ฮีตสิบสอง ครองสิบสี่ ประเพณีบุญบั้งไฟ
บ้านเพชรกาฬสินธุ์ หมู่ 14 ตำบลตลุกดู่
ฮีตสิบสอง ครองสิบสี่ ประเพณีบุญบั้งไฟ
บ้านเพชรกาฬสินธุ์ หมู่ 14 ตำบลตลุกดู่
ฮีตสิบสอง ครองสิบสี่ ประเพณีบุญบั้งไฟ
บ้านเพชรกาฬสินธุ์ หมู่ 14 ตำบลตลุกดู่
ประเพณี บุญบั้งไฟ เป็นประเพณีสำคัญของภาคอีสานบ้านเราที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ถือเป็นหนึ่งในฮีตสิบสองเดือนของชาวอีสานที่ทำกันในเดือน 6 ช่วงเข้าสู่ฤดูฝนซึ่งเป็นฤดูทำนา จะมีการจุดบั้งไฟเพื่อบูชาเทพยดา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย หรือที่ชาวอีสานเรียกกันว่า พญาแถน หรือ เทพวัสสกาลเทพบุตร ซึ่งมีความเชื่อว่า พระยาแถนมีหน้าที่คอยดูแลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาลและทำให้พืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ ความเชื่อของ ประเพณีบุญบั้งไฟ ปรากฏอยู่ใน ตำนานเรื่องพญาคันคาก(คางคก)และเรื่องผาแดงนางไอ่ มีการกล่าวถึงการจุดบั้งไฟเพื่อบูชาพญาแถน โดยเฉพาะในเรื่องพญาคันคาก(คางคก)ซึ่งตำนานนั้นมีอยู่ว่า พญาคันคาก(คางคก)เป็นพระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นโอรสของกษัตริย์ เหตุที่ได้ชื่อว่า “พญาคันคาก (คางคก)” เป็นเพราะเมื่อครั้งประสูติมีรูปร่างผิวพรรณเหมือนคางคกหรือที่ชาวอีสานเรียกกันว่า คันคาก และถึงแม้พระองค์จะมีรูปร่างอัปลักษณ์ แต่พระอินทร์ก็คอยช่วยเหลือ จนพญาคันคากเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน จนลืมที่จะเซ่นบูชาพญาแถน พญาแถนจึงโกรธ ไม่ยอมปล่อยน้ำฝนให้ตกลงมายังโลกมนุษย์จึงเกิดศึกการต่อสู้ระหว่างพญาคันคากและพญาแถนขึ้น โดยพญาคันคากได้นำทัพสัตว์ต่างๆ ขึ้นไปรบ จนได้รับชัยชนะ พญาแถนจึงปล่อยให้ฝนตกลงมาเช่นเดิม แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องจุดบั้งไฟขึ้นไปบูชาเป็นประจำทุกปี จึงเป็นที่มาว่า ชาวอีสานต้องทำบั้งไฟจุดขึ้นบนฟ้าถวายพญาแถน เพื่อฝนจะได้ตกต้องตามฤดูกาล
งานประเพณีบุญบั้งไฟในพื้นที่ตำบลตลุกดู่ จังหวัดอุทัยธานี เป็นการอนุรักษ์ประเพณีของชาวอีสาน ที่ได้ย้ายถิ่นฐานมาจากจังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดขอนแก่นเข้ามาตั้งถิ่นที่อยู่ใหม่และประกอบอาชีพเกษตรกรรม ตั้งแต่ปี พ.ศ.2518 ซึ่งชาวอีสานมีความเชื่อว่าพระยาแถนมีหน้าที่คอยดูแลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล จึงทำให้ประเพณีบุญบั้งไฟในตำบลตลุกดู่ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี เกิดขึ้นและได้ร่วมกันสืบสานอนุรักษ์ไว้ จนกลายเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน การจัดงานบุญบั้งไฟตำบลตลุกดู่ อำเภอทัพทัน ในปัจจุบันเป็นการจัดงานบุญในภาพรวมซึ่งดำเนินการจัดโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานีซึ่งมีอำเภอลานสัก อำเภอสว่างอารมณ์และอำเภอทัพทัน เข้าร่วม โดยจัดที่อ่างเก็บน้ำทับเสลาหรือเขื่อนระบำ อำเภอลานสัก ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียง เข้าร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก
ในการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ จะมีกิจกรรมหลายอย่าง ตั้งแต่การจัดขบวนแห่บั้งไฟ การเซิ้งบั้งไฟ และการละเล่นต่างๆ ที่แสดงถึงวิถีชีวิตของคนอีสานในท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี เช่น การทอดแหหาปลา การสักสุ่ม ขบวนเซิ้งแต่งกายสวยงามแบบโบราณ เซิ้งเป็นกาพย์ให้คติธรรมตามหลักพระพุทธศาสนาอันงดงาม บั้งไฟเอ้ที่นำมาเข้าขบวนแห่ จะถูกตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงาม ด้วยลวดลายไทยสีทอง ว่ากันว่าศิลปะการตกแต่งบั้งไฟเอ้นี้ นายช่างบั้งไฟจะต้องสับและตัดลวดลายต่าง ๆ นี้ไว้เป็นเวลานานนับเดือน แล้วจึงนำมาทากาวติดกับลูกบั้งไฟเอ้ ส่วนหัวบั้งไฟเอ้นั้นจะทำเป็นรูปต่างๆ โดยส่วนมากนิยมทำเป็นรูปหัวพญานาคอ้าปากและลิ้นพ่นน้ำได้ แต่ก็มีที่ทำเป็นรูปอื่นๆ แต่ก็จะมีความหมายเข้ากับตำนานในการขอฝนทั้งสิ้น ตัวบั้งไฟเอ้จะนำไปตั้งบนฐานโดยใช้รถหรือเกวียนเป็นพาหนะนำมาเดินแห่ตามประเพณี นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันจุดบั้งไฟซึ่งขนาดของบั้งไฟจุดก็จะมีอยู่หลายขนาด ในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี จะนิยมจุดบั้งไฟขนาดเล็กคือขนาดหน้าความ กว้าง 2 นิ้วและขนาดหน้าความกว้าง 3 นิ้ว ซึ่งจะมีการแบกบั้งไฟไปยังฐานยิงในที่โล่งซึ่ง ถ้าบั้งไฟของใครจุดแล้วยิงไม่ขึ้น คนทำจะถูกโยนลงในโคลน เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาอีกด้วย
ข้อมูลเนื้อหา เรื่องราว เขียนโดย นายมนตรี บุญไชโย
ภาพถ่าย/ภาพป ระกอบ โดย นายมนตรี บุญไชโย