เลี้ยงจิ้งหรีด

จิ้งหรีด เป็นแมลงที่มีลักษณะปากเป็นแบบปากกัด มีตารวม หนวดยาว ขาคู่หลังมีขนาดใหญ่และแข็งแรง เพศเมียปีกเรียบและมีอวัยวะวางไข่ยาวแหลมคล้ายเข็มยื่นออกมาจากส่วนท้อง เพศผู้มีปีกคู่หน้าย่นสามารถทำเสียงได้ จิ้งหรีดจัดเป็นแมลงชนิดหนึ่งที่พบได้ในทุกภูมิภาคของโลก โดยเฉพาะเขตร้อนอย่างประเทศไทย จิ้งหรีดมักกัดกินต้นกล้าของพืช ใบของพืช ส่วนที่อ่อนๆ เป็นอาหาร จิ้งหรีดมีหลายชนิด หลายขนาดแตกต่างกันไป พฤติกรรมลักษณะพิเศษของจิ้งหรีดที่แตกต่างจากแมลงชนิดอื่นอย่างโดดเด่นและสังเกตได้ง่ายคือ การส่งเสียงร้องและการผสมพันธุ์ที่เพศเมียจะคร่อมบนเพศผู้เสมอ

ปัจจุบันคนนิยมบริโภคจิ้งหรีดเป็นอาหาร เพราะมีโปรตีนสูง ปลอดสารพิษ ในธรรมชาติจะหาจิ้งหรีดมาเพื่อบริโภคได้ไม่มากนัก บางฤดูมีมาก บางฤดูแทบจะหาไม่ได้เลย เช่นฤดูหนาว จิ้งหรีดจะขยายพันธุ์ช้า หากมีการจัดการที่ดี จะมีจิ้งหรีดไว้บริโภคหรือจำหน่ายได้ตลอดปี

ประโยชน์ของการเลี้ยงจิ้งหรีด

1. เป็นทางเลือกหนึ่งในการประกอบอาชีพ

2. เพื่อส่งเสริมให้มีอาหารปลอดสารพิษไว้บริโภค

3. เป็นกิจกรรมยามว่าง ส่งเสริมสุขภาพจิต โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ

4. เป็นอาหารสัตว์ เช่น ไก่ กบ เป็ด ปลา และอื่น ๆ

5. ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารกระป่อง (จิ้งหรีดกระป๋อง)

6. เพื่อการกีฬา เช่น ใช้เป็นเหยื่อตกปลา

การเลี้ยงจิ้งหรีด

1. บ่อจิ้งหรีด วัสดุที่จะนำมาเป็นสถานที่เพาะเลี้ยง เช่น บ่อซีเมนต์ กาละมัง ปิ้ป โอ่ง ถังน้ำ เป็นต้น

2. เทปกาว/หรือพลาสติกใส หน้ากว้าง 2.5 นิ้ว ใช้ติดรอบในด้านบนเพื่อป้องกันไม่ให้จิ้งหรีดออกนอกบ่อ ใช้พลาสติกกว้างประมาณ 5 เซนติเมตร ให้ยาวเท่าเส้นรอบวง

3. ยางรัดปากวง ใช้ยางในรถจักรยานยนต์ ตัดให้มีขนาดกว้างน้อยกว่าขอบวงด้านนอก เพื่อความสะดวกเมื่อเวลายืดรัดตาข่ายกับขอบวง

4. ตาข่ายไนล่อนสีเขียว เป็นตาข่ายสำหรับปิดปากบ่อจิ้งหรีด ป้องกันการบินหนีของจิ้งหรีดและป้องกันศัตรูเข้าทำลายจิ้งหรีด ตัดให้มีขนาดใหญ่กว่าบ่อจิ้งหรีดเล็กน้อย

5. ที่หลบภัย ใช้เป็นที่หลบซ่อนตัว อาศัยอยู่ เช่น ถาดไข่ชนิดที่เป็นกระดาษ ไม่ไผ่ตัดเป็นท่อนๆ เข่งปลาทู

6. ถาดให้อาหาร ควรเป็นถาดที่ไม่ลึกมาก เพื่อให้จิ้งหรีดได้ขึ้นกินอาหารได้สะดวก

7. ภาชนะให้น้ำ ใช้ที่ให้น้ำสำหรับไก่เล็ก และต้องมีหินวางไว้สำหรับให้จิ้งหรีดเกาะ ไม่ตกน้ำ

8. ถาดไข่ สำหรับใช้เป็นที่วางไข่ โดยใช้ขันอาบน้ำทั่ว ๆ ไป วัสดุที่ใส่ ใช้ขี้เถ้าแกลบดำ รดน้ำให้ชุ่ม

การจัดการ

1. สถานที่เลี้ยงต้องป้องกันแสงแดดและฝนได้ อากาศถ่ายเทได้สะดวก เช่น โรงเรือนเลี้ยง ใต้ถุนบ้าน ชายคาบ้าน เป็นต้น

2. พ่อแม่พันธุ์จิ้งหรีด ได้จากจิ้งหรีดตัวเต็มวัยที่ผสมพันธุ์แล้ว โดยไม่ต้องคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ ใน 1 บ่อ มีประมาณ 8,000 ตัวแต่ต้องเปลี่ยนพ่อแม่พันธุ์จิ้งหรีดจากแหล่งอื่นมาผสมพันธุ์ป้องกันเลือดชิด

3. การขยายพันธุ์ วางถาดไข่สำหรับวางไข่ 4-6 อัน เมื่อครบ 2 วัน ย้ายถาดไข่ออกแล้ววางถาดไข่อันใหม่อีก 4-6 อัน จะได้จิ้งหรีดที่เป็นรุ่นเดียวกัน ใน 1 บ่อ สามารถวางถาดไข่ได้ 2-3 ครั้ง

4. การให้น้ำให้ดูขวดที่ใส่น้ำถ้าแห้งให้เติมใหม่ ถ้าสกปรกให้ล้างออก หรือใช้ต้นกล้วยดิบตัดเป็นท่อน ๆ แตงชนิดต่างๆ เช่น แตงกวา แตงโม น้ำเต้า ให้จิ้งหรีดดูดกินน้ำ เมื่อตัวเล็ก ๆ

5. การให้อาหาร อาหารหลักได้แก่ ผักชนิดต่าง ๆ เช่นผักกาด กะหล่ำ หญ้า มะละกอ อาหารรองใช้อาหารไก่ผสมกับแกลบอ่อน อัตรา 1:1 เมื่อจิ้งหรีดอายุ 40-50 วัน พร้อมที่จะนำมาบริโภคและจำหน่ายต่อไป

6. เมื่อจับจิ้งหรีดหมดบ่อแล้ว ให้ทำความสะอาดบ่อเลี้ยงโดยการเก็บวัสดุรองพื้นบ่อออกให้หมด ส่วนขวดน้ำ ถาดอาหาร ถาดไข่ ที่หลบภัย ทำความสะอาดสามารถนำมาใช้ได้อีกพักบ่อเลี้ยงจิ้งหรีด อย่างน้อย 7วัน

โรคและศัตรูของจิ้งหรีด

จิ้งหรีดเป็นแมลงที่ไม่ค่อยมีโรคและศัตรูมารบกวนมากนัก ควรป้องกันไว้ก่อนดีกว่าการกำจัด ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อจิ้งหรีดและผู้บริโภค

โรคทางเดินอาหาร เกิดจากจิ้งหรีดได้รับอาหารที่ไม่สะอาด เกิดเชื้อรา วิธีป้องกันคือ การให้อาหารที่มีจำนวนพอเหมาะกับจำนวนจิ้งหรีด เมื่อเก็บผลผลิตหมดแล้วควรทำความสะอาดบ่อ ก่อนนำจิ้งหรีดรุ่นใหม่มาเลี้ยง วัสดุอุปกรณ์การเลี้ยงต้องล้างฆ่าเชื้อทุกชนิด โดยฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทิ้งไว้อย่างน้อย 30 วัน แผงกระดาษที่อยู่อาศัยให้เผาทิ้ง ตัวจิ้งหรีดให้เผาทำลาย

สัตว์ศัตรู เช่น มด จิ้งจก ไร แมงมุม ป้องกันโดยใช้ตาข่ายคลุมให้มิดชิด



ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านแมลงเศรษฐกิจ จังหวัดเชียงใหม่ http://www.aopdb04.doae.go.th/thebeeflies04.htm

ผู้เลี้ยงจิ้งหรีด แม่พูน แทกระโทก

ที่อยู่ 54 ม.10 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว