• การตรวจแมมโมแกรม

การตรวจแมมโมแกรม:เป็นการถ่ายภาพเพื่อดูรายละเอียดของเต้านมทั้ง 2 ข้างโดยใช้รังสีเอกซ์ ภาพที่ได้จะแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างภายในของเต้านม เช่นเนื้อเยื่อของเต้านม ต่อมน้ำเหลือง หลอดเลือด ไขมัน เป็นต้น ถ้าภาพที่แสดงออกมามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นแม้เพียงจุดเล็กๆ เช่น จุดหินปูนหรือก้อนขนาดเล็ก การตรวจแมมโมแกรมจะสามารถเห็นได้ในทันที ส่วนจะเป็นอันตรายหรือไม่ รังสีแพทย์จะเป็นคนวินิจฉัยต่อไป

ข้อจำกัดในการทำแมมโมแกรมในคนอายุน้อยคือ ภาพแมมโมแกรมจะเห็นความผิดปกติได้ไม่ชัดเจนเท่ากับคนสูงอายุ เนื่องจากคนอายุน้อยยังคงมีความหนาแน่นของเนื้อเต้านมอยู่มากนั่นเอง

• การตรวจอัลตร้าซาวน์เต้านม

การตรวจอัลตร้าซาวน์:เป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงช่วยในการสร้างภาพ ทำให้สามารถเห็นรายละเอียดของเต้านมได้ สิ่งที่ตรวจพบในการทำอัลตร้าซาวน์คือ ก้อนเนื้องอกและพวกถุงน้ำ (cyst) เมื่อตรวจพบแล้วรังสีแพทย์ก็จะต้องวินิจฉัยต่อไปว่าเป็นอันตรายหรือไม่

ข้อจำกัดในการทำอัลตร้าซาวน์ คือ อัลตร้าซาวน์ไม่สามารถตรวจจับความผิดปกติบางอย่างได้เหมือนแมมโมแกรมคือ จุดหินปูนขนาดเล็ก

การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม มีจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาความผิดปกติในระยะเริ่มแรก สิ่งที่ค้นหาคือก้อนเนื้อเล็กๆหรือจุดหินปูน ถ้าเราสามารถตรวจพบได้เร็วก่อนที่จะกลายเป็นก้อนขึ้นมาจะสามารถรักษาหายได้

ดังนั้นการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมให้ได้คุณภาพจึงจำเป็นต้องใช้ทั้งสองวิธีควบคู่กันเสมอ เพราะการทำแมมโมแกรมจะสามารถตรวจเจอหินปูนได้ดี ในขณะที่การตรวจอัลตร้าซาวน์ก็สามารตรวจเจอก้อนเนื้อและถุงน้ำ (cyst) ได้ เมื่อนำการตรวจทั้งสองวิธีมารวมกันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจได้สูงสุดเกือบ 100%

• Mammography

ห้องตรวจแมมโมแกรม แผนกเอกซเรย์วินิจฉัย อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ให้บริการตรวจเอกซเรย์เต้านมด้วยเครื่อง Digital mammography ยี่ห้อ HOLOGIC รุ่น Selenia และเครื่องอัลตร้าซาวน์ ยี่ห้อ phillip รุ่น iu22 และเครื่องอัลตร้าซาวน์ยี่ห้อ ALOKA รุ่น Hitachi

เปิดให้บริการสำหรับผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ทุกวันราชการ เวลา 08.00-16.00 น. ท่านสามารถนำใบส่งตรวจที่ได้รับจากแพทย์มาทำการนัดตรวจแมมโมแกรมได้ที่จุดนัดตรวจเอกซเรย์หมายเลข3 แผนกเอกซเรย์ชั้น2อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ เจ้าหน้าที่จะกำหนดวัน-เวลาในการตรวจให้กับท่านต่อไป

การตัดชิ้นเนื้อเต้านม (Biopsy)

เมื่อท่านตรวจพบความผิดปกติในเต้านม ขั้นตอนต่อมาแพทย์จะสั่งเจาะชิ้นเนื้อ(Biopsy) ถ้ารอยโรคที่ตรวจพบเป็นก้อนเนื้อที่ตรวจพบจากการตรวจด้วยเครื่องอัลตร้าซาวน์ แพทย์จะทำการตัดชิ้นเนื้อด้วยวิธี u/s guided core biopsy แต่ถ้าตรวจพบความผิดปกติที่เป็นกลุ่มหินปูนจากเครื่องแมมโมแกรม แพทย์จะทำการตัดชิ้นเนื้อที่เต้านมด้วยวิธี stereotactic biopsy

Needle localization biopsy คือการใช้เข็มชี้ระบุตำแหน่งรอยโรคในเต้านมก่อนเข้ารับการผ่าตัด วิธีนี้จะช่วยให้ศัลยแพทย์ผ่าตัดเต้านมในเฉพาะที่มีรอยโรคเท่านั้น ช่วยผู้ป่วยสงวนเต้านมไว้ได้