ปราชญ์ชาวบ้าน


นางกัลยา ชิตพิทักษ์ (พี่ยา) อายุ 58 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 119/1 ม.3 บ้านวังปริง ตำบลท่าพญา
อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เป็นเกษตรกรที่ที่มีความสนใจสร้างรายได้เสริมโดยการปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน โดยใช้พื้นที่ตนเองมีอยู่เป็นพื้นที่ว่างแค่ 3 งานกว่าๆ เกือบ 1 ไร่ โดยปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน จำนวน 150 ต้น ซึ่งใช้เสาปูนซิเมนต์เพื่อเป็นค้างประคองลำต้นของพริกไทย ซึ่งเหมาะที่เกษตรกรจะปลูกเป็นอาชีพเสริม เนื่องจากพริกไทยจะออกผลปีละครั้งในช่วงต้นปี หรือช่วงหน้าแล้ง อีกทั้งยังปลูกไม่ยาก ไม่ต้องดูแลมากนัก เพราะพื้นที่ภาคใต้เป็นเขตร้อนชื้น จึงมีปัจจัยหลายอย่างเอื้อต่อการปลูกพริกไทย เพียงแค่ต้องเข้าใจเรื่องการปลูกเท่านั้น และล่าสุด พริกไทยกำลังให้ผลผลิตเต็มต้น โดยพริกไทย 1 ต้น จะสามารถผลิตเป็นพริกไทยแห้งได้เฉลี่ยประมาณ 4-5 กิโลกรัม และจำหน่ายได้ใน 2 รูปแบบ คือ เมล็ดพริกไทยดำ กิโลกรัมละ 400 บาท และเมล็ดพริกไทยขาว กิโลกรัมละ 1,000 บาท


พริกไทยปะเหลียน เป็นพริกไทยสายพันธุ์พื้นบ้านของชาวอำเภอปะเหลียน

มีเอกลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่นกว่าพริกไทยสายพันธุ์อื่นๆ ด้วยรสชาติที่เผ็ดร้อน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ฝักแน่น ทำให้ได้รับความนิยมจากร้านอาหารเป็นอย่างมาก ถือเป็นพืชแซมในสวนที่สร้างรายได้ดีอีกชนิดหนึ่ง

เทคนิคการปลูกพริกไทยทรงพุ่ม

เจ้าของสวนพริกไทยบอกว่า ตนเริ่มทดลองปลูกขยายพันธุ์พริกไทย ปลูกอยู่จำนวนไม่กี่ต้น แล้วให้ผลผลิตดีเลยปลูกเพิ่มในพื้นที่ว่างข้างบ้าน และได้ให้คำแนะนำ ว่าไม่ควรปลูกพริกสายพันธุ์อื่น ร่วมกับพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผลผลิตดี และเป็นการสร้างเอกลักษณ์และอนุรักษ์พริกไทยพันธุ์ปะเหลียนเอาไว้

ขั้นตอนการปลูกพริกไทย

1. การเตรียมภาชนะปลูก ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ในกระถางอย่างเดียว แต่ให้อาศัยความสะดวกเป็นหลัก ที่บ้านใครสะดวกอะไรก็ใช้แบบนั้น ยกตัวอย่าง การปลูกในล้อยางรถยนต์ จะเป็นล้อรถเก๋ง หรือล้อรถกระบะ ปลูกได้ทั้งหมด วิธีการปลูกเหมือนกับการปลูกลงดินแตกต่างที่การดูแล ถ้าปลูกลงในภาชนะจะดูแลง่าย กำจัดวัชพืชง่าย การให้น้ำ ปุ๋ย สามารถควบคุมได้หมด หรือหากที่บ้านทำสวนอยู่แล้วก็สามารถยกกระถางไปปลูกแซมไว้ในสวนได้เลย ถือเป็นการสร้างรายได้เพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง และเป็นการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด แต่ขอย้ำว่าการนำกระถางไปวางจำเป็นต้องใช้อิฐวางรองเป็นฐานเพื่อไม่ให้ต้นไม้อย่างอื่นเลื้อยขึ้นมาแย่งอาหารได้

2. การเตรียมดิน สามารถใช้ดินบริเวณรอบบ้านมาปลูกได้เลย ในสัดส่วน 1:1:1 ดิน 1 ส่วน แกลบเก่า 1 ส่วน และปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วน ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วนำใส่ภาชนะปลูกที่เตรียมไว้ได้เลย

3. จากนั้นนำต้นพันธุ์พริกไทยที่เสียบยอดไว้มาลงดินปลูก โดยต้นพริกไทยที่นำมาปลูกเกิดจากการเสียบยอด โดยใช้กับต้นโคลูบรินั่มเป็นต้นตอ ลักษณะคล้ายกับการเสียบยอดต้นทุเรียนที่มีต้นตอเป็นสายพันธุ์พื้นบ้านแล้วเอาต้นตอหมอนทองมาเสียบยอด

ต้นโคลูบรินั่ม เป็นต้นไม้ที่เกิดจากในป่า แล้วนำมาชำไว้ เป็นไม้เลื้อยคล้ายพริกไทย ทนต่อความแห้งแล้ง แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำได้ ทนทานต่อโรคสูง และรากจะแข็งแรงมาก

4. ปลูกเสร็จแล้วให้นำไม้มาปักค้ำยันไว้ ขนาดไม้ไม่ต้องใหญ่มาก ความสูงประมาณ 1 เมตร เพื่อประคองต้น

ขั้นตอนการดูแลรักษา

ระบบน้ำ …ใช้สายยางท่อพีอีสีดำติดตั้งแบบลอยฟ้า คืออยู่บนเสาค้างพริก ให้น้ำจนชุ่มเพราะพริกไทยค่อนข้างชอบความชื้นพอสมควร แต่ก็ไม่ชอบแดดจัดมาก พริกไทยจะชอบแดดประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ถ้าในกรณีที่ปลูกในพื้นที่โล่งแจ้งให้หาซาแรนพรางแสงมาป้องกัน แต่ถ้าปลูกแซมในสวนยางหรือสวนผลไม้ ก็ไม่ต้องใช้ซาแรน เพราะมีร่มเงาจากไม้พี่เลี้ยงพรางแสงให้อยู่แล้ว

ปุ๋ย …ที่นี่เป็นการปลูกแบบอินทรีย์ เพราะฉะนั้นปุ๋ยที่ใช้จะเป็นปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ทั้งหมด ปุ๋ยคอกจะเติมเดือนละครั้ง ปุ๋ยหมักจากผักผลไม้ หรือปุ๋ยหมักปลาทะเลใช้สลับกัน จะเติมทุก 2-3 วันครั้ง ในอัตราส่วน ปุ๋ยหมัก 1 ลิตร ต่อน้ำ 500 ลิตร

ระยะการปลูกถึงเก็บเกี่ยว …ที่สวนเริ่มปลูกพริกไทยทรงพุ่มมาเป็นระยะเวลาปีกว่า ตอนนี้เริ่มเก็บผลผลิตครั้งแรก ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ ในปีแรกทรงพุ่มอาจจะยังไม่ใหญ่มาก แต่คาดเดาด้วยสายตาแล้วหากทรงพุ่มใหญ่เต็มที่ผลผลิตจะดกมากพอสมควร เฉลี่ยจะได้ผลผลิตประมาณ 10 กิโลกรัม ต่อพุ่ม