สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณ ชายแดนไทย–กัมพูชา
สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณ ชายแดนไทย–กัมพูชา ยังคงปะทุอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด พล.อ.รังษี ออกมาแสดงจุดยืนแข็งกร้าว คัดค้านการเปิดด่านชายแดน พร้อมเตือนว่าการเปิดด่านคือการ “ยื่นหอกให้ศัตรู” และจะทำให้ไทยเสียเปรียบอย่างร้ายแรงบนเวทีเจรจา ขณะเดียวกันยังมั่นใจว่า หากไทยยังคงปิดด่านต่อไปอีก 2 เดือน สุดท้ายแล้ว ฮุนเซน จะจบลงแบบเดียวกับรัฐบาลเนปาล
พล.อ.รังษีย้ำว่า ไทยไม่ควรประนีประนอมกับกัมพูชาในเวลานี้ เพราะการเปิดด่านชายแดนมีผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะ 3 ประเด็นหลัก
หนุนรายได้ฮุนเซน: การเปิดด่านจะทำให้กัมพูชามีเงินทุนเพิ่มขึ้น และอาจนำไปใช้ในการจัดหาอาวุธมาต่อสู้กับไทย
เปิดทางเครือข่ายผิดกฎหมาย: เมื่อด่านเปิดเต็มรูปแบบ เว็บไซต์พนันออนไลน์และแก๊งสแกมเมอร์จะกลับมาดำเนินการอีกครั้ง
ไทยเสียเปรียบทางการทูต: การยอมเปิดด่านในสถานการณ์ที่ยังตึงเครียด เปรียบเหมือนการยื่นดาบให้ศัตรูกลับมาฟันไทย และสะท้อนความอ่อนแอในการเจรจาระดับนานาชาติ
พล.อ.รังษีเสนอว่า หากมีการเจรจาจริง ไทยต้องกำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจนเพื่อให้กัมพูชาแสดงความจริงใจ ได้แก่:
ถอนกำลังทหาร – ทหารกัมพูชาที่เสริมกำลังในพื้นที่ภาค 2 ต้องถอยกลับที่ตั้ง
อพยพชาวบ้าน – ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำในหมู่บ้านหนองจานและหนองย่าแก้วต้องถูกอพยพออก
คืนพื้นที่ – ส่งคืนพื้นที่ให้ชาวไทยเข้าอยู่อย่างปลอดภัย
หยุดส่งม็อบ – ยุติการนำม็อบมากดดันทหารไทยและเคลื่อนลวดหนามล้ำเข้ามาในฝั่งไทย
อย่างไรก็ตาม พล.อ.รังษีชี้ว่า จนถึงขณะนี้กัมพูชายังไม่เคยทำตามข้อเรียกร้อง กลับเพิ่มกำลังทหารและอาวุธในพื้นที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง
พล.อ.รังษีแสดงความเชื่อมั่นว่า หากไทยยังปิดด่านต่อเนื่องไปอีกเพียง 2 เดือน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ต่างจาก เหตุการณ์ในเนปาล ซึ่งรัฐบาลถูกประชาชนโค่นล้มเพราะไม่สามารถตอบสนองความเดือดร้อนได้ เขาระบุว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมา ไทยต้องแลกมาด้วยความสูญเสียไม่น้อย
ทหารไทยเสียชีวิตแล้ว 15 นาย
ทหารบาดเจ็บขาขาด 6 นาย
ชาวบ้านเสียชีวิตหลายราย
ดังนั้น การเปิดด่านในเวลานี้เท่ากับเป็นการช่วยประคองอำนาจของฮุนเซน ทั้งที่ไทยกำลังบรรลุยุทธศาสตร์การกดดันทางเศรษฐกิจ
ความสัมพันธ์ระหว่างไทย–กัมพูชายังอยู่ในจุดเปราะบาง พล.อ.รังษีเลือกยืนข้างแนวทาง กดดันต่อเนื่องด้วยการปิดด่าน และไม่ยอมเจรจาแบบไร้เงื่อนไข ขณะเดียวกันยังมั่นใจว่า ฮุนเซนกำลังเผชิญแรงกดดันภายในประเทศ และอาจถูกประชาชนกัมพูชาลุกฮือโค่นอำนาจ หากสถานการณ์ยังดำเนินต่อไป