นางสาวสิรินดา คงเอียง (ครีม) อายุ 19 ปี

จบปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์ จากระบบ Pre-Degree

ปัจจุบัน กำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหิดล ในคณะวิทยาศาสตร์ ชั้นปีที่ 2

“ช่วงที่ศึกษาอยู่ระดับชั้น ม.4 โรงเรียนย่านตาขาวรัฐชนูปถัมภ์ ได้นำวุฒิ ม.3 มาสมัครในหลักสูตร Pre-Degree ที่ ม.รามคำแหง ตรัง โดยเลือกศึกษาในหลักสูตรคณะรัฐศาสตร์ และเรียนควบคู่กับการเรียนระดับชั้น ม.ปลาย หลังจบ ม.6 ได้สมัครเป็นนักศึกษาใหม่ของ ม.รามคำแหง ตรัง อีกครั้งในประเภทเทียบโอนจาก Pre-Degree เป็นนักศึกษาปริญญาตรี นำหน่วยกิตที่สะสมจาก Pre-Degree ได้ 102 หน่วยกิต และศึกษาเพิ่มเติมอีก 27 หน่วยกิต ก็จบปริญญาตรีในคณะรัฐศาสตร์ ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 8 เดือน

เทคนิคการเรียน ลงทะเบียนเรียนทุกภาคเรียนและมีจำนวนหน่วยกิตสูงสุดตามหลักเกณฑ์การลงทะเบียน และพยายามสอบให้ผ่านภายในภาคเรียนนั้นๆ เข้าฟังการบรรยายสรุปที่มหาวิทยาลัยในวันเสาร์-อาทิตย์ในทุกวิชาที่ลงทะเบียน ใช้สื่อการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย จะเน้นการฟังบรรยายออนไลน์ อ่านชีทสรุป ฝึกทำข้อสอบเก่า เข้ากลุ่ม FACEBOOK ภูมิภาคซึ่งมีการแนะนำการเรียนการสอนและการทำข้อสอบ ช่วงใกล้สอบจะอ่านตำรามากเป็นพิเศษ บริหารจัดการเวลาให้ลงตัวมากที่สุด

ข้อดีของหลักสูตร Pre-Degree ม.รามคำแหง เมื่อจบการศึกษาเร็วจะทำให้มีโอกาสในการศึกษาต่อในสาขาวิชาและมหาวิทยาลัยที่ตั้งใจไว้ หรือต่อยอดในระดับการศึกษาที่สูงขึ้น มีโอกาสทำงานได้เร็ว ทำให้รู้จักบริหารจัดการเวลา มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ขึ้น สามารถนำความรู้จากการเรียนมหาวิทยาลัยมาประยุกต์และเชื่อมโยงในวิชาเรียนที่โรงเรียนได้เป็นอย่างดี"

"ความสำเร็จ เริ่มต้นด้วยการลงมือทำ"

นางสาวแก้วสรวง ดวงแก้ว (ฟังฟัง) อายุ 20 ปี

จบปริญญาตรีคณะสื่อสารมวลชน จากระบบ Pre-Degree

ปัจจุบัน ช่วยดูแลธุรกิจครอบครัว (ธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวที่ จ.พัทลุง) เตรียมตัวสอบแข่งขันเข้ารับราชการและวางแผนไปต่างประเทศเพื่อหาประสบการณ์และขยายธุรกิจ

“ช่วงที่ศึกษาอยู่ระดับชั้น ม.4 ห้องเรียนพิเศษส่งเสริมความสามารถด้านภาษาอังกฤษ (ESC) โรงเรียนสตรีพัทลุง ได้นำวุฒิ ม.3 มาสมัครในหลักสูตร Pre-Degree ที่ ม.รามคำแหง ตรัง โดยเลือกศึกษาในหลักสูตรคณะสื่อสารมวลชน และเรียนควบคู่กับการเรียนระดับชั้น ม.ปลาย หลังจบ ม.6 ได้สมัครเป็นนักศึกษาใหม่ของ ม.รามคำแหง ตรัง อีกครั้งในประเภทเทียบโอนจาก Pre-Degree เป็นนักศึกษาปริญญาตรี นำหน่วยกิตที่สะสมจาก Pre-Degree ได้ 111 หน่วยกิต และศึกษาเพิ่มเติมอีก 33 หน่วยกิต ก็จบปริญญาตรีในคณะสื่อสารมวลชน ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 2 ปี

เทคนิคการเรียน เน้นการอ่านตำราเรียนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเล่มตำรา ตำราเรียนอิเล็กทรอนิกส์ หรือชีทสรุป จะพกพาติดตัวไปทุกที่ หากมีเวลาว่าง เช่น ในช่วงพักกลางวันที่โรงเรียนจะอ่านทบทวนความรู้ หรือดูวิดีโอคำบรรยาย ก่อนสอบจะอ่านหนังสือมากเป็นพิเศษ เช่น ขณะเดินทางไปสอบก็จะอ่านหนังสือบนรถ หากมีคาบสอบบ่าย ช่วงเช้าจะนั่งอ่านหนังสือในห้องสมุด ต้องขยันอ่านหนังสือและพยายามให้มากที่สุด อีกทั้งในการลงทะเบียนเรียนจะลงให้เต็มที่ตามหลักเกณฑ์การลงทะเบียนของทุกภาคเรียน และพยายามสอบให้ผ่านเพื่อเก็บหน่วยกิตให้ได้มากที่สุด

ข้อดีของหลักสูตร Pre-Degree ม.รามคำแหงทำให้เป็นคนมีความรับผิดชอบ ลำดับความคิดได้ดี มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ขึ้น บริหารจัดการเวลาได้ดี ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ สามารถนำความรู้จากการเรียนมหาวิทยาลัยมาประยุกต์และเชื่อมโยงในวิชาเรียนที่โรงเรียนได้เป็นอย่างดี เช่น วิชาภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา การที่จบการศึกษาเมื่ออายุยังน้อย จะทำให้เรามีโอกาสทำงาน เลือกอาชีพที่เรารักหรือต่อยอดในระดับการศึกษาที่สูงขึ้นได้เร็วกว่า

อยากแนะนำน้องๆ ที่ยังไม่กล้าตัดสินใจเข้าศึกษาในหลักสูตร Pre-Degree ว่าในการเรียนเราสามารถแบ่งเวลาในการเรียนได้ โดยที่เราต้องมีความตั้งใจ ไม่มีอะไรยากเกินความพยายามของเรา”

“ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น”

นายคณาธิป สินธุเศรษฐ

ปัจจุบัน กำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ควบคู่กับมหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดตรัง (คณะรัฐศาสตร์)

และปฏิบัติงานเป็นที่ปรึกษาประธานประจำคณะกรรมาธิการท่องเที่ยว และที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (กมธ.กาสิโน)

“สมัครเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการฯ จังหวัดตรัง ในระบบ Pre-Degree เลือกศึกษาในหลักสูตรคณะรัฐศาสตร์ ตั้งแต่เรียนชั้น ม.4 โรงเรียนบูรณะรำลึก เมื่อจบ ม.6 สามารถเก็บสะสมหน่วยกิต ได้ 63 หน่วยกิต หลังจากนั้นได้สอบเรียนต่อในคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเรียนควบคู่กับการเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหงไปด้วย และในปี 2565 ได้สมัครเป็นนักศึกษาใหม่ของ มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการฯ จังหวัดตรัง อีกครั้งในประเภทเทียบโอนจาก Pre-Degree เป็นนักศึกษาปริญญาตรีปกติ และมีหน่วยกิตที่สะสมได้ ณ ปัจจุบัน รวม 93 หน่วยกิต (เหลือที่ต้องศึกษาอีก 33 หน่วยกิต) ซึ่งตามที่วางแผนการศึกษาไว้จะใช้ระยะเวลาศึกษาอีกไม่เกิน 1 ปี จะจบในหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต ของมหาวิทยาลัยรามคำแหงอย่างแน่นอน

เทคนิคการเรียน Pre-Degree มีการวางแผนการเรียนตั้งแต่ช่วงลงทะเบียนเรียน โดยเลือกช่วงเวลาสอบให้ลงตัว แบ่งเวลาอ่านหนังสือ และบริหารจัดการเวลาให้ได้ เน้นการอ่านแล้วทำสรุป ดูบรรยายย้อนหลัง โดยหาข้อมูลจาก Youtube ซึ่งบางรายวิชาได้ลงข้อมูลไว้ ทำให้เลือกย้อนดูได้หลายช่วงเวลา สะดวกในการทบทวนฟังคำบรรยาย รวมทั้งใช้สื่อการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย เมื่อถึงช่วงเวลาสอบได้นำบทสรุปมาทบทวน และทดลองทำข้อสอบหลายๆรอบ ให้เกิดความมั่นใจ ทำข้อสอบอย่างเต็มที่ และเต็มกำลังความสามารถ

หลักสูตร Pre-Degree สร้างทักษะในการบริหารจัดการเวลาได้เป็นอย่างดี มีความขยันหมั่นเพียรและความอดทนในการอ่าน ที่สำคัญยังสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหงมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ใน 2 ตำแหน่งงานที่ดำรงอยู่ ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในความสำเร็จของตนเองเป็นอย่างมาก

นายพศวัต เพชรหนู

จบปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์ จากระบบ Pre-Degree เมื่ออายุ 20 ปี

ปัจจุบัน รับราชการตำรวจ ตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรภาค 9 ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร. สน.) จ.ยะลา และในปีการศึกษา 2565 สมัครเรียนต่อระดับปริญญาตรี ในคณะนิติศาสตร์


“เทคนิคการเรียนในช่วงที่เรียน Pre-Degree คืออ่านตำรามหาวิทยาลัย ฟังการบรรยายทางไกล และฟังบรรยายสรุปทุกครั้ง ฝึกฝนทำแนวข้อสอบของคณะรัฐศาสตร์ และลงทะเบียนเรียนให้ครบตามหลักเกณฑ์ในแต่ละภาคเรียน”


การเรียน Pre-Degree ทำให้มีความรู้มากขึ้นและสามารถนำวิชาพื้นฐาน เช่นวิชาสังคมศึกษามาประยุกต์ใช้ในการเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้ประสบการณ์ การเรียนมหาวิทยาลัยที่นักเรียนในชั้นเรียนไม่มี เป็นแนวทางการศึกษาต่อ รวมทั้งสามารถนำไปต่อยอดทางการศึกษาและเมื่อเรียนจบในอายุน้อยๆ ก็ควดว่าเมื่อจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ (ปริญญาที่ 2) แล้ว จะต่อยอดในระดับการศึกษาที่สูงขึ้นอย่างแน่นอน