รูปแบบ ยาแคปซูล
สรรพคุณ
บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ
ขนาดและวิธีใช้
รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม - 1 กรัม วันละ 3 ครั้ง หลังอาหารทันที
ข้อห้ามใช้
ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์
คำเตือน
ระวังการใช้ในผู้ป่วยโรคแผลเปื่อยเพปติก เนื่องจากเถาวัลย์เปรียงออกฤทธิ์คล้ายยาแก้ปวดกลุ่มยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่ สเตียรอยด์ (Nonsteroidal Anti-Inflammatory Drugs: NSAIDs)
อาจทำให้เกิดการระคายเคืองระบบทางเดินอาหาร
อาการไม่พึงประสงค์
ปวดท้อง ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย คอแห้ง ใจสั่น
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ประสิทธิผลของการใช้ยาเถาวัลย์เปรียงในผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อม (จุไรรัตน์ คงล้อมญาติและ รัตติกาล คุณพระ, 2562)
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลของเถาวัลย์เปรียงเทียบกับยา Diclofenac ในการรักษาผู้ป่วยสูงอายุที่มีภาวะข้อเข่าเสื่อม ผู้ป่วยที่ผ่านเกณฑ์การคัดเข้าจำนวน 60 คน ถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 30 คนกลุ่มแรกได้รับยา Diclofenac ขนาด 25 มก. วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร เป็นเวลา 10 วัน และกลุ่มที่ 2 ได้รับผงเถาวัลย์เปรียงแคปซูลขนาด 500 มก. วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร เป็นเวลา 10 วัน ทำการประเมินคุณภาพชีวิตด้วยแบบสอบถาม WOMAC พบว่า เถาวัลย์เปรียงมีประสิทธิผลในการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย และเมื่อเปรียบเทียบประสิทธิผลกับ Diclofenac พบว่าไม่มีความแตกต่างกันของค่าเฉลี่ย WOMAC ข้อฝืดและยึด และความสามารถในการใช้งานข้อเข่าระหว่างผู้ป่วยได้รับยา แต่พบว่า Diclofenac สามารถลดความปวดได้ดีกว่าเถาวัลย์เปรียงอย่างมีนียสำคัญทางสถิติ ด้านอาการไม่พึงประสงค์ พบว่าเกิดอาการระคายเคียงกระเพาะอาหารในผู้ป่วยที่ได้รับ Diclofenac ร้อยละ 7.14 แต่ไม่พบในผู้ป่วยที่ได้รับเถาวัลย์เปรียง
อ้างอิง
จุไรรัตน์ คงล้อมญาติ และรัตติกาล คุณพระ. ประสิทธิผลของการใช้ยาเถาวัลย์เปรียงในผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อม. วารสารสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย 2562; 9(3): 304-312
บัญชียาหลักแห่งชาติ.(2556).บัญชียาจากสมุนไพร. สืบค้นเมื่อ 24 พฤษภาคม 2564 , จาก https://kpo.go.th/webkpo/tool/Thaimed2555.pdf