สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต2
สําหรับวิธีการวิจัยที่จะนําผลการวิจัยไปพัฒนากระบวนเรียนรูปในที่นี้จะนําเสนอวิธีการวิจัย 6 วิธีดังนี้
1. การวิจัยแบบสํารวจ (Survey of Exploratory Studies)
เป็นการวิจิยที่มุ่งค้นหาสภาพความจริงในประเด็น เพื่อนำข้อค้นพบมาพัฒนาวิธีการสอน โดยกําหนดประเด็นที่ต้องการรู้แล้วออกแบบเครื่องมือไปหาคําตอบ เพื่อให้ได้ข้อมูลและการนําผลการวิเคราะห์ข้อมูลมารายงานลักษณะที่มีอยู่ในสภาพนั้น ๆ วิธีการวิจัยนี้อาจเป็นการเริ่มต้นเพื่อนําไปสู่การวิจัยเพื่อแก้ปัญหาหรือการวิจัยเพื่อพัฒนา เช่น สํารวจปัญหาการเรียนการสอน สํารวจความต้องการของนักเรียน สํารวจลักษณะกิจกรรมที่นักเรียนพึงพอใจ สํารวจเจตคติต่อวิชาใดวิชาหนึ่ง สํารวจสภาพครอบครัวของนักเรียน
2. การเปรียบเทียบหาสาเหตุ (Causal Comparative Studies)
ใช้เพื่อศึกษาหาความสัมพันธ์ของสาเหตุและผลโดยสังเกตจากผลแล้วสืบเสาะไปหาสาเหตุโดยการเปรียบเทียบความแตกต่างและความคล้ายคลึงระหว่างปรากฏการณ์หรือคุณลักษณะเพื่อตรวจสอบดูว่ามีสิ่งใดควรจะเป็นสาเหตุ หรือทําให้เกิดเหตุการณ์นั้น เช่น ศึกษาสาเหตุของนักเรียนที่ตกซํ้าชั้น ศึกษาสาเหตุของการขาดเรียน ศึกษาสาเหตุของการออกเสียงภาษาไทยไม่ชัด เป็นต้น
3. การวิจัยแบบศึกษาความสัมพันธ์ (Interrelationship Studies)
เปนการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ ตั้งแต่สองตัวขึ้นไป เพื่อใช้ ในการวางแผนการสอนหรือออกแบบนวัตกรรมการสอน เช่น ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างวิธีสอนของครูกับผลการเรียนของนักเรียน ศึกษาความสัมพั นธ์ ระหว่างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ต่อเจตคติทางการเรียน
4. การวิจัยแบบศึกษารายกรณี (Case Studies)
เป็นการวิจัยที่มุ่งศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างเฉพาะเจาะจง อย่างละเอียดลึกซึ้ง โดยศึกษากับเด็กคนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งที่มีลักษณะเฉพาะเพื่อให้เกิดความเข้าใจถึงสภาพปัญหา สาเหตุแห่งปัญหาที่จะนําไปสู่การแก้ปัญหาที่ตรงประเด็น หรืออาจศึกษากรณีแห่งความสําเร็จเพื่อเป็นตัวอย่างของรูปแบบการดําเนินการในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น ศึกษากรณีเด็กติดอ่าง หรือเด็กมีปัญหาเรื่องอื่น ๆ หรือ กรณีศึกษาเด็กอัจฉริยะด้านต่างๆ เป็นต้น
5. การทดลองใช้นวัตกรรม (Experimental Studies)
ครูพัฒนานวัตกรรมการสอนชนิดใดชนิดหนึ่งไปทดลองใช้จริงกับนักเรียนในชั้นเพื่อตรวจสอบผลของการใช้นวัตกรรมชนิดนั้น ลักษณะเช่นนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi - Experimental Design)
6. การวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research)
ใช้เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนางานของผู้วิจัยเองเป็นการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของตนโดยการรวบรวมร่วมมือการสะท้อนตนเอง การใช้วิจารณญาณ โดยผู้วิจัยที่ต้องเป็นผู้ปฏิบัติงานเอง กรณีของการวิจัยในชั้นเรียนผู้วิจัยคือครูผู้สอนเองที่มุ่งศึกษาในภาคปฏิบัติเกี่ยวกับการแก้ปัญหาที่ประสบอยู่ และมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายของการเรียนการสอน โดยใช้กระบวนการความร่วมมือของผู้ เกี่ยวข้องอาจเป็นนักเรียน ผู้ปกครอง หรือบุคคลในชุมชน
ที่มา : รองศาสตราจารย์วรรณวดี ม้าลำพอง http://journal.feu.ac.th/pdf/v7i2t2a6.pdf