สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับ ภาคเรียน การสอบไล่ การสอบซ่อม
1 ปีการศึกษา ประกอบด้วย 3 ภาคเรียน ภาคเรียนหลัก คือ ภาคเรียนที่ 1 และ ภาคเรียนที่ 2 และ ภาคฤดูร้อน (Summer หรือใช้อักษรย่อ S)
นักศึกษาต้องลงทะเบียนเรียนภาคเรียนที่ 1 และภาคเรียนที่ 2 แต่จะลงทะเบียนเรียนภาคฤดูร้อน (S) หรือไม่ก็ได้(ไม่บังคับ)
นักศึกษาขาดการลงทะเบียนเรียนได้ไม่เกิน 2 ภาคหลัก (ไม่นับภาค S) เช่น ลงทะเบียนล่าสุด 1/63 แต่ไม่ได้ลงทะเบียน 2/63, 1/64 ก็ยังสามารถลงทะเบียนเรียนภาค 2/64 ได้ (ถ้าขาดการลงทะเบียนเรียนภาค 2/64 อีก จะทำให้ขาดสถานภาพการเป็นนักศึกษาอัตโนมัติ)
ลืมลงทะเบียนเรียนทำอย่างไร ? ถ้าขาดการลงทะเบียนเรียนไม่เกิน 2 ภาคหลัก ก็รอลงทะเบียนเรียนภาคเรียนต่อไปได้เลย
การลงทะเบียนสอบซ่อม : ถ้าสอบตกในภาคเรียนที่ 1 ให้ลงทะเบียนสอบซ่อมสำหรับภาคเรียนที่ 1 แต่ถ้าสอบตกภาคเรียนที่ 2 จะต้องรอไปลงทะเบียนสอบซ่อมรวมกับวิชาที่สอบตกในภาคฤดูร้อน เรียกว่า “สอบซ่อมภาค 2, S /256X”
ช่องทางการลงทะเบียนเรียน
– ออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.iregis2.ru.ac.th และแอปพลิเคชั่น RU-Regis(ส่วนกลาง), RU-Region(ส่วนภูมิภาค)
– ไปรษณย์ ดูวิธีการลงทะเบียนเรียนทางไปรษณีย์ได้คลิก ส่วนกลาง / ส่วนภูมิภาค
การรับใบเสร็จรับเงินการลงทะเบียนเรียนผ่านระบบออนไลน์ เมื่อนักศึกษาชำระเงินการลงทะเบียนเรียน ระบบจะตรวจสอบผลการลงทะเบียนเรียนและการชำระเงินเสียก่อน แล้วจึงปรับปรุงสถานะการชำระเงินให้ทราบ อาจะใช้เวลา 2-3 วันจึงจะสามารถพิมพ์ใบเสร็จฯจากระบบ e-Service ได้
ซื้อหนังสือเรียน/อุปกรณ์การเรียน ได้ที่ไหน ?
ต้องซื้อหนังสืออะไรบ้าง ?
มหาวิทยาลัยจัดพิมพ์หนังสือเพื่อให้นักศึกษาใช้ประกอบการเรียน โดย “ชื่อหนังสือ” นั้นจะตรงกับ “รหัสวิชา” นักศึกษาสามารถเลือกซื้อหนังสือตามรหัสวิชาที่ลงทะเบียนเรียนได้เลย
ราคาหนังสือ
ตรวจสอบราคาหนังสือ/ตำราเรียนของมหาวิสามารถตรวจสอบราคาหนังสือแต่ละเล่มได้ที่เว็บไซต์ของสำนักพิมพ์ ม.ร. http://www.rupress.ru.ac.th/bookstore/ และทำการค้นหาชื่อหนังสือตามรหัสวิชาตามที่ต้องการ
ใบเสร็จรับเงินลงทะเบียนเรียน
การพิมพ์ใบเสร็จรับเงินลงทะเบียนเรียน
นักศึกษาสามารถปริ้นท์(Print) ใบเสร็จรับเงินลงทะเบียนเรียน ทั้งฉบับจริง และฉบับสำเนาได้ด้วยตัวเองโดยไม่มีค่าใช้จ่าย จากระบบ e-Service ที่ https://beta-e-service.ru.ac.th/
หมายเหตุ
ใบเสร็จฯฉบับจริง ที่ปริ้นท์จากระบบ e-Service กดปริ้นท์ได้ 1 ครั้งเท่านั้น
ใบเสร็จฯฉบับสำเนา กดปริ้นท์จากระบบ e-Service ได้ไม่เกิน 100 ครั้ง
หากไม่มีความจำเป็นต้องใช้ใบเสร็จฯฉบับจริง ไม่ต้องปริ้นท์ออกมา
เมื่อลงทะเบียนเรียนเสร็จแล้ว จะยังไม่สามารถปริ้นท์ใบเสร็จลงทะเบียนเรียนออกมาได้ในทันที โดยมหาวิทยาลัยจะประกาศกำหนดวันที่สามารถเริ่มพิมพ์ใบเสร็จลงทะเบียนเรียนภายหลัง
ปริญญาตรี ส่วนภูมิภาค มีกี่คณะ
ปริญญาตรีส่วนภูมิภาค มี 4 คณะ และ 1 หลักสูตร
คณะนิติศาสตร์ สาขาวิชานิติศาสตร์
คณะรัฐศาสตร์ กลุ่มวิชาเอกบริหารรัฐกิจ
คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการ
คณะสื่อสารมวลชน สาขาวิชาสื่อสารมวลชน
หลักสูตร Pre-Degree เรียนรายกระบวนวิชา (สำหรับผู้ใช้วุฒิการศึกษา ม.3/เทียบเท่า)
หลักสูตร Pre-Degree คืออะไร
มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดโอกาสทางการศึกษาให้แก่ ผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ผู้ที่ต้องการได้รับโอกาสที่ดี ได้เรียนวิชาของชั้นปริญญาตรีล่วงหน้า เพื่อสะสมหน่วยกิตไว้พร้อมกับเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายไปด้วย เมื่อจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่าแล้ว ก็มาสมัครเข้าเป็นนักศึกษาชั้นปริญญาตรีเต็มตัวที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง และนำหน่วยกิตที่สะสมได้มาเทียบโอนจะทำให้นักศึกษาสำเร็จการศึกษาได้เร็วกว่าคนอื่น ๆ
ผู้เรียนสามารถสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีได้เมื่ออายุยังน้อย เพราะได้เก็บหน่วยกิตสะสมไว้พร้อมกับเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายไปด้วยไม่ต้องรอให้จบ ม.6 ก่อนแล้วค่อยมาสมัคร สามารถเรียนไปพร้อมกันได้เลย และไม่ถูกจำกัดด้วยเวลาหรือสถานที่ เพราะไม่ได้บังคับเข้าเรียน นักศึกษาสามารถอ่านหนังสือเอง หรือดูวีดิโอคำบรรยายย้อนหลังผ่านเว็บไซต์ได้ และเมื่อได้ลองเรียนแล้วพบว่าไม่ใช่คณะที่ตนเองถนัด ผู้เรียนสามารถที่จะเปลี่ยนไปเรียนในคณะอื่นแทนได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปสมัครเรียนใหม่ อีกทั้งยังให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า เพราะต้นทุนค่าเล่าเรียนต่ำ แต่ให้ผลกำไรในแง่ของความสำเร็จทางการศึกษาเร็วเมื่ออายุยังน้อย
พรีดีกรี เหมาะกับใคร ?
พรีดีกรีเหมาะอย่างยิ่งสำหรับน้องๆที่กำลังเรียนอยู่ ม.ปลาย (หรือเทียบเท่า) รวมถึงน้องๆ ปวช. ที่ต้องการสะสมหน่วยกิตของมหาวิทยาลัย เพื่อจะได้จบปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยรามคำแหงได้เร็วขึ้น (ถ้ามีวุฒิ ม.6 อยู่แล้ว สมัครเป็นนักศึกษาภาคปกติได้เลย) สำหรับนักศึกษา ปวส. ก็สามารถสมัครเรียนได้แต่ขอให้พิจารณาการลงทะเบียนในระบบพรีดีกรีไม่ให้ซ้ำซ้อนกับหน่วยกิตที่จะสามารถเทียบโอนจากวุฒิ ปวส. ได้ในอนาคต โดยอาจเลือกลงทะเบียนเรียนวิชาเอกได้เลย และเมื่อเรียนจบ ปวส.แล้ว ก็ให้เทียบโอนหน่วยกิตจากปวส.+หน่วยกิตที่สะสมได้ตอนเรียนพรีดีกรี เพื่อสมัครเป็นนักศึกษาภาคปกติ
ระบบการเรียนแบบพรีดีกรี และ ภาคปกติ ต่างกันอย่างไร ?
การเรียนระบบพรีดีกรี กับ การเรียนในภาคปกติ เหมือนกันเกือบทุกประการ คือ นักศึกษาพรีดีกรีเลือกสะสมหน่วยกิตได้ทุกสาขาวิชา เรียนเหมือนกัน เรียนและสอบห้องเดียวกับนักศึกษาภาคปกติ และต้องดูแลตัวเอง ลงทะเบียนเรียนเอง ใช้ปฏิทินการศึกษาเดียวกันกับนักศึกษาภาคปกติ นักศึกษาพรีดีกรี หน่วยกิตละ 50 บาท
เรียนพรีดีกรีจะได้รับปริญญาไหม ?
เรียนพรีดีกรีจะได้รับปริญญาไหม ?
การเรียนระบบพรีดีกรีไม่สามารถจบการศึกษาระดับปริญญาตรีได้ เนื่องจากระบบพรีดีกรีเป็นการสะสมหน่วยกิตเท่านั้น แต่หน่วยกิตที่สะสมไว้จะปูทางไปสู่การจบปริญญาตรีได้เร็วขึ้น !
ถ้าต้องการจบการศึกษาและรับพระราชทานปริญญาบัตร ต้องลาออกจาการเป็นนักศึกษาพรีดีกรี และมัครเป็นนักศึกษาภาคปกติด้วยวุฒิฯ ม.6 และลงทะเบียนเรียนหน่วยกิตที่เหลือ พร้อมกับเทียบโอนหน่วยกิตที่เคยสะสมเอาไว้ตอนที่เรียนพรีดีกรี เมื่อสอบเสร็จสิ้นและสอบผ่านทั้งหมดก็จะถือว่าจบการศึกษาทันที เข้าพิธีพระราชทานปริญญาบัตรได้ (บางคนสมัครเป็นนักศึกษาภาคปกติและเรียนต่อเพียงเทอมเดียวก็จบการศึกษาได้เลย เพราะสะสมหน่วยกิตตอนพรีดีกรีเอาไว้มากนั่นเอง)
ปริญญาตรี/Pre-Degree ส่วนภูมิภาค รับสมัครช่วงไหน
กำหนดการเปิดรับสมัคร ประมาณเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน ของทุกปี
สำหรับปีการศึกษา 2563 รับสมัครวันที่ 5 - 8 , 26 - 29 มิถุนายน 2563
หลักฐานการสมัครเรียนปริญญาตรี ส่วนภูมิภาค มีอะไรบ้าง
รูปถ่ายสี ขนาด 1.5 นิ้ว 2 รูป
วุฒิ ม.6 หรือเทียบเท่า (ร.บ.1 หรือ ปพ.1) หรือประกาศนียบัตร จำนวน 2 ฉบับ (หากใช้หนังสือรับรองการ ศึกษาจะต้องระบุวันสำเร็จการศึกษาด้วย)
หากใช้วุฒิปริญญาตรีหรือเทียบเท่าขึ้นไป ให้ถ่ายสำเนาวุฒิการศึกษา(Transcript) จำนวน 2 ชุด (กรณีใช้สิทธิเทียบโอนหน่วยกิต จำนวน 4 ชุด)
สำเนาการเปลี่ยนแปลงชื่อ –สกุล, คำนำหน้านาม, ยศ, ทะเบียนสมรส ฯลฯ (ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง) เท่ากับจำนวนวุฒิที่ใช้สมัคร
สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ฉบับ
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (จำนวน 2 ฉบับ)
ใบรับรองแพทย์ 1 ฉบับ(กรณีสมัครแบบ pre-degree ไม่ต้องแนบใบรับรองแพทย์)
กรณีเป็นวุฒิต่างประเทศทุกระดับจะต้องมีสำเนาใบเทียบระดับความรู้เย็บติดกับสำเนาวุฒิบัตรจำนวน 2 ฉบับ และให้เขียนที่อยู่ของสถานศึกษาที่ออกวุฒิการศึกษานั้น ไว้ด้านหลังแผ่นวุฒิการศึกษาที่ยื่นนั้นด้วย
ให้ผู้สมัครเป็นผู้ลงนามรับรองสำเนาถูกต้องด้วยตนเองทุกฉบับ
**ถ่ายสำเนาเอกสารทุกฉบับขนาด A4 เท่านั้น
ช่องทางการเรียนสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี/Pre-Degree ส่วนภูมิภาค มีช่องทางไหนบ้าง
สามารถเข้าเรียนได้จากห้องบรรยาย ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยาบริการเแลิมพระเกียรติ จังหวัดตรัง
ดูการถ่ายทอดการเรียนการสอนจากห้องเรียน http://cyberclassroom.ru.ac.th/
วีดีโอคำบรรยายย้อนหลัง http://www.m-learning.ru.ac.th/
e-Books (ตำราเรียนอิเล็กทรอนิกส์) http://e-book.ru.ac.th/
หนังสือเรียนอิเล็กทรอนิกส์ http://e-book.ram.edu/audiobook/
เรียนผ่าน RU M-Learning , RU E-BOOKS
ค่าธรรมเนียมแรกเข้าปริญญาตรี ส่วนภูมิภาค มีอะไรบ้าง
+ ค่าลงทะเบียนเรียน หน่วยกิตละ 50 บาท
+ ค่าบัตรประจำตัวนักศึกษา 100 บาท
+ ค่าธรรมเนียมแรกเข้าเป็นนักศึกษา 900 บาท
+ ค่าขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา 700 บาท
+ ข่าวรามคำแหง ภาคละ 100 บาท
+ ค่าบำรุงมหาวิทยาลัย ภาคละ 600 บาท
ค่าธรรมเนียมพิเศษ
+ ค่าธรรมเนียมการสอบกระบวนวิชาละ 60 บาท
+ ค่าบริการสื่อการสอนรวมค่าสื่อสารวิชาละ 100 บาท
ค่าธรรมเนียมโอนหน่วยกิต
+ หน่วยกิตสะสมเดิมจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงทุกกรณี หน่วยกิตละ 50 บาท
+ หน่วยกิตอนุปริญญาหรือเทียบเท่าขึ้นไปจากสถาบันอื่น หน่วยกิตละ 100 บาท
การลงทะเบียนเรียนมีกี่ภาคเรียนในแต่ละปีการศึกษา
สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี/Pre-Degree ส่วนภูมิภาค การลงทะเบียนเรียนจะแบ่งออกเป็น 3 ภาคเรียน ได้แก่ ภาค 1 ภาค 2 และภาคฤดูร้อน ต่อหนึ่งปีการศึกษา และแต่ละภาคเรียนจะมีการลงทะเบียนสอบซ่อมได้ 1 ครั้ง
การลงทะเบียนเรียนสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี ส่วนภูมิภาค ลงได้กี่หน่วยกิต
ภาค 1 ,ภาค2 ลงทะเบียนเรียนอย่างน้อยกว่า 9 หน่วยกิต และไม่เกิน 22 หน่วยกิต
ภาคฤดูร้อน ลงทะเบียนได้ไม่เกิน 9 หน่วยกิต
ช่องทางการลงทะเบียนเรียนสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี/Pre-Degree ส่วนภูมิภาค มีช่องทางไหนบ้าง
ช่องทางการลงทะเบียนเรียนมีหลายชองทางได้แก่
ลงทะเบียนเรียนด้วยตัวเอง ณ สาขาวิทยบริการฯ
ลงทะเบียนเรียนทางไปรษณีย์ (เฉพาะภาค 1-2)
ลงทะเบียนเรียนทางอินเทอร์เน็ต (เฉพาะภาค 1-2)
ลงทะเบียนผ่าน RU Region Apps
ค่าใช้จ่ายในลงทะเบียนเรียนสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี มีอะไรบ้าง
สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี ส่วนภูมิภาค (สำหรับนักศึกษาเก่า)
ค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนเรียน ภาค 1 - ภาค 2
ค่าลงทะเบียนเรียน หน่วยกิตละ 50 บาท
ค่าบำรุงมหาวิทยาลัย
ค่าบำรุงมหาวิทยาลัย ตั้งแต่รหัส 55-56 จำนวน 150 บาท
ค่าบำรุงมหาวิทยาลัย ตั้งแต่รหัส 57-59 จำนวน 300 บาท
ค่าบำรุงมหาวิทยาลัย ตั้งแต่รหัส 60-เป็นต้นไป จำนวน 600 บาท
ค่าธรรมเนียมการสอบ วิชาละ 60 บาท
ค่าบริการสารสนเทศ ภาคละ 100 บาท (ภาค 1 และภาค 2 นักศึกษาต้องชำระทุกคน)
ค่ารักษาสถานภาพ ภาคละ 150 บาท (กรณี ภาค1,ภาค2 ที่ผ่านมาไม่ได้ลงทะเบียนเรียน)
ค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนสอบซ่อม
1. ค่าธรรมเนียมการสอบ วิชาละ 60 บาท
2. ค่าหน่วยกิต หน่วยกิตละ 25 บาท
ค่าใช้จ่ายในลงทะเบียนเรียนสำหรับนักศึกษาPre-Degree มีอะไรบ้าง
สำหรับนักศึกษาPre-Degree ส่วนภูมิภาค (สำหรับนักศึกษาเก่า)
ค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนเรียน ภาค 1 - ภาค 2
ค่าลงทะเบียนเรียน หน่วยกิตละ 50 บาท
ค่าบำรุงมหาวิทยาลัย
ค่าบำรุงมหาวิทยาลัย ตั้งแต่รหัส 55-59 จำนวน 150 บาท
ค่าบำรุงมหาวิทยาลัย ตั้งแต่รหัส 60-เป็นต้นไป จำนวน 300 บาท
ค่าธรรมเนียมการสอบ วิชาละ 60 บาท
ค่าบริการสารสนเทศ ภาคละ 100 บาท (ภาค 1 และภาค 2 นักศึกษาต้องชำระทุกคน)
ค่ารักษาสถานภาพ ภาคละ 150 บาท (กรณี ภาค1,ภาค2 ที่ผ่านมาไม่ได้ลงทะเบียนเรียน)
ค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนสอบซ่อม
1. ค่าธรรมเนียมการสอบ วิชาละ 60 บาท
2. ค่าหน่วยกิต หน่วยกิตละ 25 บาท
การลงทะเบียนสอบซ่อมสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี ส่วนภูมิภาค ลงได้กี่หน่วยกิต
การลงทะเบียนสอบซ่อม นักศึกษาสามารถนำวิชาที่สอบไม่ผ่านหรือไม่ได้เข้าสอบมาลงทะเบียนสอบซ่อมในภาคเรียนที่กำหนด ตามจำนวนที่สอบไม่ผ่านของเทอมนั้นๆ ไม่สามารถนำไปลงทะเบียนสอบซ่อมข้ามภาคเรียนได้
ค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนสอบซ่อม
1. ค่าธรรมเนียมการสอบ วิชาละ 60 บาท
2. ค่าหน่วยกิต หน่วยกิตละ 25 บาท
หากไม่สามารถลงทะเบียนสอบซ่อมตามภาคเรียนที่กำหนดได้ นักศึกษาต้องลงทะเบียนในภาคเรียนปกติใหม่อีกครั้ง
การลงลงทะเบียนเรียนทาง Internet สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี/Pre-Degree ส่วนภูมิภาค
นักศึกษาสามารถลงทะเบียนเรียน ทางอินเทอร์เน็ต ที่เวปไซต์ http://www.iregis2.ru.ac.th/rb_prog/index.jsp
** นักศึกษาทำการขอรหัสผ่านก่อนการดำเนินการลงทะเบียนเรียนในแต่ละภาคการศึกษา
สถานที่สอบสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี/Pre-Degree ส่วนภูมิภาค สอบที่ไหน
สถานที่สอบสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี/Pre-Degree ส่วนภูมิภาค สอบที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดตรัง ตั้งอยู่ที่ ตำบลนาบินหลา อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง
สถานที่ใกล้เคียง โรงเรียนวิเชียรมาตุ 3 , ศูนย์การศึกษาพิเศษเขตการศึกษา 4 จังหวัดตรัง , โรงเรียนบ้านโคกชะแง้
การตรวจสอบข้อมูลนักศึกษาปริญญาตรี/Pre-Degree ส่วนภูมิภาค ได้จากไหนบ้าง
นักศึกษาสามารถตรวจสอบข้อมูล จาก ระบบ e-Services >> https://beta-e-service.ru.ac.th/ เพื่อตรวจสอบการลงทะเบียนเรียน ตารางสอบ ผลการศึกษาและข้อมุลนักศึกษา ได้จากระบบดังกล่าว หรือสอบถามได้ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเแลิมพระเกียรติ จังหวัดตรัง
วัน เวลาในการสอบ สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี/Pre-Degree ส่วนภูมิภาค
การสอบของนักศึกษาปริญญาตรี/Pre-Degree ส่วนภูมิภาค จะสอบวันเสาร์และวันอาทิตย์ จำนวน 2 สัปดาห์ วันละ 2 คาบสอบ ดังนี้
A (คาบเช้า) สอบเวลา 09.00 -11.30 น.
B (คาบบ่าย) สอบเวลา 13.00 - 15.30 น.
เอกสารที่ใช้ในการสอบ สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี/Pre-Degree ส่วนภูมิภาค
เอกสารที่ต้องนำเข้าห้องสอบ
บัตรนักศึกษา
บัตรประชาชนหรือบัตรประจำตัวข้าราชการ
ใบเสร็จรับเงินค่าลงทะเบียนเรียน
ตารางสอบ
(กรณีเอกสารไม่ครบให้ติดต่อผู้ประสานงานการสอบก่อนเข้าห้องสอบ)
ผลการศึกษา สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี/Pre-Degree ส่วนภูมิภาค
ผลการศึกษาที่มีคะแนน
A = 4.00 , ดีเยี่ยม
B+ = 3.50 , ดีมาก
B = 3.00 , ดี
C+ = 2.50 , ปานกลาง
C = 2.00 , พอใช้
D+ = 1.50 , อ่อน
D = 1.00 , อ่อนมาก
F = 0.00 , สอบตก/ขาดสอบ
ผลการศึกษาที่ไม่มีคะแนน
S = ผลการประเมินเป็นที่น่าพอใจ
U = ผลการประเมินไม่เป็นที่น่าพอใจ
W = การขอถอนกระบวนวิชา
X = รอผลการสอบ
การขอจบการศึกษานักศึกษาต้องสอบผ่านตามโครงสร้างหลักสูตร เกรดเฉลี่ยรวม 2.00 ขึ้นไป
หากขาดสอบ/สอบไม่ผ่าน
สำหรับนักศึกษาที่หากขาดสอบ/สอบไม่ผ่าน มหาวิทยาลัยจะมีการกำหนดให้ลงทะเบียนสอบซ่อม เทอมละ 1 ครั้ง ทั้งนี้จะประกาศให้นักศึกษาทราบอีกครั้งในแต่ละภาคเรียน
การรักษาสถานภาพนักศึกษา
สำหรับนักศึกษาที่ไม่ลงทะเบียนเรียน ในภาคการศึกษาปกติ จะต้องชำระค่ารักษาสถานภาพนักศึกษา ภาคเรียนละ 150 บาท นักศึกษาผู้ใดค้างชำระค่ารักษาสถานภาพนักศึกษาเป็นเวลา 2 ภาคการศึกษาปกติติดต่อกัน โดยไม่ชำระค่ารักษาสถานภาพนักศึกษาในวันสุดท้ายของการกำหนดวันลงทะเบียนเรียนในภาคการศึกษาถัดไป จะหมดสถานภาพการเป็นนักศึกษา
ตารางสอบรับได้จากไหน
นักศึกษาสามารถดาวน์โหลดตารางสอบไล่ รายบุคคล ได้จาก https://beta-e-service.ru.ac.th/index.php โดยนักศึกษาต้องสมัครสมาชิก เพื่อเข้าใช้งาน
ดูผลการสอบได้จากไหน
นักศึกษาสามารถดูผลการสอบไล่แต่ละภาคการศึกษา ได้จาก https://beta-e-service.ru.ac.th/index.php โดยนักศึกษาต้องสมัครสมาชิก เพื่อเข้าใช้งาน
การขอย้ายศูนย์สอบ
นักศึกษาที่ประสงค์ขอย้ายศูนย์สอบหลังจากการลงทะเบียนเรียนประจำแต่ละภาคการศึกษา ให้นักศึกษาติดต่อเขียนคำร้องก่อนสอบ ไม่น้อยกว่า 20 วัน ทำการ พร้อมแนบซองจดหมาย และจ่าหน้าซองถึงตัวเอง พร้อมแนบใบเสร็จรับเงินภาคเรียนที่ต้องการย้ายศูนย์สอบ
บัตรนักศึกษาหายต้องทำยังไง
นักศึกษาที่ทำบับตรนักศึกษาหาย (บัตรแบบATM)
1. แจ้งความบัตรหาย
2. นำใบแจ้งความ รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว และบัตรประชาชน พร้อมยื่นคำร้อง ณ สาขาวิทยบริการ
นักศึกษาที่ต้องการขอกู้ยืม กยศ.ต้องทำยังไง
สำหรับนักศึกษาที่ต้องการขอกู้ยืม กยศ. สามารถลงทะเบียนขอรับรหัสเข้าใช้งาน
ระบบการกู้ยืมกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาแบบดิจิทัล (DSL) ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป ได้ 2 ช่องทาง
1. สามารถลงทะเบียนผ่าน website
ได้ทาง https://wsa.dsl.studentloan.or.th
2. ผ่านแอปพลิเคชัน กยศ. Connect
ทั้ง iOS และ Android
การเทียบโอนเป็นนักศึกษาปกติ(สำหรับนักศึกษาพรีดีกรีที่จบม.6แล้ว)ต้องทำยังไง
นักศึกษาพรีดีกรีที่สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย(หรือเทียบเท่า)แล้ว สามารถสมัครเป็นนักศึกษาใหม่และเทียบโอนหน่วยกิตให้เป็นนักศึกษาภาคปกติได้ โดยดำเนินการดังต่อไปนี้
1. ลาออกจากการเป็นนักศึกษาพรีดีกรี
ให้ทำการลาออกจากการเป็นนักศึกษาพรีดีีกรี โดยเขียนใบคำร้องได้ที่ ฝ่ายทะเบียนประวัตินักศึกษา อาคาร สวป. ชั้น 2 มหาวิทยาลัยรามคำแหง (หัวหมาก) ในวันและเวลาราชการ โดยใช้บัตรประจำตัวนักศึกษาหรือบัตรประจำตัวประชาชน (นักศึกษาสามารถขอคำปรึกษาได้จากเจ้าหน้าที่ หากยังมีภาคการสอบที่คาบเกี่ยวเมื่อได้ทำเรื่องลาออกไปแล้ว)
2. สมัครเป็นนักศึกษาใหม่โดยใช้สิทธิเทียบโอนหน่วยกิต
*** นักศึกษาสามารถทำเรื่องการลาออกและสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ได้ในวันเดียวกัน ***
การเทียบโอนหน่วยกิต
นักศึกษาจะต้องใช้สิทธิ์เทียบโอนหน่วยกิต โดยจะทำการเทียบโอนวันที่สมัครเข้าเป็นนักศึกษา หากนักศึกษายังรอการประกาศผลสอบอยู่ และเกรดยังไม่เข้าระบบทรานสคริปท์ทั้งหมด ให้นักศึกษาแจ้งเจ้าหน้าที่รับสมัคร และให้ทำการชำระค่าเทียบโอนไว้ก่อน 100 บาท และหลังจากผลสอบที่รอเข้าระบบทรานสคริปท์แล้ว ให้ขอทรานสคริปท์และไปดำเนินการเทียบโอนหน่วยกิตในที่ทำการคณะที่ได้สมัครเข้าอีกครั้งหลังจากการรับสมัครฯ
เกณฑ์การรับเกียรตินิยม
เกณฑ์ของการได้รับเกียรตินิยม มีดังนี้ คือ
1) ต้องเรียนจบการศึกษาภายใน 4 ปีการศึกษา
2) ต้องไม่ใช้สิทธิเทียบโอนหน่วยกิต เว้นแต่นักศึกษา Pre-degree ซึ่งสมัครเรียนต่อเนื่อง เมื่อจบชั้น ม.6 แล้วและเรียนจบการศึกษาภายใน 4 ปีการศึกษา นับตั้งแต่เป็นนักศึกษา Pre-degree
3) ต้องไม่รีเกรด
4) สอบตกและสอบซ่อมผ่านมีสิทธิได้เกียรตินิยม
5) ต้องได้เกรดเฉลี่ย ถึงเกณฑ์ที่จะได้เกียรตินิยม และ
6) ต้องเป็นผู้ที่มีความประพฤติดี
ปริญญาตรีเกรียตินิยมอันดับหนึ่ง หรือเหรียญทองต้องเป็นผู้ที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ 3.75 ขึ้นไป
ปริญญาตรีเกรียตินิยมอันดับหนึ่ง ต้องเป็นผู้ที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.50
ปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับสอง ต้องเป็นผู้ที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.25 นับภาคฤดูร้อน และสอบซ่อม
ขั้นตอนแจ้งจบการศึกษา
ขั้นตอนแจ้งจบการศึกษา
1. กรอกข้อมูลเพื่อขึ้นทะเบียนขอสำเร็จการศึกษาที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย http://www.mis.ru.ac.th/Ru_job.jsp โดยน.ศ.ต้องดำเนินการ ให้เสร็จสิ้นก่อนมาแจ้งจบที่คณะฯ พร้อมทั้ง Print ใบยืนยันการกรอกข้อมูลทาง Internet แนบมาเป็นหลักฐานด้วย
2. เช็คเกรดภาคล่าสุด [ ภาคที่ครบหลักสูตร ] ก่อน ว่าผลสอบออกเป็นทางการ หรือยัง [ ถ้ายังต้องรอผลสอบเข้าคอมฯ ไม่ติด I หรือ * ]
3. เตรียมเอกสารการแจ้งจบมายื่นที่ห้องสำนักงาน รูปถ่ายสวมชุดครุย ขนาด 2 นิ้ว 1 รูป สำเนาใบเสร็จลงทะเบียนเรียน 3 ภาคสุดท้าย หากไม่มีขอได้ที่ห้องสำนักงาน ชั้น 1 สำเนาบัตรนักศึกษา 1 ใบ สำเนาบัตรประชาชน
** หากนักศึกษาต้องการขอใบรับรองคณะฯ ด่วน ให้เตรียมเอกสารตามขั้นตอนด้านล่างยื่นพร้อมเอกสารแจ้งจบ **
4. ยื่นเอกสารพร้อมใบคำร้องที่กรอกแล้ว
5. รอรับไปรษณียบัตรส่งไปตามที่อยู่ที่ได้ให้ไว้หรือตรวจสอบผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ประมาณ 35 วัน เพื่อแจ้งครั้งที่ , ลำดับที่ ที่สภาอนุมัติ
6. เมื่อได้รับไปรษณียบัตรแล้วจึงไปติดต่อที่ห้องสำนักงาน ชั้น 1 เพื่อเขียนคำร้องขึ้นทะเบียนและขอใบรับรองผลการศึกษา
7. รอฟังประกาศรายชื่อ และ สถานที่นัดเข้าซ้อมย่อย ซ้อมใหญ่ และรับจริง จากทางประกาศต่างๆ ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง
รับบัตรนักศึกษาเมื่อไหร่
ผู้ที่ทำการสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ด้วยตนเองที่มหาวิทยาลัย จะได้ “ใบนัดรับบัตรประจำตัวนักศึกษา” ในขั้นตอนสุดท้ายของการสมัครฯ โดยให้ทำการรับบัตรตามกำหนดการที่แจ้งไว้
ผู้ที่ทำการสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ผ่านระบบออนไลน์ ให้ตรวจสอบวันนัดรับบัตร ได้จากเมนู “รับบัตรนักศึกษา” ซึ่งจะปรากฎในขั้นตอนสุดท้ายของสถานะรับสมัครในเว็บไซต์รับสมัคร
เข้าเว็บไซต์ http://www.regis.ru.ac.th/checkstudentcard/
กดปุ่ม “สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี” (ปุ่มสีน้ำเงิน)
ให้เริ่มทำการกรอกข้อมูล “รหัสนักศึกษา” หรือกรอก “ชื่อ” หรือกรอก “นามสกุล” ในช่องที่กำหนดไว้ ระบบจะทำการค้นหาสักครู
หากพบหน้าเว็บไซต์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง หมายถึง ยังไม่สามารถรับบัตรได้ กรุณารอระบบปรับปรุงข้อมูล โดยขอให้กลับมาตรวจสอบใหม่ถัดไปอีก 3-5 วันทำการ
หากตรวจสอบข้อมูลแล้วพบวันนัดรับบัตร ขอให้ตรวจสอบ รหัสนักศึกษา, ชื่อ, สกุล ว่าเป็นของท่านจริงหรือไม่ และทำการรับบัตรตามวัน และสถานที่ที่ได้กำหนดไว้
หมายเหตุ นักศึกษาจะสามารถเริ่มตรวจสอบสถานะรับบัตรที่หน้าเว็บไซต์ได้ หลังจาก 60 วัน นับจากวันที่ทำการสมัครเป็นนักศึกษาใหม่
การลาออกจากการเป็นนักศึกษา
การลาออกจากการเป็นนักศึกษา
นักศึกษาส่วนกลางและนักศึกษาส่วนภูมิภาค ดำเนินการด้วนตนเอง (ทำเรื่องลาออกแทนไม่ได้) ให้นักศึกษานำบัตรนักศึกษาไปติดต่อที่ฝ่ายทะเบียนประวัตินักศึกษา สำนักบริการทางวิชาการและทดสอบประเมินผล (สวป.) ชั้น 2 มหาวิทยาลัยรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
หมายเหตุ ถ้าลาออกเพื่อสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ ให้ระบุด้วยว่าจะขอใช้สิทธิ์สอบในภาคใดบ้าง
นักศึกษาส่วนภูมิภาคสามารถยื่นเรื่องลาออกทางไปรษณีย์ได้โดยส่งเอกสาร ดังนี้
ข้อ 1. สำเนาบัตรประจำตัวนักศึกษา และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ถ่ายเฉพาะด้านหน้าไม่ต้องถ่ายด้านหลัง และให้อยู่ในหน้าเดียวกัน เซ็นชื่อรับรองสำเนาถูกต้องในสำเนาบัตร
ข้อ 2. เขียน ชื่อ นามสกุล รหัสประจำตัวนักศึกษา เหตุผลที่ลาออก และถ้าลาออกเพื่อสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ ให้ระบุด้วยว่าจะขอใช้สิทธิ์สอบในภาคใดบ้าง http://www.regis.ru.ac.th/download/service/45.pdf
ส่งเอกสารใน ข้อ 1., ข้อ 2. ไปที่
หัวหน้าฝ่ายทะเบียนประวัตินักศึกษา ฝ่ายทะเบียนประวัตินักศึกษา
สำนักบริการทางวิชาการและทดสอบประเมินผล มหาวิทยาลัยรามคำแหง
แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ
กรุงเทพฯ 10240
หมายเหตุ ถ้านักศึกษา Print คำร้องลาออกทาง Internet นักศึกษาสามารถกรอกรายละเอียดในใบคำร้องที่ Print ออกมาแล้วส่งไปยังที่อยู่ข้างต้นพร้อมหลักฐานได้
***ถ้าไม่ได้ลงทะเบียนเรียนติดต่อกันเกิน2เทอมขึ้นไปก็จะพ้นสภาพนักศึกษาโดยอัตโนมัติ
***ถ้าลาออกเพื่อการสมัครใหม่สามารถดำเนินการในขั้นตอนการสมัครได้