ตำนานบุญข้าวจี่ มโหรีกลองยาว ข้าวหอมมะลิพันธุ์ดี ถิ่นนี้เรณูใต้
ประวัติความเป็นมาตำบลเรณูใต้
ชาวผู้ไทยเมืองเรณูนครอพยพมาจากเมืองวัง ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ปัจจุบันอยู่ติดกับชายแดนประเทศสาธารณรับสังคมนิยมเวียดนาม เมื่ออพยพมาครั้งแรกนั้นพากันมาตั้งบ้านอยู่ ๓ แห่ง คือ ที่บ้านหัวขัว บ้านหนองจันทร์ และบ้านดงหวาย (คือที่ตั้งเรณูนครในปัจจุบัน) เมื่อได้รับยกเป็น “ เรณูนคร ” จึงอพยพราษฎรจากหมู่บ้านทั้งสามมารวมกันที่บ้านดงหวาย เมื่อ ร.ศ.๑๒ (พ.ศ.๒๔๔๖) พระยาสุนทรเทพกิจจารักษ์ เป็นข้าหลวงประจำธาตุพนมมาตรวจราชการที่เมืองเรณูนคร ขณะนั้นมีพระแก้วโกมล (เหม็น โกพลรัตน์ ) เป็นผู้ว่าการเมือง หลวงพหพลเหี้ยมหาญ (กิ่ง) เป็นปลัดเมือง หลวงชาญยุทธกิจ ( กา เตโช )เป็นคลังเมือง และขุนพินิจยุทธกรรม (ตูบ) เป็นกรมการเมือง พระยาสุนทรเทพกิจจารักษ์ได้รายงานต่อหลวงชาญยุทธกิจและเกลี้ยกล่อมไม่ให้บุคคลกับไปตั้งบ้านอยู่ทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง การที่ตำบลเรณูนครมีกำนันปกครอง ๙ ตำบล มีเขตแดนกว้างยาวควรจะให้เป็นอำเภอหนึ่งได้จะยกให้บ้านธาตุเป็นกิ่งอำเภอ ต่อมา พ.ศ. ๒๔๕๐ ทางราชการได้ยกเลิกการปกครองที่มีเจ้าเมือง อุปฮาด ราชวงศ์ และราชบุตรเป็นการปกครองแบบมณฑลเทศบาล ตั้งเทศบาลมีผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเป็นผู้ปกครองท้องที่เมืองเรณูนครจึงมีฐานะเป็นอำเภอ หลวงชาญยุทธกิจ (กา เตโช) เป็นนายอำเภอเรณูนคร ทางราชการเห็นว่าตำบลธาตุพนม ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงมีพระธาตุพนมเป็นปูชนียสถานทางพระพุทธศาสนา ประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงต่างเลื่อมใสศรัทธาสักการบูชาจึงย้ายที่ว่าการอำเภอเรณู-นครไปตั้งที่ตำบลธาตุพนม แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอธาตุพนม ส่วนเมืองเรณูนครถูกลดฐานะลงเป็นตำบล เริ่มแรกตำบลเรณูใต้ มีหนองบัวเป็นหลักแหล่งทำมาหากินจึงได้พากันเรียกชื่อหมู่บ้านว่าบ้านนาบัว และเมื่อปี ๒๕๓๒ ได้แยกจากตำบลเรณู มาตั้งเป็นตำบลเรณูใต้โดยมี นายชมมา หงษาโด่ เป็นกำนันคนแรก