UFABET
ชาเขียว เป็นเครื่องดื่มที่สร้างจากการนำใบอ่อนของต้นชามาผ่านความร้อนรวมทั้งวิธีการเพื่อผลิตเป็นน้ำชาเขียว ในชาเขียวมีสารเคมีเยอะมากที่บางทีอาจมีคุณประโยชน์ต่อสภาพร่างกาย รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระอย่างโพลีฟีนอล (Polyphenols) ที่มั่นใจว่าบางทีอาจช่วยคุ้มครองปกป้องกรรมวิธีการอักเสบบวม ป้องกันกระดูกอ่อน ลดการเสื่อมของข้อต่อ แล้วก็บางทีอาจช่วยคุ้มครองปกป้องการตำหนิดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) แล้วก็บางทีอาจช่วยลดอัตราการเจริญเติบโตของเซลล์เยื่อที่ไม่ดีเหมือนปกติในมดลูกได้
ชาเขียว
สารสำคัญอีกตัวหนึ่งในชาเขียวเป็น คาเฟอีน เป็นสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ระบบหัวใจรวมทั้งกล้าม การบริโภคเครื่องดื่มหรือของกินที่มีสารคาเฟอีน ก็เลยมีผลต่อการหลั่งสารสื่อประสาทซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ควบคุมการคิดรวมทั้งการตื่นตัว การบริโภคชาเขียวก็เลยอาจมีผลต่อสภาพทางด้านร่างกายได้ในหลายด้าน
หัวใจสำคัญของชาที่ถูกเอามาดัดแปลงเป็น ส่วนที่เป็นใบชา ยอดอ่อนใบชา รวมทั้งลำต้น เว้นแต่ชาเขียวในแบบเครื่องดื่มหรือของกินแล้ว ก็ยังมีการผลิตชาเขียวในรูปสารสกัดด้วย โดยหน่วยงานของกินและก็ยาอเมริกา ได้รับรองการใช้สารสกัดชาเขียวในรูปครีมขี้ผึ้ง เพื่อใช้รักษาในคนป่วยหูดหงอนไก่ด้วย
หากแม้มีแนวความคิดจำนวนมากเกี่ยวกับคุณประโยชน์ทางด้านการแพทย์แล้วก็สุขภาพของชาเขียว แต่ว่าในทางของหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์ คนไม่ใช่น้อยบางทีอาจสงสัยว่าข้อสมมติดังที่กล่าวมาแล้วได้โอกาสเป็นได้ใช่หรือไม่
คุณค่าที่บางทีอาจเป็นได้
ความดันเลือดสูง
มีงานค้นคว้าวิจยที่ศึกษาเล่าเรียนกลุ่มของตัวอย่างคนจีนเกี่ยวกับการดื่มชาเขียวที่มีประสิทธิผลต่อสภาวะความดันเลือดสูงพบว่าคนที่ดื่มชาเขียวบ่อยๆทุกวี่ทุกวันในจำนวน 120-599 มล. บางทีอาจช่วยลดการเสี่ยงสำหรับในการเกิดภาวะความดันเลือดสูงได้ โดยการวิเคราะห์งานศึกษาค้นคว้าบอกผลลัพธ์ที่ว่า ชาเขียวบางทีอาจสามารถลดความดันซิสโตลิกได้สูงสุดถึง 3.2 มม.ปรอท ตอนที่ช่วยลดความดันไดแอสโตลิกได้สูงสุดถึง 3.4 มม.ปรอท ในคนที่มีสภาวะความดันเลือดสูง แล้วก็คนที่มีร่างกายแข็งแรงทั่วๆไป
อย่างไรก็แล้วแต่ มีงานทดสอบขนาดเล็กเยอะมากที่สรุปว่าชาเขียวไม่มีความเกี่ยวเนื่องกับการลดความดันเลือดอะไร ด้วยเหตุผลดังกล่าว ควรต้องมีการทำการศึกษาในด้านนี้ถัดไป เพื่อหาหลักฐานรวมทั้งหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่กระจ่างแจ้งเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีคุณประโยชน์ในทางการแพทย์ถัดไปในอนาคต
โรคกระดูกพรุน
มีงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยหนึ่งสำนักงานทดสอบเกี่ยวกับประสิทธิผลของการบริโภคชาเขียว ได้พรีเซ็นท์ผลที่ว่า การดื่มชาเขียวอย่างสม่ำเสมอตรงเวลา 10 ปี บางทีอาจสมาคมกับการเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก ซึ่งมีประโยชน์ในทางคุ้มครองปกป้องและก็รักษาโรคกระดูกพรุน
ในเวลาที่อีกงานศึกษาเรียนรู้หนึ่งซึ่งกระทำทดสอบในกลุ่มทดลองผู้หญิงวัยหมดระดู พบว่าการบริโภคชาเขียวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระค้างเทเคยชินจำนวน 500 มก. 2 ครั้ง/วัน ตรงเวลา 24 อาทิตย์ บางทีอาจช่วยเพิ่มความแข็งแรงแก่กระดูกได้
แม้ว่าจะมีหลักฐานทางการศึกษาค้นคว้ามากไม่น้อยเลยทีเดียวที่เกื้อหนุนประสิทธิผลของชาเขียวในด้านนี้ การศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยทดสอบถึงคุณภาพแล้วก็คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากชาเขียวก็ควรจะเดินต่อไป เพื่อได้ข้อมูลที่กระจ่างแจ้งรวมทั้งมีประโยชน์เพิ่มมากขึ้น
ข้อสมมติที่ยังพิสูจน์มิได้
การปกป้องการเกิดโรคมะเร็ง
เมื่อพินิจพิจารณารายงานการวิจัยที่มีฝูงคนกว่า 1.6 ล้านคน พบว่าไม่มีหลักฐานที่เกื้อหนุนแนวความคิดที่ว่า การบริโภคชาเขียวมีคุณภาพสำหรับการต้านทานหรือคุ้มครองการเกิดโรคมะเร็งบางประเภท อย่างโรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งปอด หรือโรคมะเร็งในโพรงปากได้อะไร เครื่องพิสูจน์ถึงประสิทธิผลในด้านนี้ยังคงไม่แน่ชัดคลุมเครือและก็จะต้องมีการศึกษาวิจัยถัดไปในอนาคต อย่างไรก็ตาม งานศึกษาค้นคว้าวิจัยส่วนมากแสดงถึงความปลอดภัยสำหรับในการบริโภคชาเขียวที่ว่า ถ้าบริโภคชาเขียวในจำนวนที่พอดิบพอดีจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆก็ตามแก่ผู้ใช้
แนวทางการเผาผลาญเปลี่ยนสาร (Oxidative Metabolism)
มีงานทดสอบหนึ่งที่เรียนรู้สภาพการณ์เครียดจากความเคลื่อนไหวสารภายในร่างกายของฝูงคนสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงในขณะพักรวมทั้งบริหารร่างกาย พบว่าการบริโภคสารสกัดชาเขียวเกิดผลดีต่อกระบวนการเผาพลังงานภายในร่างกายชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนสารในเซลล์ผ่านทางกลไก แคทิคอล-โอ-เมทิลทรานสเฟอเรส (Catechol-O-methyltransferase Mechanism) อีกทั้งในระหว่างที่ร่างกายพักรวมทั้งช่วงเวลาที่กำลังบริหารร่างกาย
พูดอีกนัยหนึ่ง สารค้างเทคุ้นชินในชาเขียว อาจมีผลดีสำหรับการเผาผลาญพลังงานทั้งยังในขณะที่ร่างกายอยู่ในขณะพักและก็ในขณะการบริหารร่างกายได้ อย่างไรก็แล้วแต่ ข้อสมมตินี้ยังไม่มีหลักฐานเกื้อหนุนที่พอเพียง ควรจะมีการดำเนินงานค้นคว้าศึกษาค้นคว้าถัดไปเพื่อหาสิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์ที่แจ่มกระจ่างในด้านนี้ในอนาคต
ต้านทานการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น
งานศึกษาเรียนรู้วิจัยเกี่ยวกับการใช้สารสกัดจากชาเขียวโดยการทาเฉพาะจุดที่อาจมีสมรรถนะต้านทานการเกิดริ้วรอยบนผิวหนัง คำตอบที่ได้เป็นแนวทางการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียวอาจมีคุณลักษณะที่ช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้
อย่างไรก็แล้วแต่ งานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยนี้ยังคงขาดหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่น่าไว้วางใจพอเพียงจะส่งเสริมบทสรุปดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว จะต้องมีการดำเนินงานค้นคว้าศึกษาค้นคว้าเพื่อหาสิ่งที่ใช้พิสูจน์ที่กระจ่างในด้านนี้ถัดไปในอนาคตเหมือนกัน
การควบคุมน้ำหนักตัว
งานค้นคว้าวิจัยหนึ่งที่เรียนรู้เกี่ยวกับประสิทธิผลของการกินอาหารเสริมชาเขียวในระยะยาวในกรุ๊ปสตรีวัยหมดระดูที่มีภาวการณ์อ้วนหรือมีน้ำหนักตัวเกิน พบว่าสารสกัดจากชาเขียวที่สกัดเอาคาเฟอีนออกไปไม่เป็นผลต่อการลดหุ่น หรือค่าความหนาแน่นของกระดูก แต่ว่าสารสกัดจากชาเขียวบางทีอาจมีผลต่อการลดรูปทรงไขมันที่บั้นท้ายและก็ต้นขาในหญิงได้
ส่วนอีกหนึ่งการทดสอบที่ให้หญิงวัยหมดระดูที่มีภาวการณ์อ้วนแล้วก็น้ำหนักเกินบริโภคชาเขียวดีแคฟ พบว่าสารสกัดจากชาเขียวแบบดีแคฟไม่มีความข้องเกี่ยวกับการลดความอ้วนตัว ดรรชนีมวลกาย หรือความยาวของเส้นรอบเอวอะไร ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรก็แล้วแต่ที่มีความนัยสำคัญที่ต่างกันในกลุ่มทดลองและก็กรุ๊ปควบคุมที่กินยาหลอก ในขณะชาเขียวในรูปสารสกัดทั่วๆไปบางทีอาจช่วยลดความเข้มข้นของอินซูลินที่บางทีอาจชมรมกับการลดน้ำตาลในเลือดแล้วก็ลดความอ้วนตัว
แต่ว่าจากการวิเคราะห์งานศึกษาค้นคว้าที่เกี่ยวพันในหลายๆกรณีศึกษา พบว่าชาเขียวบางทีอาจมีผลต่อการควบคุมน้ำหนักตัวได้น้อยมากและไม่มีความนัยสำคัญที่ส่งผลทางด้านการแพทย์อะไร และก็ในตอนนี้ก็ยังคงไม่มีหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์จากงานทดสอบอะไรก็แล้วแต่ที่ช่วยเหลือประสิทธิผลทางด้านนี้ได้อย่างเห็นได้ชัด โดยเหตุนี้ จำเป็นต้องมีการทำการวิจัยถึงประสิทธิผลในด้านนี้ถัดไปในอนาคต
การปกป้องการต่อว่าดไข้หวัดใหญ่
สำหรับเพื่อการทดสอบหาประสิทธิผลของชาเขียวในน้ำยาบ้วนปาก ในด้านการคุ้มครองป้องกันการต่อว่าดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ซึ่งกระทำทดสอบในเด็กนักเรียนระดับชั้นม. ปลาย ในตอนช่วงเวลา 3 เดือนที่มีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ ผลของการทดสอบพบว่า เมื่อเปรียบผู้เรียนในกลุ่มของตัวอย่างที่ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของชาเขียวกับผู้เรียนในกรุ๊ปควบคุมที่ใช้น้ำดื่มบ้วนปากนั้น ไม่เจอประสิทธิผลที่สำคัญในเชิงการคุ้มครองป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ต่างกันอย่างเป็นจริงเป็นจังอะไร จำเป็นจะต้องมีการทดสอบค้นคว้าถัดไป ด้วยการควบคุมตัวแปรที่เกี่ยวเนื่องอย่างกรรมวิธีบ้วนปาก ฯลฯ เพื่อหาประสิทธิผลที่บางทีอาจมีคุณประโยชน์ของชาเขียวในด้านนี้
การอักเสบของผิวหนังจากรังสีอัลตร้าไวโอเลต
การทดสอบหาประสิทธิผลของสารค้างเทเคยชิน (Catechins) ในด้านการคุ้มครองการอักเสบรอบๆผิวหนังจากการรับรังสีอัลตร้าไวโอเลต ด้วยการให้กลุ่มทดลองซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงในวัย 18-65 ปี กินสารค้างเทเคยชินจากชาเขียวร่วมกับวิตามินซี ผลของการทดสอบพบว่า สารค้างเทเคยชินในชาเขียวที่บริโภคร่วมกับวิตามินซี มิได้ส่งผลอย่างเป็นจริงเป็นจังสำหรับการช่วยลดการเกิดผื่นแดง การสั่งสมของเม็ดเลือดขาวที่ผิวหนังซึ่งแสดงถึงการอักเสบ หรือปฏิกิริยาของสารเอวัวซานอยด์ (Eicosanoids) ที่บอกถึงการอักเสบจากการรับรังสีอัลตร้าไวโอเลต
อาการไอและก็มีเสียงแหบ
จากการทดสอบหาประสิทธิผลของน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของชาเขียวต่อภาวการณ์อาการไอ แล้วก็สภาวะมีเสียงแหบในคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดบายพาสเส้นโลหิตหัวใจ เป็นปริมาณทั้งหมดทั้งปวง 4 ครั้ง ใน 24 ชั่วโมง ผลสรุปเป็น ไม่ได้แตกต่างอย่างเป็นจริงเป็นจังในผู้ทดลองอีกทั้งกลุ่มของตัวอย่างแล้วก็กรุ๊ปควบคุมในด้านการลดสภาวะอาการเสียงแหบข้างหลังการใส่ท่อช่วยหายใจ แต่ว่าในด้านการลดอาการไอข้างหลังการใส่ท่อช่วยหายใจ ผู้ทดลองในกลุ่มทดลองมีการไอน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปควบคุมที่มิได้บ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของชาเขียว
หากแม้มีหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์ในด้านสมรรถนะของชาเขียวต่อการดูแลรักษาดูแลรักษาสุขภาพร่างกายบางประการ แต่ว่ายังคงมีหลักฐานจากการทดสอบนิดหน่อยที่ไม่ชัดเจนหรือขัดแย้งกัน ฉะนั้น การดำเนินงานทดสอบค้นคว้าหาประสิทธิผลในด้านต่างๆของชาเขียวถัดไปก็เลยเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อหาหลักฐานที่เด่นชัดอันเป็นผลดีทางด้านการแพทย์รวมทั้งสุขภาพของมนุษย์ถัดไปในอนาคต
ความปลอดภัยสำหรับในการบริโภคชาเขียว
คนซื้อทั่วๆไป
สำหรับลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่ทั่วๆไป การบริโภคชาเขียวสำหรับดื่มในจำนวนที่พอดิบพอดี จะไม่กระตุ้นให้เกิดผลกระทบที่เกิดอันตรายอะไรก็แล้วแต่ต่อร่างกาย โดยจำนวนชาเขียวที่สมควรสำหรับเพื่อการบริโภคต่อวันเป็นไม่เกิน 2-3 ถ้วย เพื่อเลี่ยงการรับสารคาเฟอีนไปสู่ร่างกายไม่ให้เกิน 300 มก.ต่อวัน ด้วยเหตุว่าบางทีอาจเป็นผลกระทบที่ทำให้เป็นอันตรายต่อสถาพทางร่างกายได้ ถ้าบริโภคเกินจำนวนดังที่กล่าวถึงมาแล้ว
โดยปกติ การทาครีมขี้ผึ้งชาเขียวในช่วงเวลาสั้นๆการใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของชาเขียว หรือการบริโภคสารสกัดชาเขียวในจำนวนที่สมควร จะไม่นำไปสู่ผลกระทบที่เกิดอันตรายใดๆก็ตามต่อร่างกาย ถ้าเกิดใช้ต่อเนื่องกันไม่เกิน 2 ปี
การบริโภคหรือใช้สินค้าจากชาเขียวทางปากในจำนวนมากหรือในระยะยาว อาจก่อให้เป็นผลใกล้กันจากสารคาเฟอีนได้ ตั้งแต่ระดับความร้ายแรงน้อยไปจนกระทั่งระดับร้ายแรงมากมายในบางราย ยกตัวอย่างเช่น ปวดศรีษะ กระวนกระวาย นอนไม่หลับ อ้วก ท้องไส้ป่วนปั่น ท้องผูก ท้องเดิน รำคาญง่าย ใจเต้นแรง มือสั่น แสบร้อนกึ่งกลางอก มึนหัว มีเสียงในหู กล้ามเกร็งหรือกระตุก หรือรู้สึกงงงัน ฯลฯ
การดื่มชาเขียวในจำนวนมากอาจจะก่อให้ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตจากสารคาเฟอีนได้ โดยในชาเขียวทั่วๆไปมีจำนวนคาเฟอีนโดยประมาณ 2-4% ขณะที่ระดับสารคาเฟอีนที่ทำให้เป็นอันตรายต่อชีวิตอยู่ที่ราวๆ 10-14 กรัม (150-200 มก./กิโล) อย่างไรก็แล้วแต่ ภาวการณ์เป็นพิษจากการรับสารคาเฟอีนสามารถเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการรับสารในจำนวนดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น หรือในจำนวนที่น้อยกว่าก็บางทีอาจเกิดขึ้นได้เหมือนกัน
ชาเขียวบางทีอาจลดจำนวนการดูดซึมธาตุเหล็กจากของกินได้
สารสกัดชาเขียวบางทีอาจเป็นโทษต่อตับได้
คนที่ต้องระวังเป็นพิเศษ
เด็ก: โดยปกติ ถ้าเด็กบริโภคชาเขียวในจำนวนที่สมควรจากการกินอาหารรวมทั้งเครื่องดื่ม หรือแม้ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของชาเขียว 3 ครั้งต่อวัน โดยไม่ใช้ต่อเนื่องกันเกิน 3 เดือน จะไม่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดผลกระทบที่ทำให้เป็นอันตรายอะไรก็ตามต่อร่างกาย
คนที่มีท้อง/คนที่ให้นมลูก: ควรจะบริโภคชาเขียวในจำนวนน้อย เพื่อเลี่ยงการเกิดผลกระทบจากคาเฟอีนในชาเขียว โดยจำนวนที่สมควรหมายถึงไม่เกิน 2 ถ้วยต่อวัน แม้เกินจำนวนดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น บางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงรวมทั้งนำมาซึ่งการก่อให้เกิดผลกระทบที่เป็นโทษต่อทารกในท้องได้ อย่างเช่น การแท้งลูก สภาวะทุพพลภาพโดยกำเนิด หรือในคนที่กำลังให้นมลูก คาเฟอีนบางทีอาจถูกส่งผ่านทางเรือนมและก็มีอันตรายต่อทารกแรกเกิดได้เหมือนกัน
คนป่วย: เพราะต้นสายปลายเหตุทางสุขภาพ คนที่กำลังเจ็บป่วยหรือมีโรคประจำตัวควรรอบคอบเป็นอย่างยิ่งสำหรับเพื่อการบริโภคของกินชนิดใดก็ตาม และก็การบริโภคชาเขียวหรือสินค้าที่ทำมาจากชาเขียวด้วยเหมือนกัน เพื่อคุ้มครองป้องกันปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพแล้วก็ผลกระทบที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคชาเขียว แล้วก็การได้รับสารคาเฟอีน ได้แก่
อาการบางทีอาจกำเริบเสิบสานหรือทรุดหนักลงได้ในคนไข้โลหิตจาง แล้วก็คนที่มีภาวการณ์กังวล
เพิ่มการเสี่ยงสภาวะมีเลือดออกในคนป่วยที่มีภาวการณ์เลือดออกไม่ดีเหมือนปกติ
อาจจะเป็นผลให้หัวใจเต้นไม่ปกติในผู้เจ็บป่วยโรคหัวใจ
บางทีอาจมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดในคนไข้เบาหวาน
อาจก่อให้อาการท้องเสียทรุดหนักลงไปอีก ufabet
ข้างหลังการบริโภคชาเขียว อาจส่งผลให้ความดันดวงตาในคนไข้โรคต้อหินมากขึ้นได้ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ราวๆ 30-90 นาที
บางทีอาจเพิ่มความดันเลือดในคนที่มีความดันเลือดสูง
อาจจะก่อให้อา