วัดดงเกตุ
ชุมชนบ้านคลองหีบหิน
เมื่อปี พ.ศ.2521 พระชลอ ปิยปุตฺโต ได้เดินธุดงค์มาปักกรดใต้ร่มไม้ใหญ่ในเกาะดงเกตุ เห็นว่ามีความสงบเงียบเหมาะ แก่การปฏิบัติธรรมเป็นยิ่งนัก ประกอบกับญาติโยมและพุทธศาสนิกชนในระแวกนี้หากจะได้ทำบุญทำทาน ถือศีล ปฏิบัติธรรม ก็ต้องเดินเท้าลัดทุ่งไปลงเรือข้ามฟากเพื่อไปวัดต่างๆ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำในท้องถิ่นอื่น ยิ่งในฤดูฝนช่วง เข้าพรรษายิ่งทำได้ยากเป็นที่สุด ท่านกับชาวบ้านจึงได้ร่วมกันคิดก่อสร้างวัดขึ้น แต่เนื่องด้วยขาดแคลนทุนทรัพย์ และ พระภิกษุที่จะได้มาจำพรรษา จึงสร้างเป็นสำนักสงฆ์ขึ้นมาก่อนชื่อว่า “สำนักสงฆ์ปิยธรรมรัศมี” ชาวบ้านได้ใช้สำนักสงฆ์นี้ปฏิบัติกิจทางศาสนาสืบเนื่องกันตลอดมา จนมีความเจริญเติบโตทั้งสิ่งก่อสร้าง และจำนวนพุทธศาสนิกชน ผู้นำชุมชน ชาวบ้านเป็นต้น
และผู้มีจิตศรัทธาจึงได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์เพื่อซื้อที่ดิน และขออนุญาตก่อสร้างวัดขึ้นในปี พ.ศ.2525 จนได้รับอนุญาตสร้างวัดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2525 มีนายบุญเพิ่ม โกพุฒห้อย เป็นผู้ขออนุญาต โดยสมเด็จพระสังฆราชได้พระราชทานนามว่า “วัดดงเกตุ” ตามชื่อหมู่บ้านที่วัดตั้งอยู่ ต่อมาได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.2532 คือที่ดินที่แยกต่างหากจากที่ดินของบ้านเมือง เป็นเขตที่พระเจ้าแผ่นดินของไทย พระราชทานแก่พระสงฆ์เป็นการเฉพาะเพื่อใช้สร้างอุโบสถโดยประกาศเป็นพระบรมราชโองการ วัดที่ได้รับ พระราชทานวิสุงคามสีมาถือว่าเป็นวัดที่ถูกต้องและมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย ปัจจุบันมีพระสมุห์สายชล กิตฺติสาโร เป็นเจ้าอาวาส
วัดดงเกตุ ตั้งอยู่เลขที่ 14/3 หมู่6 ตำบลสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม พิกัด : Latitude 13.714923031149882 Longitude 100.22137875504602 วัดดงเกตุถือเป็นศูนย์รวมจิตใจให้กับ ประชาชนในตำบลสามพรานฝั่งเกาะดงเกตุและพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากบริบทของตำบลสามพรานแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง แม่น้ำ มีแม่น้ำท่าจีนกั้นตรงกลาง โดยฝั่งหมู่บ้านเกาะดงเกตุประกอบไปด้วยหมู่ที่ 1,2,3,4,5,6 และ 9 และฝั่งเทศบาล เมืองสามพราน คือ หมู่ที่7 และหมู่ที่8 จึงทำให้วัดดงเกตุซึ่งเป็นวัดเล็กๆ มีพระสงฆ์ประมาณ 10 รูป เป็นวัด เดียวในฝั่ง เกาะ ดงเกตุที่เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลและวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาต่างๆ เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย เช่น วัน เข้าพรรษา-วันออกพรรษา วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา งานปิดทองประจำปี วันปีใหม่ และ วันสงกรานต์เป็นต้น โดย วัดดงเกตุดำเนินการจัดกิจกรรมในวันสำคัญต่างๆให้กับประชาชนทั่วไป เช่นการท าบุญตักบาตร การเวียนเทียน การ แห่เทียน งานปิดทองประจำปีงานสรงน้ำพระในวันสงกรานต์ เพื่อให้ประชาชนได้ทำบุญและแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ที่ดีวัดดงเกตุมีพื้นทั้งหมดประมาณ 5 ไร่ โดยภายในวัดดงเกตุประกอบไปด้วยพระประธานองค์ใหญ่ความสูง 3 เมตร หน้าตักกว้าง 10 เมตร ตั้งอยู่ด้านหน้าวัดและภายในวัดมีศาลาการเปรียญหลังใหญ่ 1 หลัง และมีโบสถ์ 1 หลัง มีเมรุเผาศพ 1 หลัง เพื่อใช้ประกอบพิธีสำคัญทางศาสนาต่างๆ
ต่อมาเมื่อความเจริญเข้ามาในชุมชนและมีผู้คนมาอาศัยอยู่ ในชุมชนเพิ่มมากขึ้นทำให้ศาลาการเปรียญหลังเก่าไม่มีพื้นที่มากพอสำหรับรองรับประชาชนที่เดินทางมาทำกิจกรรม ในวันสำคัญต่างๆภายในวัดประกอบกับการสภาพศาลาการเปรียญหลังเก่าที่สร้างขึ้นมาหลายปีทำให้มีสภาพเก่าและ ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ทางพระในวัดกรรมการวัดและญาติโยมจึงมีความเห็นตรงกันว่าควรสร้างศาลาการเปรียญ หลังใหม่ขึ้น จึงได้ดำเนินการทอดกฐินผ้าป่าตามแรงศรัทธาของประชาชนจึงได้จัดสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ขึ้นใน ปี พ.ศ.2559 แล้วเสร็จใน ปี พ.ศ.2562 จึงทำให้วัดดงเกตุมีศาลาการเปรียญเพิ่มขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งหลังจนถึงปัจจุบัน
ผู้เรียบเรียง/ภาพถ่าย โดย นายวรพจน์ ศรีเพ็ชร์ธาราพันธ์ ครู กศน.ตำบลสามพราน
แหล่งข้อมูลโดย Website : วัดดงเกตุ