ติดตามเราได้ที่นี่

ขอบคุณข้อมูลจาก FB : Cholchai Tessiri @14 พฤศจิกายน 2563

แมว..มีต้นสายมาจากเสือไซบีเรียนที่แตกวงศ์ออกมาเป็นแมวป่าเมื่อ 64 ล้านปีก่อน..มีทั้งแมวป่าขนาดเล็ก..ขนาดใหญ่..ขนสั้น..ขนยาว.ลวดลายต่างๆกัน

...

ชนชาติแรกที่เลี้ยงแมวคือชาวอียิปต์เมื่อหลายพันปีก่อน..เริ่มจากจับแมวป่ามาฝึกเลี้ยงเป็นแมวบ้านเพื้อจับหนูป้องกันความเสียหายของผลผลินทางการเกษตร..แมวป่าที่จับมาเลี้ยงจะเป็นแมวป่าขนสั้นขนาดเล็ก Felis Catus ที่มีลักษณะเป็นแมวลายและมีสัญลักษณ์ตัว M บนหน้าผาก

...

แมว..จะสร้างสีขนหลักคือสีดำกับสีส้ม..แมวป่าที่เป็นแมวลายจึงมีทั้งแมวลายสีดำและสีส้ม..ตามภาพเขียนโบราณบนฝาผนังของชาวอียิปต์..เมื่อหลายพันปีก่อนคนอียิปต์ก็เลี้ยงแมวลายสีส้ม...

...

เมิ่อเราค้นรูปแมวอียิปต์ในปัจจุบัน..ก็จะพบหน้าตาของ Egyptian Mau ที่หน้าตาและลวดลายเหมือนแมวสลิดบ้านเรา..เพราะเป็นแมวสายพันธุ์เดัยวกันที่มีการแพร่กระจายพันธุ์ทางภูมิศาสตร์ตามธรรมชาติ..ไล่จากอียิปต์เลาะชายฝั้งลามมาถึงประเทศไทย...

...

ประเทศไทยหรือแผ่นดินสุวรรณภูมิ..ไม่สามารถสืบค้นได้ว่าเราเริ่มเลี้ยงแมวมาตั้งแต่ยุคสมัยไหน..จับแมวป่ามาเลี้ยงเอง..หรือรับอารยธรรมการเลี้ยงแมวมาจากอียิปต์..แต่ทั้งอียิปต์และไทย..ออกเสีนงเรียกแมวเหมือนกันว่า Mau

...

ความสัมพันธ์ทางการค้าในอดีต..ก็เป็นไปได้ว่าเรารับแมวมาจากอียิปต์..โดยเรือสำเภาที่ทำการค้าบนเส้นทางเดินเรือยุคเส้นทางเครื่องเทศจากจีนอ้อมแหลมมาลายูไปอาหรับ..ถ้าค้นหาภาพเส้นทางเดินเรือจากอินเตอร์เน็ต..จะพบเส้นทางหลักแค่อ้อมแหลมมาลายู..ไม่เข้ามาถึงอ่าวไทย..แต่..มีการขุดค้นพบเรืออาหรับโบราณอายุ 1200 ปีในเขตจังหวัดสมุทรสาคร..บนแผ่นดินที่ในอดีตเป็นทะเล..ย้อนหลังไป 1200 ปีจะตรงกับยุคทวาราวดี..ก่อนสุโขทัยและอยุธยา..นั่นคือเรืออาหรับเคยเข้ามาถึงอ่าวไทย

...

จะจับแมวมาเลี้ยงเอง..หรือรับแมวจากเรืออียิปต์..แมวไทยก็เป็นแมวป่าขนสั้นพันธุ์เล็ก Felis Catus แบบเดียวกับแมวอียิปต์...

...

แมวสร้างสีขนสองสี..ดำกับส้ม..สีขาวไม่ใบ่สีขน..แร่เป็นเซลล์ที่ไม่แสดงสี..ขนหนึ่งเส้นแสดงสีได้สีเดียว..สีที่แสดงอ่อนแก่สลับกันในเส้นเดียว..เมื่อจับมาเรียงต่อกัน..ก็จะเกิดเป็นแมวลาย..ถ้าขนเส้นนั้นแสดงสีเสมอกันทั้งเส้นมาเรียงต่อกัน..ก็จะเกิดเป็นแมวสีพื้น...

...

สีของแมวที่เราเห็นด้วยตา..จะหลากสีมาก..แต่สีหลักคือดำกับส้ม..แล้วดำกับส้มลดสีอ่อนลงเป็นสีต่างๆ..ดำอ่อนลงมาเป็นเทาเป็นน้ำตาล..ส่วนสีส้มอ่อนลงมาได้แค่ส้มอ่อน..และแมวสีดำสามารถแสดงสีดำได้ทั้งตัว..แต่แมวสีส้มจะยังคงติดลายเสมอ..เอกลักษณ์ของแมวลาย..นอกจากสัญลักษณ์ตัว M บนหน้าผาก..ยังมีเส้น Eye Liner จากปลายตาอีกด้วย...

...

ภาพประกอบ 1-2 จึงเป็นแมวลายสีพื้นฐานของแมวไทย..ลายดำ..ลายส้ม..และลายดำลดสีเป็นลายเทา..ลายน้ำตาล..และขนลดการสลับสีกลายเป็นแมวดำในภาพประกอบ 3

...

แมวตัวผู้จะมีโครโมโซม XY ตัวเมีย XX มี X เป็นหน่วยแสดงสี..แมวตัวผู้จึงแสดงสีขนได้ทีละสี..ในขณะที่ตัวเมียแสดงสีขนได้มากกว่าหนึ่งสี..แมวตัวเมียจึงแสดงสีได้ทั้งดำและส้มพร้อมๆกันเมื่อรวมสีขาวเข้าไปอีกสี..จึงเป็นแมวตัวเมียสามสี..ภาพ 14

...

แมวตัวผู้สามสีก็เกิดขึ้นได้..โอกาสในการเกิดคือ 1 ใน 3000 จะเป็นแมวกระเทยที่มีโครโมโซม XXY

...

การนับพันธุ์แมว..จะนับจากการที่พ่อแม่แมวมีลักษณะเดียวกันผสมกันแล้วให้ลูกเหมือนยกครอก..จึงจะนับเป็นพันธุ์แมว..นั่นคือ..แมวสลิดดำผสมสลิดดำให้ลูกสลิดดำ..นั้นคือพันธุ์สลิดดำ..ส้มผสมส้มลูกส้ม..พันธุ์ส้ม..ดำผสมดำลูกดำ..พันธุ์ดำ...

...

แล้วธรรมชาติ..ก็สร้างแมวลดสีขนขึ้นมา..แมวดำลดสีเป็นเทาเป็นน้ำตาล..คนไทยสมัยโบราณสังเกตุเห็นความพิเศษของสีขนแมว..จึงคัดแมวลักษณะเดัยวกันผสมกันแล้วบันทึกลักษณะตั้งชื่อสายพันธุ์บันทึกลงสมุดข่อยในสมันอยุธยา..และมีการถ่ายทอดลอกเป็นตำราแมวสมัยรัตนโกสินทร์..นับเป็นบันทึกลักษณะแมวที่เก่าแก่และสำคัญมาก..เพราะในช่วงเวลาเดียวกัน..ไม่มีบันทึกแมวในประเทศใดที่ลงลักษณะแมวที่พิเศษแบบแมวไทย..และยังคงมีที่ยืนสายพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน..ทั้งลักษณะ..และการตรวจค่ายีนตามหลักวิทยาศาสตร์แผนปัจจุบัน

....

3. ดำ..โกญจา..เหมือนไม่มีอะไรพิเศษเพราะเป็นแค่แมวดำ..แต่..การที่แมวเป็นสีดำเสมอทั้งตัว..คือการบ่งบอกถึงสภาพความสมบูรณ์ของเซลล์สีขนที่มาจากความสมบูรณ์ของสุขภาพแมวจึงจะให้สีขนที่ดำเสมอได้ทั้งตัว..และความสมบูรณ์ยังแสดงออกถึงเสียงร้องที่ดัง..โบราณเปรียบเสมือนเสียงของนกกะเรียน..จึงตั้งชื่อสายพันธุ์แมวมงคลนี้ว่า "โกญจา" ที่แปลว่านกกะเรียน...

...

4. เทา..มาเลศ/สีสวาด/แมวเทา/ดอกเลา/โคราช..เป็นแมวดำที่เซลล์สีขนลดระดับการสีเสมอทั้งตัวเป็นสีเทา..มีหลายระดับเทา..แต่จะคัดผสมลักษณะที่มีโคนขนสีเข้มลดสีอ่อนออกเงินที่ปลายขนที่เรียกว่าสีดอกเลา..มาเลศเป็นชื่อสายพันธุ์ในตำราแมวมงคล..สีสวาด/ดอกเลา/แมวเทา..เป็นชื่อเรียกตามภาษาชาวบ้านจากสีของแมวที่มองด้วยตาเปล่า..สีสวาดจะใช้ ด.เด็กเป็นตัวสะกด..เป็นชื่อต้นไม้ที่มีเมล็ดเป็นสีเทา..แมวโคราช..เป็นชื่อที่ ร.2 (สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 5) เป็นผู้พระราบทาน..จากแหล่งกำเนิดแมวใน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา..แมวที่ลดสีขนเองตามธรรมชาติในโลกจะพบอยู่สองสายพันธุ์..โคราชขนสั้นตัวเล็กบ้านเรา..กับ Russian Blue ขนสั้นตัวใหญ่กว่าแมวไทย...

...

5. น้ำตาล..ทองแดง..ศุภลักษณ์..เป็นแมวกลุ่มสีดำล้วนทั้งตัวที่ยีนดำสร้างสีขนแค่ระดับสีน้ำตาลทั้งตัว..แมวดำปกติจะมีสีกลีบของอุ้งเท้าเป็นสีดำ..ในขณะที่แมวส้มแมวขาวจะมีกลีบเท้าสีชมพู..ศุภลักษณ์จะเป็นแมวดำที่สร้างสีขนแค่ระดับสีน้ำตาล..กลีบอุ้งเท้าจะเกิดสีพิเศษที่เรียกสีโอรส..หรือชมพูออกส้ม..ไม่ชมพูใสแบบแมวขาวแมวส้ม..และไม่ดำแบบแมวดำ..เดิมคาดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว..จึงจับแมวสีน้ำตาลหน้ากากดำในรูปที่ 6 มานับเป็นศุภลักษณ์..มีการค้นหาแมวศุภลักษณ์มาหลายสิบปี..จนมีการเพาะผสมทีใกล้ความจริงมากในปี 55 และประสบผลสำเร็จในการทีคู่แมวศุภลักษณ์ให้ลูกศุภลักษณ์ยกครอก 6 ตัวในปี 58 โดยคู่ผสมพ่ออโยธยากับแม่อโยเดีย..แมวจรศุภลักษณ์ gen0 แล้วเกิดการตั้งสายผสมต่อรุ่นแมวศุภลักษณ์กับศุภลักษณ์แมวจรจนปัจจุบันถึงรุ่นแมวที่ 4 และจะเกิดรุ่นแมวที่ 5 ในปี 64

...

6./7./8. แมวหน้ากากดำ..เป็นแมวไทยที่มีลักษณะยีนที่พิเศษแปลกกว่าแมวอื่นในโลกโดยสิ้นเชิง..เป็นแมวดำล้วนทั้งตัวที่เกิดการลดสีขนต่างระดับสีได้ตามอุณหภูมิร่างกาย..ตามธรรมชาติทางสรีระของแมวจะมีอุณหภูมิลำตัวสูงกว่าปลายอวัยวะที่ส่วนต่างราวๆ 38.5:33.5°c ยีนพิเศษจะลดสีขนที่ลำตัวสีอ่อนกว่าปลายอวัยวะเกิดเป็นจุดเข้ม 9 ตำแหน่งเย็น..จมูก/หู/เท้า/หาง/อวัยวะเพศ..มีระดับการลดสีขนที่ต่างกันไปในแต่ละตัว..และการลดสีขนส่งผลถึงระดับการสร้างเม็ดสีในตา..เกิดเป็นแมวตาฟ้า..ตาเหลือง..ตาเหลืองอมฟ้า..โบราณจะคัดเพาะผสมเฉพาะแมวหน้ากากดำที่มีตาสีฟ้าและม่านตาสะท้อนแสงไฟเป็นสีแดง..จดบันทึกลักษณะเป็นแมวมงคลและตั้งชื่อสายพันธุ์ว่าวิเชียรมาศ..ส่วนแมวหน้ากากดำสีตาอิ่นๆ..ไม่มีการตั้งชื่อสายพันธุไว้

...

7./8. แมวหน้ากากดำตาเหลือง..ตาเหลืองอมฟ้า..บ้านเราไม่มีการตั้งชื่อสายพันธุ์..มีแต่วิเชียรมาศที่ถูกนำเข้าไปในประเทศสหรัฐอเมริกาและอังกฤษในยุต 187X แล้วฝรังตั้งชื่อสายพันธุ์ว่า Siamese Cat ตามชื่อประเทศไทยในสมัยนั้น (ร.5)...

...

ต่อมา..มีการนำแมวหน้ากากดำตาเหลืองจากพม่าเข้าไปในอเมริกา..จดสายพันธุ์เป็น Burmese Cat

...

นักผสมแมวชาวคานาดา..จับ Siamese ตาฟ้า..ผสมกับ Burmese ตาเหลือง..เกิดเป็นลูกครึ่งตาเหลืองอมฟ้าจดทะเบียนเป็นสายพันธุ์ Tonkinese

...

แมวหน้ากากดำนอกเหนือจากวิเชียรมาศ..เราเลยเรียก Burmese/Tonkinese ตามฝรั่ง..แต่แมวบ้านเราเป็นแมวไทยแท้ที่เกิดลักษณะแบบนี้ได้เองตามธรรมชาติ..สีตัวเข้มจะเรียกสี Sable สีตัวอ่อนจะเรียกสี Champagne ทั้งสองสีขน..มีทั้งที่ตาสีเหลืองและตาสีเหลืองอมฟ้า

...

9 แมวเผือกตาแดง..เป็นอาการเผือกปกติของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีความปกติในระบบสร้างสี..จะไม่สร้างสีขน..ขนจึงขาว..สีขาวจึงไม่ใช่สีขนของแมว..ดวงตาซีด..ม่านตาแดง..ก็เป็นลักษณะของดวงตาที่ไม่มีเซลล์เม็ดสีในตา...

...

ขนสีขาวแบบแรกเป็นลักษณะเผือกไม่มีสี..ในแมวมีสีขนจะสร้างเม็ดสีในตาควบคู่กันไปเสมอ..จนปริมาณเม็ดสีหนาแน่นเป็นแมวตาสีเหลืองอ่อนแก่ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของปริมาณเม็ดสี..และเม็ดสีจะเคลือบม่านตาสะท้อนแสงไฟเป็นสีต่างๆ

...

แมวมีสีขน..สามารถเกิดสีขาวแทรกตามส่วนต่างๆของร่างกายได้..เกิดจากเซลล์ไม่แสดงสีขนจากความบกพร่องของเซลล์..ในขณะที่ตัวอ่อนในครรภ์สร้างตัว..จะกระจายเซลล์จากแนวกระดูกสันหลังไปยังปลายอวัยวะ..เซลล์ที่ชำรุด..จะไปเริ่มกระจุกตัวที่ปลายอวัยวะ..ก่อนที่จะขยายตัวเป็นปริมาณสูงขึ้นในรุ่นลูกหลาน..การสะสมขนสีขาว..จะไปเริ่มที่ปลายเท้า..ใต้ท้อง..อก..ปาก..ใบหน้า..สะสมสีขาวมากขึ้นจนในที่สุดกลายเป็นแมวขาวทั้งตัวที่ไม่ใช่แมวเผือก..เพราะสามารถสร้างสีตาสีเหลืองได้เหมือนแมวมีสีขน..และบางตัวสร้างสีตาได้น้อยจะเกิดเป็นแมวขาวตาฟ้าม่านต่แดงและเกิดค่ายีนใหม่ขึ้นมากลายเป็นแมวขาวมณี..แมวที่เกิดลักษณะขนขาวทั้งตัวตามธรรมชาติ..จะมีบันทึกไว้แค่สองสายพันธุ์เท่านั้น..คือขาวมณีขนสั้นของไทย..กับ Turkish Angora ของตุรกี...

...

10/11/12 ขาวมณีตาเหลือง..ตาฟ้า..เกิดจากปริมาณเม็ดสีในตาที่ต่างกัน..ตาเหลืองเม็ดสีมาก..ตาฟ้าเม็ดสีน้อย..ถ้าตาซีดไม่มีเม็ดสีจะเป็นแมวเผือก..เมื่อแมวขาวมณีตาเหลืองผสมกับแมวขาวมณีตาฟ้า..มีโอกาสที่จะเกิดการผสมลักษณะพ่อแม่ถ่ายทอดไปสู่ลูกเกิดเป็นแมวตาสองสีที่เกิดจากอาการด้อย..สร้างสีตาสองข้างไม่เท่ากัน..จะส่งผลให้ระบบประสาทของหูสองข้างไม่เท่ากัน..การสร้างอวัยวะร่างกายสองข้างไม่เท่ากัน..ถือเป็นอาการด้อยแบบหนึ่งของแมว...

...

แมวขาวมณีที่สะสมขนสีขาวต่อเนื่องหลายๆรุ่นแมวจะเกิดการปรับค่ายีนจนไม่เปิดรับสีใดๆ..ไม่ว่าแมวขาวแบบนี้จะไปผสมกับแมวสีอะไร..ถ้าลูกสีขาว..จะขาวทั้งตัวเรียกว่าขาวมณีเลือดร้อยค่ายีน WW

...

แต่..จะมีแมวขาวมณีอีกประเภทหนึ่งที่มีค่ายีน Ww ยังมีเซลล์ที่เปิดรับสี..แต่ตัวเองไม่มีสี..หากไปผสมกับแมวมีสี..สีจะตกใส่เซลล์ w เกิดสีด่างแทรกขึ้นมาบนเซลล์ w ที่ปกติจะเห็นเป็นสีขาว..การผสมแมวขาว..จึงจำเป็นต้องผสมกับแมวขาวด้วยกัน...

...

การนับพันธุ์แมว..จะนับจากการที่พ่อแม่ลักษณะเดียวกันผสมกันแล้วให้ลูกเหมือนกันยกครอก...

...

การผสมพ่อกับแม่..จะให้ลูกเหมือนพ่อ..เหมือนแม่..เหมือนพ่อผสมแม่..เหมือนปู่ย่าตายาย...

...

มาตรฐานการนับพันธุ์แมว..จึงได้กำหนดการนับรุ่นการผสมสากลอย่างน้อย 5 รุ่นแมว..โดยนับคู่ผสมคู่แรกเป็น gen0 ให้ลูกออกมาเป็น gen1 ที่ยังอาจหลุดลักษณะไปเป็นแมวอื่นตามปู่ย่าตายาย..เมื่อนำ gen1 เลือดห่างมาต่อรุ่นเป็น gen2..3..4..5..การหลุดลักษณะข้ามรุ่นจะยังอยู่ในลักษณะของสายพันธุ์ในที่สุด..นั่นคือแมวพันธุ์เลือดร้อยที่ผ่านการผสมคัดเลือดยีนแฝงอื่นๆออกไปจนหมดแล้ว

...

พื้นฐานของแมวไทยเบื้องต้นเมื่อทำความเข้าใจลักษณะทั้งหมด..ก็จะจำแนกได้หลักๆคือแมวลายกับแมวสีพื้น..สีดำกับสีส้ม..สีดำลดสี..ขาวแต้ม..ขาวล้วน..เมื่อเกิดการผสมข้ามจึงเกิดละกษณะอื่นๆขึ้นมา..เช่นวิเชียรมาศผสมสีสวาดแล้วเกิดลูกบางตัวเป็น Blue Point..ศุภลักษณ์ผสมสีสวาดแล้วลูกบางตัวเป็นกลีบบัว..และลูกแมวจำนวนหนึ่งที่เกิดจากการผสมข้ามในกลุ่มแมวมงคลดำ..วิเชียรมาศ..สีสวาด..ศุภลักษณ์..จะเกิดเป็นแมวดำ..มีทั้งดำแท้ๆ..และดำเหลือบสีที่แฝงยีนสีพิเศษซ่อนไว้ในตัว..และลักษณะพิเศษของแมวสามสีของไทยที่มีอาการสีเปรอะ..จะเป็นแมวสามสีที่มียีนแมวหน้ากากดำอยู่ในสายเลือด...

...

แมวหน้ากากดำ..วิเชียรมาศตาฟ้า..เบอร์มีสตาเหลือง..ทองกีนิสต่เหลืองอมฟ้า..เป็นแมวลดสีขนตามอุณหภูมิที่เกิดขึ้นรุ่นแรกบนแมวดำเท่านั้น..ถ้าแมวหน้ากากดำไปผสมข้ามกับแมวอื่น..เช่นวิเชียรมาศผสมแมวส้ม..ลูกบางตัวจะออกมาเป็นแมวส้ม..แต่ได้ยีนวิเชียรมาศไปลดสีขนลำตัวจนสีอ่อน..แล้วปล่อยสีเข้มตาทจุดเย็นปลายอวัยวะ 9 จุด..และสร้างสีตาได้น้อยจากการลดสีขน..ทำให้เกิดแมวพันธุผสมที่เรียกว่าวิเชียรมาศทอง..หรือ Red Point (วิเชียรมาศม่ตรฐานรุ่นแรกที่เกิดบนแมวดำจะเรียก Seal Point หรือสีครั่ง)

...

ถ้าวิเชียรมาศไปผสมแมวลาย..ลูกบางตัวก้จะะป็นแมวลายลดสีลำตัว..ปล่อยลาย 9 จุดเย็นตาฟ้า..เรียกวิเชียรมาศลายเสือ(Tabby Point)..ผสมสีสวาด..เกิดเป็นแมวเทาลดสีขน..แต้มเทา 9 จุด..ก็จะเป็นวิเชียรมาศ Blue Point..ถ้าเป็นแมวตาเหลือง..ตาเหลืองอมฟ้า..ก็จะเป็นแมวหน้ากากดำพันธุ์นั้นๆมี Point ที่ต่างๆกันไป...

...

การลดสีขนของยีนหน้ากากดำ..จะทำงานบนสีขนแมวได้ครั้งละหนึ่งสีเท่านั้น..ถ้าลูกแมวที่เกิดมาเป็นตัวเมียสามสีคือมีสีส้มและดำแถมมียีนหน้ากากดำ..จะเกิดการสับสนในการลดสีขน..เปลี่ยนมาเป็นตีสีส้มและสีดำแตกกระจายเป็นแมวสีเปรอะ..นั่นคือนางมียีนหน้ากากดำในตัว..เราจึงมักพบเห็นแมวสีเปรอะให้ลูกเป็นแมวหน้ากากดำวิเชียรมาศ..เบอร์มีส..ทองกินิสได้..ถ้ารุ่นลูกนางมีสีขนสีเดียวกับยีนหน้ากากดำ...

...

มหัศจรรย์แมวไทย..แมวมงคลผสมข้ามกลายเป็นแมวดำยีนแฝง..ผสมแมวไทยอื่นๆแฝงยีน..แล้วเกิดกาจับคู่ยีนแฝงกลับมาเกิดเป็นแมวมงคลได้อีก..เพียงแค่นำกลับมาผสมต่อรุ่นเพื่อคัดเลือดเอายีนสีและลายออก..ก็จะกลับไปเป็นแมวมงคลเลือดร้อยอีกครั้ง..ลักษณะแบบนี้เกิดวนๆกันมาตั้งแต่เสียกรุงครั้งที่สอง พ.ศ.2310

...

แมวศุภลักษณ์..เป็นตัวอย่างหนึ่งของแมวไทยพันธุ์บริสุทธิ์ที่คาดว่าสูญพันธุ์..แต่ในที่สุดก็กลับมาเพาะผสมแพร่กระจายพันธุ์ได้ใหม่อีกรอบ..จากการนำแมวศุภลักษณ์ gen0 ที่เกิดจากพ่อแม่แมวไม่ใช่แมวศุภลักษณ์..แต่เป็นลูกแมวศุภลักษณ์ที่เกิดจากยีนแฝง..นำมาผสมกับแมวเลือดห่างลักษณะเดียวกันเพื่อต่อรุ่นแมวจนเข้าระบบพ่อแม่ลักษณะเดียวกันผสมกันแล้วให้ลูกเหมือนพ่อเหมือนแม่ยกครอก..หรือหลุดไปเหมือนปู่ย่าตายาย..ก็ไม่หลุดลักษณะของสายพันธุ์...

แมวมงคล 17 ชนิด มีดังนี้

1. นิลรัตน์

ลักษณะ สีดำทั้งตัว รวมถึงเล็บ ลิ้น ฟัน ดวงตา และกระดูก หางยาวตวัดได้จนถึงหัว เลี้ยงไว้แล้วเชื่อว่าจะมีความเจริญ มีทรัพย์ ปราศจากอันตราย

2. วิลาศ

ลักษณะ มีลำตัวสีดำจากคอไปตลอดท้อง จากสองหูไปจนถึงหางและขาทั้งสี่มีสีขาว ตาสีเขียว เชื่อว่าเลี้ยงไว้แล้วจะได้เป็นเจ้าคนนายคน มีเงินทองมากมาย

3. ศุภลักษณ์ หรือ ทองแดง

ลักษณะ สีขนเป็นสีทองแดงตลอดตัว มีนัยน์ตาเป็นประกาย ใครเลี้ยงจักได้ยศถา ยิ่งพ้นพรรณนาเป็นอำมาตย์มนตรี

4. เก้าแต้ม

ลักษณะ มีสีขาวเป็นพื้น มีแต้มสีดำเก้าจุดที่คอ หัว ต้นขาหน้าและหลังทั้งสองข้างและที่ท้ายลำตัว เชื่อว่าเลี้ยงไว้แล้วจะรุ่งเรืองทางการค้าขาย

5. มาเลศ หรือ แมวโคราช หรือ สีสวาด

ลักษณะ มีขนสีดอกเลาเปรียบเสมือนกับเมฆสีเทายามฟ้ายับฝน มีนัยน์ตาหยาดเยิ้มประหนึ่งน้ำค้างย้อยต้องกลีบบัว ใครพบเร่งให้อุปถัมภ์ แมวนั้นจักนำมาซึ่งสุขสวัสดิ์มงคล

6. แซมเศวต

ลักษณะ มีขนสีดำแซมขาว มีขนบางและสั้น รูปร่างเพรียว มีนัยน์ตาดั่งหิ่งห้อย เลี้ยงดีมีคุณหนักหนา จงเร่งหามาเลี้ยงเทอญอย่าแคลงสงสัย

7. รัตนกัมพล

ลักษณะ ตัวขาวเหมือนหอยสังข์ แต่รอบตัวตรงส่วนอกมีลักษณะคล้ายสายคาดสีดำ ตาสีเหลือง เชื่อว่าเลี้ยงแล้วจะมียศ ผู้อื่นยำเกรง

8. วิเชียรมาศ

ลักษณะ เมื่อแรกเกิดมีขนสีขาวหมด พอโตขึ้นจะมีสีเปลี่ยนเป็นสีครีมอ่อน ๆ แต่ที่หน้า หาง เท้าทั้งสี่หูทั้งสองข้าง และที่อวัยวะเพศอีก 1 แห่งรวมเก้าแห่งมีสีน้ำตาล (สีเข้ม) มีนัยน์ตาประกายสีฟ้าสดใส เลี้ยงไว้มีคุณค่ายิ่งลำนักหนา จักนำโภคาพิพัฒน์สมบัติเพิ่มพูล

9. นิลจักร

ลักษณะ มีลำตัวดำสนิท ที่คอมีขนสีขาวอยู่รอบเหมือนกับปลอกคอ เชื่อว่าเลี้ยงแล้วจะมีทรัพย์มาก

10. มุลิลา

ลักษณะ ลำตัวดำ หูสองข้างมีสีขาว ตามีสีเหลืองเหมือนดอกเบญจมาศ เชื่อว่าแมวชนิดนี้เหมาะกับนักบวชเลี้ยงเพราะช่วยให้มีการเล่าเรียนดีสมปรารถนา

11. กรอบแว่นหรืออานม้า

ลักษณะ มีปานลักษณะอานม้าบนหลัง เชื่อว่าแมวชนิดนี้มีราคาสูงถึงแสนตำลึงทองคำ และให้เกียรติยศแก่เจ้าของ

12. ปัดเสวตรหรือปัดตลอด

ลักษณะ ตัวมีสีดำเป็นพื้น ตั้งแต่จมูกไปตามแนวสันหลังถึงปลายหางมีสีขาว ตาเหลืองคล้ายกับพลอย หากเลี้ยงไว้จะมีความเจริญมากกว่าคนในสกุลเดียวกันและได้ลาภยศ

13. กระจอก

ลักษณะ ไม่กระจอกเหมือนชื่อ ลำตัวกลมมีสีดำ รอบปากมีสีขาว ตาสีเหลือง เลี้ยงแล้วเชื่อกันว่าจะได้ที่ดินเงินทอง ไพร่ก็จะได้เป็นเจ้านายคน

14. สิงหเสพย์ หรือ โสงหเสพย์

ลักษณะ ลำตัวมีสีดำ ที่ปาก รอบคอ จมูกมีสีขาว ตาสีเหลือง ท่าทางเดินสง่าเหมือนสิงโต เลี้ยงแล้วมีสิริมงคล

15. การเวก

ลักษณะ ลำตัวสีดำ จมูกสีขาว ตาเป็นประกายสีทอง เชื่อกันว่าภายใน 7 เดือนที่ได้มาเลี้ยงจะได้ยศศักดิ์และลาภจำนวนมาก

16. จตุบท

ลักษณะ ตัวสีดำ เท้าทั้งสี่มีสีขาว ตาสีเหลืองเหมือนดอกโสน เชื่อว่าให้คุณกับคนเลี้ยง แต่ไม่เหมาะกับคนทั่วไป สมควรเลี้ยงแก่บุคคลชั้นสูงหรือราชินิกูลเท่านั้น

17. โกนจา หรือ ดำปลอด

ลักษณะ มีสีดำละเอียด นัยน์ตาสีดอกบวบแรกแย้ม หางเรียวยาว ท่าทางการเดินสง่าเหมือนสิงโต แมวนี้เลี้ยงดีมีคุณหนักหนา จงเร่งหามาเลี้ยงเทอญอย่าแคลงสงสัย