รูปแบบ ยาน้ำ
สรรพคุณ
บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ
ขนาดและวิธีใช้
จิบเมื่อมีอาการไอ ทุก 4 ชั่วโมง
ข้อห้ามใช้
ห้ามใช้ในผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตามในเลือดได้
คำเตือน
ระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ท้องเสียง่าย เนื่องจากมะขามป้อมมีฤทธิ์เป็นยาระบาย
บทความวิชาการ
รสและสรรพคุณตามตำรายาไทยของมะขามป้อมระบุว่า ผลมีรสเปรี้ยวอมฝาด ใช้เป็นยาบำรุง ทำให้ สดชื่น แก้กระหายน้ำ แก้ไอ แก้หวัด กระตุ้นน้ำลาย ละลายเสมหะ ช่วยระบาย ขับปัสสาวะ แก้เลือดออกตาม ไรฟัน และแก้คอแห้ง โดยมีวิธีเตรียมสำหรับใช้รักษาอาการไอและขับเสมหะแบบง่าย คือ ใช้เนื้อผลแก่สด ครั้งละประมาณ 2-3 ผล โขลกพอแหลก เติมเกลือเล็กน้อย อมหรือเคี้ยวรับประทานวันละ 3-4 ครั้ง ซึ่งรายงานการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนฤทธิ์แก้ไอของมะขามป้อมจากการสืบค้นข้อมูลพบว่า การป้อน สารสกัดเอทานอลของผลมะขามป้อมขนาด 200 มก./กก. ให้แก่แมวที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดอาการไอ โดยทำให้ระคายเคืองบริเวณเยื่อบุทางเดินหายใจและหลอดลม มีผลลดจำนวนครั้ง ลดความแรงของการไอ และลดการหลั่งของสารเยื่อเมือก (mucous) ในช่องทางเดินหายใจได้ ในการศึกษาความเป็นพิษพบว่า การป้อนสารสกัดเอทานอลและน้ำ (1:1) จากผลมะขามป้อมให้แก่ หนูเม้าส์ขนาด 10 ก./กก. ไม่ก่อให้เกิดอาการเป็นพิษ และการฉีดเข้าใต้ผิวหนังพบว่าขนาดที่ทำให้สัตว์ทดลอง ตายเป็นจำนวนครึ่งหนึ่ง (LD50) มีค่าเท่ากับ 4.8 ก./กก. และการศึกษาเกี่ยวกับการเกิดอันตรกิริยาต่อ ยาแผนปัจจุบัน (drug interaction) พบว่าสารสกัดน้ำจากผลมะขามป้อมมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์cytochrome P450 หลายชนิดได้แก่ CYP1A2, CYP2C9, CYP2D6, CYP2E1 และ CYP3A4 และมีผลเสริมฤทธิ์ยารักษา โรคเบาหวาน metformin และยาต้านเกล็ดเลือด clopidogel และ ecosprin ดังนั้น ผู้ที่รับประทาน ยากลุ่มดังกล่าวเป็นประจำควรใช้ด้วยความระมัดระวัง
อ้างอิง
บัญชียาหลักแห่งชาติ.(2556).บัญชียาจากสมุนไพร. สืบค้นเมื่อ 24 พฤษภาคม 2564 , จาก https://kpo.go.th/webkpo/tool/Thaimed2555.pdf
พิชานันท์ ลีแก้ว. (2561).สมุนไพรแก้ไอ...มะขามป้อม.สืบค้นเมื่อ 25 พฤษภาคม 2564, จาก http://medherbguru.gpo.or.th/articles/D30_Emblica.pdf