กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้จัดตั้งวิทยสถานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย (Thailand Academy of Sciences; TAS) หรือธัชวิทย์ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงเครือข่ายนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศในการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศบนรากฐานของวิทยาศาสตร์ที่ดี ศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมทางเคมี และศูนย์ความเป็นเลิศอื่น ภายใต้การกำกับของกองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กปว.) สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการดำเนินงานตามพันธกิจของธัชวิทย์ เนื่องจากมีเครือข่ายนักวิจัยและการสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมที่เข้มแข็ง คอลัมน์ In Focus ฉบับนี้จึงขอนำเสนอรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับธัชวิทย์ ตลอดจนบทบาทหน้าที่ของศูนย์ฯ ต่อการดำเนินงานของธัชวิทย์ในลำดับต่อไป
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้จัดตั้งวิทยสถานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย (Thailand Academy of Sciences; TAS) หรือธัชวิทย์ ด้วยเล็งเห็นว่าการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดดจะเป็นกุณแจที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีรูปแบบการดำเนินงานใน 3 มิติ ได้แก่
ธัชวิทย์ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงเครือข่ายนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศในการทำงานร่วมกัน รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีอยู่ เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศบนรากฐานของวิทยาศาสตร์ที่ดี เกิดการพัฒนาคนไทยที่มีทักษะความรู้ขั้นแนวหน้า และส่งผลให้อันดับของมหาวิทยาลัยไทยก้าวสู่ระดับที่สูงขึ้นในสากล
นอกจากนี้ บทบาทของธัชวิทย์ในการผสานความร่วมมือนักวิจัยระหว่างสถาบันวิจัย ซึ่งมีทรัพยากรเครื่องมือที่ทันสมัย มหาวิทยาลัยซึ่งมีบุคลากรทางวิชาการที่มีคุณภาพสูง ศูนย์ความเป็นเลิศซึ่งมีเครือข่ายความเชี่ยวชาญที่เข้มแข็ง หน่วยงานด้านนโยบายซึ่งกำกับทิศทางในการพัฒนาประเทศ และหน่วยงานสนับสนุนทุนวิจัยซึ่งบริหารจัดการกิจกรรมวิจัย จะช่วยให้การผลิตกำลังคนสมรรถนะสูงของประเทศเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ศูนย์ความเป็นเลิศทั้ง 11 ศูนย์ ภายใต้การกำกับของกองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กปว.) สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) สามารถใช้เครือข่ายความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่เข้มแข็งในการขับเคลื่อนพันธกิจของธัชวิทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินงานใน 4 ด้านสำคัญ คือการวิจัยขั้นแนวหน้าเพื่ออนาคต การสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรม การพัฒนากำลังคน และการใช้ประโยชน์งานวิจัย ซึ่งครอบคลุม 9 หมุดหมายในการพัฒนาประเทศภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ได้แก่
หมุดหมายที่ 1 ไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง
หมุดหมายที่ 3 ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก
หมุดหมายที่ 4 ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง
หมุดหมายที่ 6 ไทยเป็นฐานการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะที่สำคัญของโลก
หมุดหมายที่ 7 ไทยมีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เข้มแข็ง มีศักยภาพสูง และสามารถแข่งขันได้
หมุดหมายที่ 8 ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน
หมุดหมายที่ 10 ไทยมีเศรษฐกิจหมุนวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ
หมุดหมายที่ 11 ไทยสามารถลดความเสี่ยงและผลกระทบจากภัยธรรมชาติ และการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
หมุดหมายที่ 12 ไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การ พัฒนาแห่งอนาคต
ศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมทางเคมี (PERCH-CIC) ร่วมมือกับศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์ (CEMB) ในการดำเนินงานแบบเครือข่ายที่มีความเข้มแข็งทางวิชาการในระดับนานาชาติ มีการศึกษาและวิจัยด้านองค์ความรู้พื้นฐานและเชิงประยุกต์ ที่สามารถพัฒนาต่อยอดและนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างเป็นที่ประจักษ์ ความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์เคมีและเทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์ที่เกิดขึ้นยังนำไปสู่การผลิตบุคลากรในระดับบัณฑิตศึกษาและนักวิจัยรุ่นใหม่ นอกเหนือจากการพัฒนาเครือข่ายการวิจัยภายในประเทศแล้ว กิจกรรมวิจัยที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมายังนำไปสู่ความร่วมมือทางวิชาการกับทีมวิจัยในหลายประเทศ ทั้งในแถบยุโรป เอเชียตะวันออก และประเทศในกลุ่มอาเซียน
ด้วยโครงสร้างพื้นฐานความเชี่ยวชาญ และเครือข่ายการทำงานด้านวิทยาศาสตร์เคมี และเทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์ ทั้งในและต่างประเทศ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมทางเคมี (PERCH-CIC) และศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์ (CEMB) สามารถช่วยสนับสนุนพันธกิจในด้านวิทยาศาสตร์เคมีและชีวการแพทย์ (Chemical and Biomedical Sciences) โดยอาศัยโครงสร้างการบริหารจัดการที่เข้มแข็งและมีความคล่องตัวของทั้ง 2 ศูนย์ เพื่อร่วมกันดำเนินกิจกรรมทางวิชาการภายใต้ธัชวิทย์ อันมีสาระสำคัญโดยสรุปดังต่อไปนี้
การสร้างความเป็นเลิศด้านกำลังคนและผลผลิตทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์เคมีและชีวการแพทย์ เพื่อให้บรรลุยุทธศาสตร์ชาติด้านสุขภาพและความอยู่ดีมีสุข (Health and Wellness) โดยในเบื้องต้น หัวข้อวิจัยเป้าหมายคือองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเชิงลึก และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ
ประยุกต์ใช้องค์ความรู้ในภารกิจด้านอื่นๆ ภายในธัชวิทย์ เช่น ด้าน Modern agricultural science and high-value foods ด้าน Sustainable energy and climate change ด้าน Environmental health and drug development ด้าน Advanced mathematical sciences และด้าน Physics นอกจากนี้ งานด้านวิทยาศาสตร์เคมีและชีวการแพทย์ ยังสามารถส่งเสริมภารกิจของ Thailand Academy of Social Sciences, Humanities and Arts ที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านวิทยาศาสตร์เคมี และชีวการแพทย์
สร้างกำลังคนขั้นสูงที่ตรงกับความต้องการของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรม BCG เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) เทคโนโลยีการแพทย์แม่นยำ และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร
สร้างโครงการพัฒนาทักษะเดิม เพิ่มเติมทักษะใหม่ (Reskill/Upskill) โดยเน้นบุคลากรในระดับบัณฑิตศึกษา ได้แก่ ปริญญาโท ปริญญาเอก และหลังปริญญาเอก
สร้างองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เคมีและชีวการแพทย์ในระดับสากลที่มีคุณภาพสูง