ชื่อพื้นบ้าน : ไทรย้อยใบแหลมด่าง จาเรย
ชื่อสามัญ : Gogen fig.
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ficus benjamina L. var. variegata
ชื่อวงศ์ : MORACEAE
ลักษณะทั่วไป : ใบเป็นรูปไข่ มีสีเขียวแกมเหลืองหรือเหลืองออกขาว นิยมปลูกเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ ลำต้นมีสีเทา ขึ้นได้ดีในดินร่วน ชอบแสงปานกลาง แสงมากชอบ ความชื้น
ประโยชน์ : ปลูกเป็นไม้ประดับ
การขยายพันธุ์: โดยการปักชำ การตอนกิ่ง
แหล่งอ้างอิง: https://sites.google.com/site/swnphvkssastrsk222/tnthir-dang
ลักษณะทั่วไป
ใบเป็นรูปไข่ มีสีเขียวแกมเหลืองหรือเหลืองออกขาวนิยมปลูกเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ ลำต้นมีสีเทา ขึ้นได้ดีในดินร่วน ชอบแสงปานกลาง แสงมากชอบความชื้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ทรงพุ่มหนาทึบ ใบรูปไข่ปลายใบแหลม ฐานใบเรียวสอบเข้าหาก้านใบ ก้านใบค่อนข้างสั้น พื้นใบมีมีสีเขียวอมเทา ด่างขาวบริเวณขอบใบทั้งสองด้านรวมทั้งตามผิวบางส่วน
การขยายพันธุ์: โดยการปักชำ การตอนกิ่ง
คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นไทรไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความร่มเย็น เพราะคนโบราณได้กล่าวว่า ร่มโพธิ์ร่มไทรช่วยทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขนอกจากนี้ยังช่วยคุ้มครอง ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวงเพราะ บางคนเชื่อว่าต้นไทรเป็นต้นไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีเทพารักษ์อาศัยอยู่คอย คุ้มครองพิทักษ์ปวงชนให้มีความอยู่เย็นเป็นสุข
การปลูก
1. การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวนโบราณนิยมปลูกไว้เพื่อ ประดับบริเวณสวนเพราะเป็นไม้ที่มีการแตกกิ่งก้าน สาขาที่กว้างใหญ่ ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก
2. การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายในและภายนอกอาคาร ควรใช้กระถางทรงสูงขนาด 12-18 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก :แกลบผุ:ดินร่วนอัตรา 1:1:1ผสมดินปลูกควรเปลี่ยนกระถาง1- 2 ปี/ครั้งหรือ แล้วแต่ความเหมาะสมของทรงพุ่มทั้งนี้ก็เพราะ การเจริญเติบโตของทรงพุ่มโตขึ้นและ เพื่อต้องการเปลี่ยนดินปลูกใหม่ทดแทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไปการปลูกทั้ง2วิธี ดังกล่าวสามารถตัดแต่งและบังคับรูปทรงของทรงพุ่ม ได้ตามความต้องการผู้ปลูกนอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์ ด้วยว่าพันธุ์ใดจะเหมาะสมกับวิธีการปลูกแบบใด ตามวัตถุประสงค์ผู้ปลูกไทรด่างเป็นไม้ต้น ไม่ผลัดใบ ขนาดใหญ่ สูงได้ถึง 20 เมตร รัดพันไม้อื่น มียางสีครีม หรือสีเหลืองอ่อน ใบ แก่เหนียว เรียบเกลี้ยง ก้านใบมีรากเล็กน้อย กิ่งก้านเรียวเล็ก ผล ออกแบบมะเดื่อ ออกเดี่ยวหรือคู่ การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด แยกต้น ประโยชน์ เป็นไม้ประดับ
แหล่งอ้างอิง: http://wr1.warin.ac.th/botany/index.php?topic=646.0