บรรทัดเหล็กที่ใช้สำหรับวัดชิ้นงานหรือชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนตนั้นจะมีหน่วยวัดอยู่ 2 ระบบคือ
ระบบเมตริก โดนเมตริกนั้นจะมีหน่วยวัดเป็น มิลลิเมตร เซนติเมตร ซึ่งบรรทัดเหล็กทั่วๆ ไป ในหน่วยเมตริกจะมีความยาว 30 เซนติเมตร ใน 1 เซนติเมตร จะแบ่งออก เป็น 10 ช่อง แต่ละช่องจะมีค่าเท่ากับ 1/10 เซนติเมตร หรือเท่ากับ 1 มิลลิเมตร และ ใน 1 มิลลิเมตรนั้น จะมี การแบ่งย่อยเป็น 2 ส่วน โดยแต่ละส่วนจะมีค่าเท่ากับ 0.5 มิลลิเมตร
ระบบอังกฤษนั้นจะมีหน่วยวัดเป็นนิ้ว ค่าที่ได้จากการวัดจะเป็นเศษส่วนของนิ้ว โดยมการนำเอาระยะ 1 นิ้ว มาแบ่งเป็น 8 ส่วน 16 ส่วน 32 ส่วน
และ 64 ส่วน ในแต่ละส่วนจะมีค่า 1/8นิ้ว 1/16 นิ้ว 1/32 นิ้ว และ 1/64 นิ้ว ตามลำดับ ค่าความละเอียดสูงสุดที่อ่านได้คือ 1/64 นิ้ว
ในการอ่านค่าบรรทัดเหล็กในระบบเมตริกนั้นจะมีหน่วยวัดเป็น มิลลิเมตร หรือ เซนติเมตร บรรเหล็กจะมีความละเอียด 0.5 มม. ในบรรทัดเหล็กจะมีการแบ่งช่วงที่มีขนาด 0.5 มม. ในช่วงแรกของบรรทัดเหล็กเท่านั้น คือ 0 - 5 มม. 0 - 10 มม. เป็นต้น หลักจาก 5 ซม. หรือ 10 ซม. จะมีการแบ่งความละเอียดที่ช่องละ 1 มม.
หมายเลข 1 มีค่าเท่ากับ 1 มม. หมายเลข 2 มีค่าเท่ากับ 4 มม.
หมายเลข 3 มีค่าเท่ากับ 7.5 มม. หมายเลข 4 มีค่าเท่ากับ 12 มม.
หมายเลช 5 มีค่าเท่ากับ 21.5 มม.
ในการอ่านค่าบรรทัดเหล็กในระบบอังกฤษ สามารถแบ่งได้หลายกรณีดังนี้ การอ่านค่าจากสเกลใน 1 นิ้วแบ่ง ออกเป็น 8 ส่วน
หากพิจารณาจากรูป จะพบว่า ใน 1 นิ้วจะแบ่งออกเป็น 8 ขีด หรือ 8 ส่วน วิธีการอ่านคือ ให้เอาจำนวนขีดที่นับได้หารด้วย 8 ดังนั้นจึงได้ว่า 1 ขีด หรือ 1 ช่อง ก็เท่ากับ 1/8 นิ้ว และขีดถัดไป ก็จะมีค่าเท่ากับ 2/8 นิ้ว ตามลำดับ (สำหรับเศษส่วนที่สามารถทำเป็นอย่างต่ำได้ คือเลขคู่จะต้องทำให้เป็นเศษส่วนอย่างต่ำจึงเป็นคำตอบ เช่น 2/8 นิ้ว = 1/4 นิ้ว 4/8 นิ้ว =1/2 นิ้ว เป็นต้น ) และถ้าหากเกิน 1 นิ้วขึ้นไป ให้อ่านตัวเลขเต็มก่อน แล้วจึงตามด้วยเลขที่เป็นเศษส่วน