ถนนหรือทางเดินเลียบริมโขง ช่วงตัวอำเภอสังคม เป็นทางเดินเลียบริมโขงตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขง เดิมทีไม่มีถนนหรือทางเดิน ทางอำเภอสังคม โดยการส่งเสริมการท่องเที่ยว จังได้จัดสรรงบประมาณ เพื่อก่อสร้างทางเดินเลียบริมแม่น้ำโขง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอสังคมอีกทางหนึ่งด้วย

เสน่ห์ของถนนเลียบริมโขงโดยเฉพาะช่วงเย็นๆ ประมาณ ๑๗.๐๐ เป็นต้นไป จะมีผู้คนที่รักสุขภาพ มารวมตัวกันโดยไม่มีการนัดหมาย สวมชุดพร้อมที่จะเดินหรือวิ่งตามความชอบ มาเดิน มาวิ่งเหยาะ วิ่งเร็วแบบซ้อมเพื่อไปแข่งวิ่งเลยก็มี บ้างก็มาเป็นคู่ บ้างก็มาเป็นทีม มาเดี่ยวก็เยอะ โดยเฉพาะช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดิน จะดื่มด่ำกับบรรยากาศพระอาทิตย์ส่องแสงอัสดง กำลังลับเหลี่ยมเขา ตัดกับสายน้ำโขงที่ไหลเอื่อย เสียงไก่ขัน เสียงรถยนต์วิ่ง เสียเพลง เสียงหมอลำแว่วมาจากหมู่บ้าน พี่น้องฝั่งประเทศลาว มองเห็นแสงไฟจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง เมืองสังทอง ฝั่งตรงข้ามกับเมืองสังคมนั่นเอง

ถนนเลียบฝั่งแม่น้ำโขง ช่วงอำเภอสังคม มีความยาว โดยประมาณ ๑๐ กิโลเมตร มีอยู่ ๓ ช่วง ซึ่งสาเหตุที่แต่ละช่วง ไม่เชื่อมต่อกันก็เนื่องจาก มีคลองเล็กๆที่ไหลงลงสู่แม่น้ำโขงคั่นกลางไว้ หากจะเชื่อมต่อกัน ก็คงต้องทำเป็นสะพานเพื่อเชื่อมโยง คงต้องใช้งบประมาณอีกหลายบาททีเดียว มีแนวรั้วที่ทำด้วยเหล็ก สูงประมาณแค่เอว มีราวอยู่สามราว ยาวตลอดทางเดิน ทางเดินเลียบแม่น้ำโขงช่วงแรก จะมีระยะทางประมาณเกือบ ๒ กิโลเมตร เป็นถนนที่ไม่กว้างมากนัก ประมาณ ๑ เมตร หรือ ๑.๒๐ เมตร แค่เดินสวนกันแบบสบายๆเท่านั้น โดยจะเริ่มต้นจาก สะพานหน้าวัดแก่งศิลา (มาจากหนองคาย)ด้านขวามือ จะมีถนน หรือซอย(หลายซอยตลอดริมโขง) สามารถขับรถเลี้ยวขวาเข้าไปในซอย แค่ ไม่ถึง๒๐๐ เมตร ท่านก็จะพบกับน้ำโขงแล้วทอดยาวมองสุดลูกหูลูกตา ถนนเลียบโขงช่วงนี้จะไม่ค่อยมีคนเดินออกกำลังกายมากนัก ส่วนมากจะเป็นผู้สูงอายุและเด็กขี่จักรยานคันเล็กๆมากกว่า ช่วงที่ ๒ จะเริ่มจากวงเวียนพญานาค หรือจุดชมวิวของอำเภอสังคม หากท่านขับรถมาจากหนองคาย ถึงวงเวียนพญานาค ก่อนเข้าตัวอำเภอ จะมีจุดเชคอิน หรือจุดชมวิว ด้านขวามือ โดยทางเทศบาลสังคม จะจัดจุดจอดรถที่บริเวณไหล่ทางชั่วคราว พอให้ผู้ผ่านไปมาได้จอดรถชมความงาม บรรยากาศ เก็บภาพความประทับใจ ของสองฝั่งแม่น้ำโขง มีป้ายสวยงามไว้ให้สำหรับท่านที่ชอบถ่ายรูปด้วย ทางเดินเลียบโขงจะเริ่มจากจุดนี้และยาวไปอีกประมาณเกือบ ๒ กิโลเมตร ไปสิ้นสุดที่คลองเล็กๆ ที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขง ความกว้างของทางเดินจะอยู่ที่ ๑.๒๐ เมตร เช่นกัน ความพิเศษของทางเดินเลียบโขงช่วงที่ ๒ นี้ จะผ่านหน้าวิหารหลวงปู่ลุ่ม ซึ่งพระพุทธรูป ที่เก่าแก่ เป็นที่เคารพสักกระของชาวอำเภอสังคม และมีประวัติการก่อสร้างมายาวนา ตลอดเส้นทางเดินนั้น ส่วนมากจะเป็นด้านหลังของร้านอาหาร และโรงแรม รีสอร์ทต่าง ซึ่งจะใช้ด้านหลังเป็นสถานที่ชมวิวของโรงแรมหรือร้านอาหาร ถือว่าเป็นจุดขายหรือไฮไลท์ของแต่ละสถานที่เลยทีเดียว ช่วงที่ ๓ จะเป็นไฮไลท์ของทางเดินเลียบโขง เนื่องจากมีระยะยาวต่อเนื่องประมาณ ๖ – ๗ กิโลเมตรเลยทีเดียว โดยจะเริ่มต้นจาก ด้านหลังของกองร้อย ตชด. ถัดไปก็จะเป็นหน่วยทหาร นรข.หรือหน่วยรักษาความปลอดภัยตามลำน้ำโขง เลยไปอีกจะเป็นวัด ชื่อวัด......... วัดนี้จะมีการประดิษฐาน พระพุทธรูปปางประทานพร มีองค์สีขาวสวยงาม หน้าตักกว้าง ๖ เมตร ๑๒ สูง เมตร หันพระพักตร์ไปทางแม่น้ำโขง (ประหนึ่งว่าท่านมองพี่น้องฝั่งลาวอยู่) เรื่อยไปอีกก็จะเป็นร้านอาหารมากมาย รีสอร์ท โรงแรม อยู่ติดริมโขง ความประทับใจของถนนเลียบโขงช่วงนี้ จะเป็นหลักกิโลเมตรขนาดใหญ่ ซึ่งนอกจากจะมีไว้บอกระยะทาง ยังเป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง ซึ่งคนที่ขับรถผ่านไปมา ก็อดไม่ได้ที่จะแวะชมบรรยากาศและความงามสองฝั่งโขง พร้อมกับถ่ายรูปและเชคอินไปด้วย ความแตกต่างของทางเดินเลียบโขง ช่วงที่ ๓ จะเนทางเดินที่กว้างกว่า โดยเฉพาะ ด้านหลังของกองร้อย ตชด. ยาวไปที่ นรข. จนถึงวัด ช่วงนี้ ทางเดินจะกว้าง ๓ – ๔เมตร ปูด้วยอิฐตัวหนอนแบบก้อนใหญ่ และสะอาดอยู่ตลอดเวลา ต่อจากส่วนนี้ก็จะแคบลงมานิดหน่อย แต่ก็กว้างกว่าช่วงที่ ๑ และ ๒ คือกว้างประมาณ ๑.๕ เมตร – ๒ เมตร ที่พิเศษอีกอย่างคือ ตลอดทางเดินเลียบโขงช่วงที่ ๓ นี้ จะมีถนนคอนกรีต ให้รถยนต์ได้วิ่งคู่ขนานไปกับทางเดินเลียบโขง ตลอดแนว


ท่านที่ชื่นชอบบรรยากาศธรรมชาติ มนต์เสน่ห์แห่งลำน้ำโขง ทั้งยามเช้า พระอาทิตย์ และยามเย็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า หากท่านได้มาเยือนสังคม อย่าลืมเก็บรองเท้าผ้าใบ กางเกงขาสั้นเสื้อยืด ติดกระเป๋า มาด้วย ท่านจะได้กำไรกับทริป ทางเดินเลียบริมโขง อย่างไม่มีวันลืม