UFABET

ไตรกลีเซอไรด์สูง : เสี่ยงโรคหัวใจ แล้วก็ โรคมะเร็งเต้านม


ไขมันประเภทนี้ เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเสื่อมของเส้นเลือดแดง นำมาซึ่งโรคเส้นเลือดหัวใจ โรคหัวใจขาดเลือด อัมพาต อัมพฤกษ์ ได้เหมือนกับการมีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ไตรกลีเซอไรด์จำนวนสูงทำให้เลือดข้นเหนียวขึ้น มีการจับกันเป็นลิ่มแล้วก็อุดเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย โดยยิ่งไปกว่านั้นหัวใจแล้วก็สมอง


ระดับไตรกลีเซอไรด์ที่สูงมากมายๆอาจก่อให้กำเนิดโรคตับอ่อนอักเสบได้ ในเพศหญิงระดับไตรกลีเซอไรด์ที่สูง ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านมสูงมากขึ้นด้วย เพราะว่าไตรกลีเซอไรด์ที่สูง จะไปกระตุ้นให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ไหลเวียนอยู่สูงมากขึ้นด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สำคัญของการเป็นโรคมะเร็งเต้านม



7 แนวทางลดเสี่ยงจากไตรกลีเซอไรด์


ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดธรรมดาไม่สมควรเกิน 150 มก.ต่อดล. รวมทั้งหากพบว่าสูงเกินไปกว่า 200 มก.ต่อดล. ควรจะควบคุมโดยการควบคุมของกิน โดยเฉพาะของกินชนิดแป้งแล้วก็น้ำตาล ของกินที่มีไขมันมากมาย และก็งดเว้นดูดบุหรี่ รวมทั้งลดการบริโภคแอลกอฮอล์ทุกหมวดหมู่ และก็ถ้าเกิดคุณเป็นอีกผู้ที่ต้องการลดการเสี่ยงกับการมีไตรกลีเซอไรด์สูง ก็ควรจะปรับไสฟ์สไตล์แล้วก็ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายตนเองดังต่อไปนี้จ้ะ


1. ระวังแป้งรวมทั้งน้ำตาล


ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงไม่ปกติ เกิดขึ้นจากการได้รับพลังงานหรือแคลอรีมากจนเกินความจำเป็น การกินอาหารหวาน หรือรับประทานอาหารที่ทำมาจากแป้งมากเกินความจำเป็นทำให้ร่างกายสร้างไตรกลีเซอไรด์แล้วขับ ไปสู่กระแสโลหิตมากจนเกินไป จำเป็นจะต้องลดจำนวนของกินที่ให้แคลอรี่สูง ดังเช่น อาหารหวานหรือของกินที่มีน้ำตาลมากมาย รวมทั้งของกินชนิดแป้งด้วย หรือบางครั้งก็อาจจะเลือกรับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน หรือชนิดที่มีกากใยอาหาร ดังเช่นว่า ข้าวกล้อง ธัญญาหารไม่ขัดสีแทนของกินพวกแป้งขัดสีที่รับประทานอยู่เป็นประจำก็ได้เหมือนกัน


2. ครบ 3 มื้อ


ไม่สมควรงดเว้นของกินมื้อใดมื้อหนึ่ง โดยยิ่งไปกว่านั้นมื้อรุ่งเช้า ควรจะรับประทานมื้อตอนเช้าให้อิ่ม เพราะว่าพลังงานที่ได้จากมื้อเช้าตรู่จะถูกเอาไปใช้สำหรับในการทำกิจกรรมต่างๆทั้งวัน การกินข้าวเช้าให้พลังงานโดยประมาณ 1 ใน 4 ของพลังงานที่ร่างกายอยากได้ใน 24 ชั่วโมง ซึ่งพอๆกับจำนวนพลังงานที่ควรจะได้รับในมื้อเย็น ที่เหลือราวกึ่งหนึ่งควรจะได้จากมื้อกลางวัน และก็ของว่างมื้อเล็กๆการทานอาหารแบบงี้จะก่อให้ไม่มีพลังงานเหลือนำไปสร้างเป็นไตรกลีเซอไรด์ได้


3. ถูกรูปทรง


ของกินแต่ละมื้อ ต้องมีรูปทรงของโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และก็ไขมันในจำนวนเหมาะสม ไม่สมควรรับประทานอาหารพวกนี้มากจนเกินไป ควรจะหลบหลีกของกินไขมันสูง เนื้อสัตว์ติดมัน ยิ่งไปกว่านี้ควรจะรับประทานปลา ผักผลไม้ แล้วก็ของกินที่มีกากใยให้ได้ครบในทุกๆวัน


4. ควบคุมไขมัน


การลดของกินไขมัน ช่วยให้ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดต่ำลงได้ ด้วยเหตุนั้นจะต้องเลี่ยงของกินทอดหรือผัดที่ใช้น้ำมันมากมายสำหรับในการเตรียมอาหาร รวมถึงไขมันจากของกินต่างๆดังเช่นว่า เนย มาการีน น้ำมันพืช น้ำกะทิ หรือไขมันสัตว์ เว้นเสียแต่ไขมันจากปลาสมุทรที่มีกรดไขมันโอเมกา 3 (omega-3)


จากการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยพบว่า กรดไขมันโอเมกา ช่วยลดการสังเคราะห์ไตรกลีเซอไรด์ในตับได้ โดยเหตุนี้คนไหนกันแน่ที่มีปัญหาไตรกลีเซอไรด์สูง แม้ได้รับประทานปลาสมุทร ไม่สมควรทอดนะคะ ควรจะปรุงด้วยแนวทางนึ่ง 2-3 มื้อต่ออาทิตย์ จะช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้ออกจะดี


5. งดเว้นยาสูบแล้วก็แอลกอฮอล์


การสูบยาสูบรวมทั้งกินเหล้าหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จะไปกระตุ้นตับให้ผลิตไตรกลีเซอไรด์มากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งยังเป็นเหตุให้การเปลี่ยนที่ไขมันออกมาจากเลือดได้ช้ากว่าธรรมดาด้วย เพราะฉะนั้นควรจะงดเว้นดูดบุหรี่ งดเว้นการดื่มเบียร์สด สุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่างๆ


6. ควบคุมน้ำหนักตัว


สภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง ยังมักพบในคนอ้วน โดยเฉพาะอ้วนแบบอ้วนน้ำกะทิ ด้วยเหตุดังกล่าวถ้าเกิดมี ufabet น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ควรจะเพียรพยายามลดความอ้วนตัวลงบ้าง มิได้แสดงว่าจำเป็นต้องผอมเกร็งอย่างนางแบบนะคะ เพียงพากเพียรลดหุ่นตัวลงให้ได้ปริมาณร้อยละ 5-10 จากน้ำหนักเดิม แล้วก็การลดความอ้วนที่เหมาะสมที่สุดเป็น การควบคุมจำนวนของกิน ร่วมกับการบริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอจ้ะ


7. ระวังยา


การกินยาบางประเภท อาจส่งผลให้ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงมากขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น ยาขับฉี่ ไธอาไซด์ ฮอร์โมนผู้หญิง ยาคุมบางจำพวก ถ้าหากจำเป็นต้องรับประทานยากลุ่มนี้ควรจะขอความเห็นหมอ รวมทั้งมีการตรวจระดับไตรกลีเซอไรด์อย่างสม่ำเสมอ


8. บริหารร่างกาย


ควรจะกระทำตนกระปรี้กระเปร่าอยู่เป็นประจำ การได้บริหารร่างกายระดับปานกลาง วันละอย่างต่ำครึ่งชั่วโมง 3-4 วันต่ออาทิตย์ จะช่วยเผาผลาญแคลอรีได้อย่างมีคุณภาพ หรือถ้าเกิดว่าไม่มีโอกาสได้ไปบริหารร่างกายอย่างเป็นจริงเป็นจัง การเดินหรือทำงานบ้านให้ได้เหงื่อสักบางส่วนแต่ละวันนั้นดีแล้วต่อร่างกาย และก็ช่วยคุ้มครองป้องกันได้อีกหลายโรคเลยล่ะจ้ะ