รู้จักไพทอน (Python)
รู้จักไพทอน (Python)
Python เป็นภาษาเขียนโปรแกรมระดับสูงที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในการเขียนโปรแกรม ถูกพัฒนาขึ้นโดย กีโด ฟาน รอสซัม Guido van Rossum และถูกเผยแพร่ครั้งแรกในปี 1990 ปัจจุบันถูกดูแลโดย Python Software Foundation (PSF) Python นั้นเป็นภาษาแบบ interprete ที่ถูกออกแบบโดยมีปรัญชาที่จะทำให้โค้ดอ่านได้ง่ายขึ้น และโครงสร้างของภาษานั้นจะทำให้โปรแกรมเมอร์สามารถเข้าใจแนวคิดการเขียนโค้ดโดยใช้บรรทัดที่น้อยลงกว่าภาษาอย่าง C++ และ Java ซึ่งภาษานั้นถูกกำหนดให้มีโครงสร้างที่ตั้งใจให้การเขียนโค้ดเข้าใจง่ายทั้งในโปรแกรมเล็กไปจนถึงโปรแกรมขนาดใหญ่
จุดเด่นของไพทอน (Python)
ไวยากรณ์อ่านง่าย (Very Clear and Readable Syntax)
Python ได้จำกัดสัญลักษณ์ที่ใช้ในการแบ่งบล็อกของโปรแกรมเป็นการย่อหน้าแทน ทำให้สามารถอ่านโปรแกรมที่เขียนได้ง่ายนอกจากนั้นยังมีการสนับสนุนการเขียน docstring ซึ่งเป็นข้อความสั้นๆ ที่ใช้อธิบายการทำงานของฟังก์ชั่น, คลาส, และโมดูล
เป็นภาษากาว (Glue Language)
python เป็นภาษากาว (Glue Language) เนื่องจากสามารถเรียกใช้ภาษาโปรแกรมอื่นๆได้หลายภาษาทำให้เหมาะสำหรับการเขียนโปรแกรมเพื่อประสานงานกับภาษาอื่นๆ
ไลบรารีในไพทอน
python ใช้ไลบรารีในการลดภาระให้กับผู้พัฒนาโปรแกรมได้อย่างดีทำให้ผู้พัฒนาโปรแกรมไม่ต้องเสียเวลากับการเขียนคำสั่งที่ซ้ำๆยกตัวอย่างเช่นการแสดงผลข้อมูลออกสู่หน้าจอ หรือ การรับค่าต่างๆ Python มีชุดไลบรารีที่เป็นมาตรฐานมาให้ตั้งแต่ตอนติดตั้งอินเตอร์พรีเตอร์
ทำงานได้รวดเร็ว
Python ทำงานได้รวดเร็วเมื่อเทียบกับภาษา Script ด้วยกัน เช่น PHP, JSP, ASP หรือจะบอกว่า Python เขียนน้อยแต่ได้งานมาก ทำงานเร็วก็ไม่ผิด
ทำไมต้อง ไพทอน (Python)
1. เป็นภาษาที่มีโครงสร้างคำสั่งที่ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย เมื่อเปรียบเทียบกับภาษาซี แล้ว ไพทอน (Python) เขียนคำสั่งได้น้อยกว่าภาษาซี แต่ทำงานได้เหมือนกัน
2. สามารถใช้ในการเขียนโปรแกรมที่ซับซ้อนมากขึ้นในการเรียน และทำงานจริงในอนาคต
3. มีชุดคำสั่งสำเร็จรูป (Library) ให้เลือกใช้งานมากมาย เช่น ติดต่อฐานข้อมูลต่าง ๆ , ระบบเครือข่าย ทำให้เขียนโปรแกรมใหม่ได้รวดเร็วมากขึ้น
4. มีผู้ใช้และนักพัฒนามากมาย ที่มีส่วนรวมในการตอบและสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้
5. สามารถจัดการเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) ได้อีกด้วย
คำสั่ง print และชนิดของข้อมูลใน Python
คำสั่ง print
print เป็นคำสั่งสำหรับแสดงผลทางหน้าจอ โดยมีไวยากรณ์ดังนี้
print(ตัวแปรหรือข้อมูล)
ชนิดข้อมูลใน Python (Variable Type)
String ข้อมูลตัวอักษร
การกำหนดตัวแปร String หรือการแสดงผล สามารถใช้ได้ทั้ง Single Quote (') Double Quote (") และ Triple Quote ('"")
Number ข้อมูลตัวเลข
int เลขจำนวนเต็ม เช่น 1 2 100
float จำนวนทศนิยม หรือ จำนวนจริง เช่น 50.35 100.68
long ตัวเลขฐานแปด และ ตัวเลขฐานสิบหก เช่น 2AF3
complex จำนวนเชิงซ้อน
ตัวอย่างการใช้คำสั่ง print
print(value, ..., sep = ' ', end = '\n');
print("Hello Python")
print("My name is Mateo")
print("Mercury", "Venus", "Earth")
name = "marcuscode.com"
year = 2017
print(name)
print(year)
ตัวแปร (Variable)
การกำหนดตัวแปร (Variable)
คือการกำหนดคำขึ้นมาเพื่อเก็บข้อมูลที่อยู่ทางด้านขวา โดยใช้เครื่องหมายเท่ากับ (=)
กฎการกำหนดตัวแปร
Python ไม่จำเป็นต้องประกาศตัวแปรก่อนใช้งาน สามารถกำหนดคำขึ้นมาแล้วเรียกใช้ได้เลย โดยมีกฎดังนี้
ใชัตัวอักษร A-Z หรือ a-z โดยตัวอักษรพิมพ์เล็กพิมพ์ใหญ่มีความแตกต่างกัน (Case Sensitive)
ตัวแปรห้ามขึ้นต้นด้วยตัวเลขแต่ใช้ประกอบในชื่อตัวแปรได้ตั้งแต่ 0-9
ใช้สัญลักษณ์ขีดล่าง (Underscore) ขึ้นต้น หรือผสมอยู่ในตัวแปรได้
ตัวแปรห้ามมีช่องว่าง
ห้ามมีสัญลักษณ์พิเศษ (@, ?, #, $, ...)
ตัวแปรห้ามซ้ำกับคำสงวน ได้แก่
*ควรตั้งชื่อตัวแปรที่สื่อความหมายให้ชัดเจน เพื่อผู้อื่นตีความหมายได้เข้าใจ แต่ถ้ามีความยาวมากให้ย่อ
เช่น student_name ควรใช้ st_name เป็นต้น
ตรวจสอบค่าในตัวแปร
การตรวจสอบตัวแปรใน Python ว่าเก็บข้อมูลชนิดใด สามารถทำได้โดยใช้ฟังก์ชั่น type() ตัวอย่างเช่น
print(type(a))
โปรแกรมก็จะแสดงว่าตัวแปร a ว่าเก็บข้อมูลชนิดใดอยู่
การแปลงชนิดข้อมูลในตัวแปร
การแปลงชนิดข้อมูลในตัวแปรสามารถทำได้โดยใช้ฟังก์ชั้นต่างๆ ดังนี้
str() แปลงข้อมูลเป็นตัวอักษร (string)
int() แปลงข้อมูลเป็นตัวเลขจำนวนเต็ม (int. number)
float() แปลงข้อมูลเป็นตัวเลขจำนวนจริงหรือตัวเลขทศนิยม (float number)