดยมีระดับความสูงอยู่ที่ 3,650 เมตร เหนือน้ำทะเล เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ คือ พระราชวังโปตาลา (Potala Palace) สร้างขึ้นมาในคริสตวรรษที่ 7 โดยกษัตริย์ ซงจ้าน กัมโป กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของทิเบต เดิมทีเป็นป้อมและตำหนักเล็ก ๆ แต่ต่อมาก็ได้ใช้เป็นสถานที่ในการศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนในศาสนาพุทธ โดยปัจจุบันพระราชวังโปตาลากลายเป็นพิพิธภัณฑ์และสถานสักการะ แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ พระราชวังแดง ขาว และเหลือง
อารามซัมเย (Samye Monastery) วัดแห่งแรกของศาสนาพุทธนิกายวัชรยานในทิเบต สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของลาซาประมาณ 200 กิโลเมตร บนฝั่งแม่น้ำยาร์ลุงที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาและธรรมชาติ สร้างตามความเชื่ออินเดีย คือ มีวิหารหลักเปรียบดังเขาพระสุเมรุ ศูนย์กลางของจักรวาล มีอาราม 4 ทิศ เปรียบเสมือนทวีปทั้งสี่ และมีอารามด้านนอกอีกแปดทิศ เป็นสัญลักษณ์ของประทีปในจักรวาล มีสถูปทางทิศเหนือและใต้ แทนพระอาทิตย์และพระจันทร์ ขณะที่ตัววิหารกลางมีสามส่วน ส่วนล่างสุดเป็นสถาปัตยกรรมแบบทิเบต ส่วนกลางเป็นแบบจีน และส่วนบนเป็นแบบอินเดีย
เบสแคมป์ก่อนขึ้นยอดเขาเอเวอเรสต์ (Everest) ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก อยุู่บนเทือกเขาหิมาลัย ช่วงเขตพรมแดนประเทศเนปาลและทิเบต ทำให้มีที่ตั้งของเบสแคมป์ก่อนขึ้นยอดเขา (Base Camp) 2 แห่ง คือ ฝั่งทิศใต้ เป็นฝั่งของประเทศเนปาล ต้องเดินเขาขึ้นไป แต่ฝั่งทิศเหนือจะเป็นฝั่งของทิเบต สามารถขับรถไปได้ และอยู่ท่ามกลางธรรมชาติทิวทัศน์ที่สวยงามและกว้างใหญ่กว่า ทั้งนี้ ในระหว่างทางไปเบสแคมป์จะพบกับ อารามรงบุก (Rongbuk) นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์สองข้างที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติและขุนเขา
เขาไกรลาส (Mount Kailash) ตั้งอยู่ในทิศตะวันตกของทิเบต มีความสูง 22,020 ฟุต จัดว่าเป็นยอดเขาสูงเป็นอันดับที่ 32 ของโลก และสูงเป็นอันดับที่ 19 ในบรรดาเทือกเขาหิมาลัย มีอายุกำเนิดถึงปัจจุบันกว่า 50 ล้านปี ชาวฮินดูเชื่อว่า ยอดเขาแห่งนี้เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่ประทับของพระศิวะ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ทำให้ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวมากมายที่เลื่อมใสในศาสนา ทั้งชาวพุทธและชาวฮินดูมาแสวงบุญด้วยการเดินเท้ารอบภูเขาไกรลาสเป็นระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร
อาณาจักรกูเก / กู่เก๋อ (Guge Kingdom) อาณาจักรโบราณกูเก หรือถ้าอ่านแบบภาษาจีนคือ กู่เก๋อ ตั้งอยู่ในเขตซาด้า (Zhada) แคว้นงาริ (Ngari) ของทิเบตตะวันตก เคยเป็นอาณาจักรยิ่งใหญ่และรุ่งเรืองถึงขีดสุดเมื่อ 1,000 ปีมาแล้ว ก่อนที่จะล่มสลายและสูญหายไปเมื่อเกิดสงครามทางศาสนา และการปฏิรูปทางวัฒนธรรมขึ้นในศตวรรตที่ 17 จนมาค้นพบอีกครั้งหนึ่งโดยชาวอิตาลี ปัจจุบันยังมีร่องรอยของสถาปัตยกรรมที่เหลืออยู่ ประกอบด้วย ถ้ำ บ้านเดี่ยว แนวตึกแถว และเจดีย์ ทั้งนี้ รอบ ๆ อาณาจักรยังปรากฏแนวกำแพงที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นรูปร่างสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่สวยงามแปลกตา