21 สิงหาคม 2563

คอลัมน์รายสะดวก: "อริยสัจ 4" กับ "ม็อบปลดแอก" และปัญหาของไทยในตอนนี้

ก่อนมาเขียนต้นฉบับ ผมได้ทำแบบสอบถามของสภาผู้แทนราษฎร ที่ร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า เกี่ยวกับการชุมนุมของ "ม็อบปลดแอก" ในช่วง 1 - 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

แน่นอนครับ ผมตอบไปตาม "จุดยืน" ที่ชัดเจนมาตั้งแต่ต้น

ประเด็นสำคัญก็คือ จะต้องไม่มีการ "จาบจ้วง" สถาบันพระมหากษัตริย์โดยเด็ดขาด!!!

เพราะจริง ๆ แล้ว สถาบันฯ ไม่ได้เป็น "สมุทัย" หรือต้นตอของปัญหาที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ถ้าว่ากันตามหลัก "อริยสัจ 4" ที่ผมกำลังจะพูดถึงต่อไปนี้

แต่มีการให้ร้ายอย่าง "ระยำตำบอน" โดยคนบางคนเท่านั้นเอง

โดยเฉพาะในช่วง 1 - 2 สัปดาห์ให้หลัง ที่ม็อบ "พีค" มาก ๆ ไอ้ช่วงนั้นแหละตัวดีเลยครับ โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม

ส่วนคนพวกนั้นทำอะไรกัน ก็...... อย่างที่เห็นในข่าวแหละครับ

เมื่อเป็นซะอย่างนี้แล้ว ก็มานึกได้ตอนก่อนจะเขียน "คอลัมน์รายสะดวก" ในวันนี้ว่า คนพวกนี้มันมั่ว "สมุทัย" เละเทะเลย แล้วไปหาว่าสมุทัยที่พวก "อุปโลกน์" ขึ้นมาเป็นเหตุให้เกิด "ทุกข์" ที่พวกอ้างว่าประสบอยู่

อ้างว่า "ทุกข์" ก็คือ... "ถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพ บ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตยเลย คนจะอดตายกันอยู่แล้ว" อะไรทำนองนี้แหละครับ!!!

แกนนำหลายคนถูกจับ อย่างที่เรารู้ข่าวกัน นั่นก็เป็น "ทุกข์" อย่างหนึ่งในลักษณะที่พวกนั้นอ้างว่า "ถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพ"

แต่เดี๋ยวก่อน...... "สมุทัย" จริง ๆ คืออะไรในเคสนี้

จากที่ผมติดตามข่าวจากสื่อต่าง ๆ หลายสำนัก ก็น่าจะชัดแล้วว่า "สมุทัย" ก็คือ "ตัวเองอยากพูดอะไรก็ได้โดยไม่แคร์ความรู้สึกของอีกฝ่าย" อยากลามปามไปถึงสถาบันฯ เพราะถูกปลูกฝังข้อมูลผิด ๆ เกี่ยวกับสถาบันฯ มา (อย่างเรื่อง "เพชรซาอุฯ" หรือการชวนให้คนตั้งแง่ต่อสถาบันฯ เพื่อให้เกิดความเกลียดชัง อย่างนี้เป็นต้น)

พอแกนนำบางคนพูดอะไร "เลยเถิด" ไปแล้ว ก็ถูกจับสิครับ!!!

"ทุกข์" จากการถูกจับกุม ไม่ได้มี "สมุทัย" ที่เกิดจากสถาบันฯ หรอกครับ

เกิดจาก "ความคิด" ของคนพวกนี้ อย่างที่บอกไว้ต่างหาก

ส่วน "คนจะอดตายกันอยู่แล้ว" นี่คงอ้างว่าฝีมือรัฐบาลปัจจุบันห่วย แก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยเฉพาะในช่วง 2 - 3 ปีให้หลังนี้ไม่ได้

เป็น "สมุทัย" ที่ "พูดไม่หมด"

เอาจริง ๆ เศรษฐกิจไทยเจอปัญหามา 2 - 3 ปีเหมือนกับที่หลาย ๆ ประเทศในโลกเจอ ที่เห็นชัด ๆ ก็เห็นจะเป็น "สงครามการค้า" ระหว่างสหรัฐกับจีน

แถมช่วงโควิดแบบนี้ ทั่วโลกโดนกันหมด

เรา "เอาอยู่" แม้ GDP ไตรมาสที่ผ่านมาจะหดฮวบ แต่ก็ยังดีกว่าประเทศอื่น ๆ ที่หดหนักกว่าเรา

เที่ยวในประเทศเราก็เริ่มฟื้นละ แม้ไม่ 100%

แต่ก็ต้องยอมรับส่วนนึงว่า รัฐบาลยังไม่ค่อยจัดสรรงบฯ ให้ธุรกิจไปพัฒนาประสิทธิภาพในการผลิตสินค้า เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคตเท่าที่ควร อันนี้ผมไม่เถียงหรอก

ปัญหาอีกอย่างก็คือ เราพึ่งพาต่างประเทศ ก็คือ "การส่งออก" สินค้าและบริการมากเกินไป เลยทำให้เศรษฐกิจมีปัญหาอยู่ในตอนนี้

พอพูดถึง "คู่ทุกข์" คือทุกข์กับสมุทัยแล้ว "คู่สุข" ก็คือ "มรรค" และ "นิโรธ" พวกนั้นก็บอกทำนองว่า "ลุงตู่ออกไป!!!", "แก้รัฐธรรมนูญ" และ "ก่อการกำเริบ" ซะ ประเทศไทยจะได้ "ดีขึ้น"!!!

ก็มั่วอีก แก้ปัญหาไม่ตรงจุด

แล้ว "มรรค" จริง ๆ จะนำไปสู่ "นิโรธ" จริง ๆ ได้อย่างไร?

ตรงนี้แหละครับเป็นไฮไลต์ และเป็นเหตุที่ผมต้องเกริ่นว่าไปทำแบบสอบถามมา

ในแบบสอบถามข้อท้ายสุด เขาถามว่ามี "ข้อเสนอแนะ" จะเสนอมั้ย?

นั่นแหละครับ ผมเลยเสนอแนะ และฝากไปว่า...

"การเรียกร้องในส่วนที่อาจเรียกได้ว่าเป็นการลิดรอนหรือลดความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ลงนั้น เป็นการเรียกร้องที่มิบังควรอย่างยิ่งยวด และเป็นการเรียกร้องที่ไม่ตรงกับประเด็นที่เป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน กลุ่มผู้ชุมนุมจึงไม่ควรอย่างยิ่งยวดในการตั้งข้อเรียกร้องเชิงลามปามแบบนี้ นอกจากนี้ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ประชาชนทุกคนรวมถึงกลุ่มผู้ชุมนุมควรช่วยกันแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปในภายหน้า หากใครมีแนวความคิดที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจดังกล่าวได้ ก็ควรเสนอแนวคิดผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้นำไปพิจารณาประกอบการแก้ปัญหาด้วย"

Quote จากที่ตอบไปแบบเป๊ะ ๆ ทุกตัวอักษร

ผมว่านี่แหละจะเป็น "มรรค" จริง ๆ ของปัญหาในตอนนี้

ผมว่าตอนนี้รัฐบาลและรัฐสภากำลังทำ "มรรค" อยู่อย่างนึง คือ เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในประเด็นการเมือง

แต่ก็นั่นแหละ ฝั่งม็อบก็ "อย่าลามปาม" ดูดี ๆ ว่า "สมุทัย" จริง ๆ อยู่ตรงไหน

เป็นเพราะ "นักการเมืองบางคน" หรือเปล่า?

ที่ว่ารัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย "จริงทั้งหมด" หรือ "จริงครึ่งเดียว"?

แต่ที่แน่ ๆ ผมจะย้ำว่า "สถาบันฯ" ไม่ใช่ "สมุทัย" ของปัญหาตอนนี้

"มรรค" อีกอย่างนึงก็คือ เราควรจะ "ปรับโครงสร้าง" ทางเศรษฐกิจของเราครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง หลังเคยทำมาแล้วในยุครัฐบาล ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เพื่อนำรายได้เข้าประเทศให้มากขึ้น หลังจากเศรษฐกิจโตน้อยมาหลายปี

เราจะได้พึ่งพารายได้จากส่วนอื่นบ้าง เมื่อภาคการส่งออกมีปัญหา

นอกจากนี้ รัฐบาลก็ควรส่งเสริมให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพในการผลิตสินค้ามากขึ้น จัดสรรงบฯ ให้ธุรกิจพัฒนาสินค้าและบริการต่าง ๆ สำหรับ "ตอบโจทย์" ผู้บริโภคในปัจจุบัน หรือคิดเผื่ออนาคตด้วย

เพิ่งเรียนวิชา "เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ" เกี่ยวกับทฤษฎีการค้าสมัยใหม่มา อาจารย์ก็พูดเรื่องนี้ด้วย

นายกฯ ลุงตู่เคยบอกว่าจะเป็น "นายกฯ New Normal" ขอให้ท่านและคณะลงมือแก้ปัญหาตอนนี้เลยครับ

ทั้งหมดนี้ ผมคิดว่าจะนำไปสู่ "นิโรธ" คือ "ไทยชนะ" และอยู่รอดต่อไปในอนาคตข้างหน้า

ถึงตรงนี้ ผมก็แอบคิดว่า เขียนแบบนี้ "ทัวร์จะลงกูมั้ย?!"

อย่าว่ากันเล้ยยย...... ก็อยากจะลองวิเคราะห์ดูซะหน่อย บางอย่างก็ต้องวิเคราะห์หลายชั้น และผมเอา "ข้อเท็จจริง" มาพูด ไม่ได้กล่าวหาลอย ๆ

ถ้าจะถามหาหลักฐาน คิดว่าผมไม่จำเป็นต้องไป "ประเคน" มาให้หรอกครับ "หาเองได้ทั้งนั้น"

โอเค... วิเคราะห์เสร็จละครับ