รูปแบบ ยาแคปซูล
สรรพคุณ
บรรเทาอาการแน่นจุกเสียด ท้องอืด ท้องเฟ้อ
ขนาดและวิธีใช้
รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม - 1 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน
คำเตือน
ระวังการใช้ในผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดี ยกเว้นภายใต้การดูแลของแพทย์
ระวังการใช้ในหญิงตั้งครรภ์ ยกเว้นภายใต้การดูแลของแพทย์
ระวังการใช้ในเด็ก เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลด้านประสิทธิผลและความปลอดภัย
ระวังการใช้ร่วมกับสารกันเลือดเป็นลิ่ม (anticoagulants) และยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด (antiplatelets)
ระวังการใช้ร่วมกับยาที่กระบวนการเมแทบอลิซึม ผ่านเอนไซม์ Cytochrome P450 (CYP) เนื่องจากสาร Curcumin ยับยั้ง CYP3A4, CYP1A2 แต่กระตุ้นเอนไซม์ CYP2A6
ระวังการใช้ร่วมกับ ยารักษาโรคมะเร็งบางชนิด เช่น Doxorubicin, Chlormethine, Cyclophosphamide และ Camptothecin เนื่องจาก Curcumin อาจมีผลต้านฤทธิ์ยาดังกล่าว
อาการไม่พึงประสงค์
ผิวหนังอักเสบจากการแพ้
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ทบทวนงานวิจัยสมุนไพรไทยการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย (ฉัตรชัย สวัสดิไชย และสุรศักดิ์ อิ่มเอี่ยม, 2559)
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของขมิ้นชัน
1.ฤทธิ์ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
2.ฤทธิ์ต้านการอักเสบ
3.ฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้
4.ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
5.ฤทธิ์ป้องกันการเกิดมะเร็งและต้านมะเร็ง
6.ฤทธิ์ต้านการเกิดโรคความจำเสื่อม
7.ฤทธิ์ต้านความซึมเศร้า
คุณประโยชน์และฤทธิ์ทางชีวภาพที่หลากหลายของสมุนไพรขมิ้นชัน (ชัชวาล ช่างทำ, 2558)
ขมิ้นชันเป็นพืชที่คนไทยใช้เป็นสมุนไพรมาตั้งแต่อดีต โดยส่วนใหญ่ใช้เหง้าของขมิ้นมาทำเป็นยาพื้นบ้านรักษาโรค ทำสีย้อมผ้า และเป็นเครื่องปรุงในอาหาร ปัจจุบันมีการนำผงขมิ้นชันมาใช้ประโยชน์ในหลายด้าน เช่น เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางต่าง ๆ อาหาร และผลิตเป็นแคปซูลรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น พบว่าสารสำคัญที่อยู่ในเหง้าของขมิ้นชันที่แสดงฤทธิ์ทางเภสัชวิทยามีอยู่ 2 ชนิด คือ น้ำมันหอมระเหยและสารเคอร์คิวมินอยด์ ขมิ้นชันจึงเป็นสมุนไพรที่ทำให้นักวิจัยทั่วโลกสนใจนำส่วนสกัดขมิ้นชันและสารเคอร์คิวมินอยด์มาศึกษาฤทธิ์ทางชีวภาพที่หลากหลายเพิ่มขึ้น เช่น ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต้านการอักเสบ ฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ ฤทธิ์ต้านมะเร็ง ฤทธิ์ต้านเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์ และยังนำไปศึกษาทางด้านเกษตรอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการนำสารเคอร์คิวมินอยด์มาเป็นต้นแบบในการพัฒนาโครงสร้างให้ได้สารชนิดต่างๆ เพื่อเพิ่มฤทธิ์ทางชีวภาพให้สูงขึ้น ดังนั้นขมิ้นชันจึงเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากและเป็นที่ต้องการของหลาย ๆ ประเทศ ประเทศไทยมีการนำเข้าและส่งออกขมิ้นชันแต่ยังไม่มากนัก อาจเนื่องมาจากปัญหาเรื่องของการผลิตและการแปรรูปยังมีน้อย รวมทั้งการเกิดผลข้างเคียงจากการบริโภค จึงต้องมีการศึกษาและค้นคว้าวิจัยต่อไป
อ้างอิง
ฉัตรชัย สวัสดิไชย และสุรศักดิ์ อิ่มเอี่ยม. "ทบทวนงานวิจัยสมุนไพรไทยการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย". วารสารศูนย์การศึกษาแพทยทศาสตร์คลินิก
โรงพยาบาลพระปกเกล้า 2559; 33(3): 265-270
ชัชวาลย์ ช่างทำ. คุณประโยชน์และฤทธิ์ทางชีวภาพที่หลากหลายของสมุนไพรขมิ้นชัน. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ 2558;
1(2): 94-109
บัญชียาหลักแห่งชาติ.(2556).บัญชียาจากสมุนไพร. สืบค้นเมื่อ 24 พฤษภาคม 2564 , จาก https://kpo.go.th/webkpo/tool/Thaimed2555.pdf