ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ คือ การปรับประยุกต์ การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)

ประเด็นท้าทาย เรื่อง ชุดฝึกปฏิบัติการการจำลองการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) โดยการประยุกต์ใช้ MIAP ที่เน้นด้านสมรรถนะของผู้เรียน พร้อมกับการฝึกปฏิบัติด้วยชุดฝึกปฏิบัติการการจำลองการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ผสานการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในรูปแบบ QR-Code

1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

จากการจัดการเรียนการสอนของข้าพเจ้า ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) รายวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ตลอดระยะ 3 ปีที่ผ่านมา พบว่าผู้เรียนส่วนใหญ่ มีทักษะการช่วยฟื้นคืนชีพอยู่ในเกณฑ์ต่ำผู้เรียนไม่สามารถประยุกต์ใช้ความรู้จากการศึกษาทางทฤษฎีลงสู่การปฏิบัติได้อย่างถูกต้องอาจเป็นเพราะว่ารูปแบบการจัดการเรียนการสอนยังเป็นรูปแบบเดิมคือผู้สอนจะอธิบายและเปิดสื่อวีดีโอการสาธิตการปฐมพยาบาลด้วยการช่วยฟื้นคืนชีพแล้วให้นักเรียนลงมือปฏิบัติตามใบงานถึงแม้ว่าจะปรับกิจกรรมการสอนให้สอดคล้องกับหลักสูตรรายวิชาที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้ปรับปรุงแล้วอย่างต่อเนื่องแต่การจัดการเรียนการสอนก็เน้นครูเป็นศูนย์กลางจึงทำให้ผู้เรียนขาดทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ทางทฤษฎีสู่การปฏิบัติ และอีกประเด็นก็คือผู้เรียนมีสมาธิสั้น สอนแล้วลืม เมื่อถึงเวลาการทดสอบก็ทำผลงานได้ไม่ดี ผู้สอนก็ต้องทดสอบซ้ำอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะทักษะการช่วยฟื้นคืนชีพโดยใช้คนจริง

จากสภาพปัญหาดังกล่าว ข้าพเจ้าจึงต้องการที่จะริเริ่มพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยการประยุกต์ใช้ MIAP ที่เน้นด้านสมรรถนะของผู้เรียน กับการฝึกปฏิบัติด้วยชุดฝึกปฏิบัติการการจำลองการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ผสานการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในรูปแบบ QR-Code ซึ่งมีความคาดหวังว่ากระบวนการดังกล่าว จะช่วยแก้ปัญหาได้ และพัฒนาทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

3. ผลลัพธ์ที่คาดหวัง

3.1 เชิงปริมาณ

ร้อยละ 80 ของผู้เรียน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ที่เรียนผ่านการจัดการเรียนรู้โดยการประยุกต์ใช้ MIAP ที่เน้นด้านสมรรถนะของผู้เรียน พร้อมชุดฝึกปฏิบัติการการจำลองการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ผสานการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในรูปแบบ QR-Code มีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05

ร้อยละ 80 ของผู้เรียน มีความพึงพอใจในระดับมาก ต่อการเรียนรู้โดยการประยุกต์ใช้ MIAP ที่เน้นด้านสมรรถนะของผู้เรียนร่วมกับชุดฝึกปฏิบัติการการจำลองการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ผสานการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในรูปแบบ QR-Code

3.2 เชิงคุณภาพ

ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยการประยุกต์ใช้ MIAP ที่เน้นด้านสมรรถนะของผู้เรียนร่วมกับวิจัยเป็นฐาน พร้อมชุดฝึกปฏิบัติการการจำลองการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ผสานการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในรูปแบบ QR-Code ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เพิ่มสูงขึ้น