ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลของครูผู้สอนระดับประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 ด้วยกระบวนการนิเทศแบบ PADREA
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลของครูผู้สอนระดับประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 ด้วยกระบวนการนิเทศแบบ PADREA
1. สภาพปัญหาของการจัดการเรียนรู้และการจัดการศึกษา
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ประกาศนโยบายและจุดเน้น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ ผ่านกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม และมีปฏิสัมพันธ์กับกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติที่หลากหลายรูปแบบ (Active Learning) มีการวัด และประเมินผลในชั้นเรียน เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะของผู้เรียน (Assessment for Learning) ทุกระดับ รวมถึง มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ทุกระดับซึ่งการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) คือ กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้ลงมือกระทำและได้ใช้กระบวนการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้กระทำลงไป เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภายใต้สมมติฐานพื้นฐาน 2 ประการคือ 1) การเรียนรู้เป็นความพยายามโดยธรรมชาติของมนุษย์, และ 2) แต่ละบุคคลมีแนวทาง ในการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน โดยผู้เรียนจะถูกเปลี่ยนบทบาทจากผู้รับความรู้ (receive) ไปสู่การมีส่วนร่วมในการสร้างความรู้(co-creators) การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) จึงเป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ทางปัญญา (Constructivism) ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้มากกว่าเนื้อหาวิชา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้หรือสร้างความรู้ให้เกิดขึ้นในตนเอง ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงผ่านสื่อหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ที่มีครูผู้สอนเป็นผู้แนะนำ กระตุ้น หรืออำนวยความสะดวก ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ขึ้น โดยกระบวนการคิดขั้นสูง ผู้เรียนมีการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการประเมินค่าจากสิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมการเรียนรู้ ทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีความหมายและนำไปใช้ในสถานการณ์อื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ สามารถใช้ในการแก้ปัญหาในด้านการศึกษามากมาย เช่น ปัญหาผู้สอน ปัญหาผู้เรียน ปัญหาด้านเนื้อหา ปัญหาด้านเวลา ปัญหาเรื่องระยะทาง นอกจากนั้นเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการเรียนการสอน สามารถเพิ่มประสิทธิภาพทางการเรียนการสอนและเพิ่มประสิทธิผลทางการศึกษาอีกด้วย คณะกรรมการด้านเทคโนโลยีการศึกษาได้สรุปความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัล ดังนี้
1 เทคโนโลยีดิจิทัลทำให้การเรียนการสอน มีความหมายมากขึ้น ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้กว้างขวาง เรียนได้เร็วขึ้น ทำให้ผู้สอนมีเวลาให้ผู้เรียนมากขึ้น
2 เทคโนโลยีดิจิทัลสามารถตอบสนองความแตกต่างของผู้เรียน ผู้เรียนสามารถเรียนได้ตามความสามารถของผู้เรียน การเรียนการสอนจะเป็นการตอบสนองความสนใจและความต้องการของแต่ละบุคคลได้ดี
3 เทคโนโลยีดิจิทัลทำให้การจัดการศึกษา ตั้งบนรากฐานของวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ทำให้การจัดการศึกษาเป็นระบบและเป็นขั้นตอน
4 เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยให้การศึกษามีพลังมากขึ้น การนำเทคโนโลยีด้านสื่อเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่จะทำให้การศึกษามีพลัง
5 เทคโนโลยีดิจิทัลทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างกว้างขวาง และได้พบกับสภาพความจริงในชีวิตมากที่สุด
6 เทคโนโลยีดิจิทัลทำให้เปิดโอกาสทางการศึกษาทั้ง การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย
ในยุคดิจิทัล (Digital Age) การนิเทศการศึกษาถือว่าเป็นเป็นกระบวนการสำคัญในการจัดการศึกษา และเป็นหนึ่งในธุรกรรมที่สำคัญในระบบการศึกษาโดยเฉพาะในการพัฒนากระบวนการการเรียนการสอน ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ศึกษานิเทศก์มีหน้าที่รับผิดชอบด้วยการแสดง ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการให้การนิเทศสนับสนุนอย่างเพียงพอแก่ครูผู้สอนหรือผู้เข้ารับการฝึกอบรม ในการพัฒนายุคดิจิทัลนี้ เพื่อให้บรรลุในสิ่งที่ครูคาดหวังและเป้าหมายการเรียนรู้และสร้างความมั่นใจว่ามีโอกาสใน การพัฒนาที่เหมาะสมเพื่อให้ได้มาซึ่งความสามารถที่ต้องการจำเป็น ดังนั้น การมีความสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสภาพแวดล้อมทางวิชาการจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อตอบสนองภารกิจที่สอดคล้องกับแนวโน้มในปัจจุบันและความต้องการของครูในอนาคต
ดังนั้น ข้าพเจ้าในฐานะศึกษานิเทศก์ผู้รับผิดชอบกลุ่มงานส่งเสริม พัฒนาสื่อ นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา จึงสนใจใน การพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลของครูผู้สอนระดับประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 ด้วยกระบวนการนิเทศแบบ PADREA เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้ครูสามารถพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ทักษะเทคโนโลยีดิจิทัล และจัดทำแผนนิเทศ ติดตาม และสะท้อนผลสู่การปฏิบัติในชั้นเรียน โดยเน้นการนิเทศเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลและขับเคลื่อนกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ส่งเสริมให้ครูพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ที่สามารถพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ คิดแก้ปัญหา และทักษะในศตวรรษที่ 21 ให้กับผู้เรียน ตลอดจนพัฒนาผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ทั้งด้านความรู้ ทักษะ สมรรถนะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 สำรวจข้อมูลพื้นฐาน วิเคราะห์สภาพปัญหา และความต้องการจำเป็นในการสร้างนวัตกรรมการจัดประสบการณ์และการทำวิจัยในชั้นเรียน และสังเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้วางแผนและจัดทำแผนการนิเทศ
2.2 ศึกษา แนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการนิเทศ เพื่อพัฒนารูปแบบ นวัตกรรมการนิเทศ เพื่อการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
2.3 ศึกษา แนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
2.4 จัดทำแผนนิเทศ ติดตาม โดยนำหลักสูตรสถานศึกษา (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2561) สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน ซึ่งเน้นการนิเทศการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ใช้ทักษะเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อขับเคลื่อนกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ส่งเสริมให้ครูพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ที่สามารถพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ คิดแก้ปัญหา และทักษะในศตวรรษที่ 21 ให้กับผู้เรียน และคู่มือการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลของครูประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 ด้วยกระบวนการนิเทศแบบ PADREA ที่สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา และผู้เรียน
2.5 พัฒนาคู่มือการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลของครูประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 ด้วยกระบวนการนิเทศแบบ PADREA ที่สอดคล้องกับแผนการนิเทศ เพื่อช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุนให้ครูจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนประกอบด้วย
ส่วนที่ 1 บทนำ
ส่วนที่ 2 แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
ส่วนที่ 3 แนวทางการจัดการเรียนเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ทักษะเทคโนโลยีดิจิทัล
ส่วนที่ 4 ปฏิทินการดำเนินงานและปฏิทินการนิเทศ
ส่วนที่ 5 การนิเทศเพื่อพัฒนาเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ทักษะเทคโนโลยีดิจิทัล
2.6 กิจกรรมนิเทศเพื่อพัฒนาเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ทักษะเทคโนโลยีดิจิทัล
ของครูผู้สอนระดับชั้นประถมศึกษา ประกอบด้วย
2.6.1 นิเทศ ให้คำปรึกษา แนะนำ ชี้แนะ ด้วยกระบวนการนิเทศแบบ PADREA เพื่อให้ครูผู้สอนระดับชั้นประถมศึกษา ได้รับการพัฒนางานวิชาการ และสามารถการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และเป็นแบบอย่างในการพัฒนาการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา และผู้เรียน โดยดำเนินการดังนี้
1. P-PLANNING - ขั้นวิเคราะห์สร้างสารสนเทศวางแผน เก็บข้อมูล สภาพปัญหา ศึกษาเนื้อหาที่ใช้ในการแก้ไขปัญหา
2. A-ANALYZE INFORMATION – ขั้นวิเคราะห์สร้างสารสนเทศ วิเคราะห์เนื้อหา ประเด็นที่จะดำเนินการนิเทศ สร้างชุดกระบวนการนิเทศ PADRAE เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ทักษะเทคโนโลยีดิจิทัล
3. D-DOING - ขั้นการให้ความรู้ และปฏิบัติการนิเทศ ติดตาม ดังนี้
3.1 อบรมให้องค์ความรู้
3.2 สร้างครูแกนนำเพื่อขยายผล
3.3 ดำเนินการนิเทศ
4. R-REINFORCING - ขั้นการสร้างขวัญ และกำลังใจ ได้แก่ สร้างเวทีการนำเสนอผลงาน มอบรางวัลให้กำลังใจครูผู้สอนที่เป็นต้นแบบ
5. A-AFTER ACTION REVIEW: AAR - ขั้นการทบทวนหลังปฏิบัติการนิเทศ
แลกเปลี่ยนกระบวนการคิดในการแก้ไขปัญหาหลังจากการดำเนินการนิเทศ และสร้างองค์ความรู้ร่วมกัน
6. E-EVALUATION - ขั้นประเมินผล สรุป วิจัยและพัฒนา โดยประเมิน วิเคราะห์ สังเคราะห์ และสรุปผลการนิเทศ รวมถึงวิจัยเพื่อพัฒนาต่อยอด
2.6.2 ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ครูให้สามารถจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ทักษะเทคโนโลยีดิจิทัล ได้บรรลุตามเป้าหมาย
2.6.3 ติดตามและประเมินผลการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ทักษะเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อวิเคราะห์สรุปผลการพัฒนาที่บรรลุตามเป้าหมาย และที่จะต้องพัฒนาต่อไป
2.6.4 จัดเวทีวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เผยแพร่ผลงานเชิงประจักษ์จัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ทักษะเทคโนโลยีดิจิทัล
2.6.5 สรุปและรายงานผลการนิเทศการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลของครูประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 ด้วยกระบวนการนิเทศแบบ PADREA ส่งเสริมและสร้างเครือข่ายการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครูผู้สอนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา อันจะเป็นรากฐานที่ทำให้เกิดระบบนิเวศด้านการศึกษาที่ยั่งยืนและสอดคล้องกับความต้องการของสังคม
ผลของการดำเนินการ
ด้านครูผู้สอนที่มีการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณและการออกแบบที่เป็นแบบอย่างดีเด่น
ด้านผู้บริการสถานศึกษาที่มีการส่งเสริมและสนับสนุกการจัดการเรียนการสอนระดับดีเด่น