ถุงน้ำอัณฑะในเด็ก
โรคถุงน้ำอัณฑะในเด็ก (Hydrocele)
พบได้บ่อยในเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี และส่วนมากสามารถหายได้เองในอายุ 12 ถึง18เดือน ดังนั้นเมื่อตรวจพบในเด็กที่อายุน้อยกว่า2ปี จึงสามารถนัดมาตรวจติดตามอาการเป็นระยะได้ ยังไม่ต้องรับการรักษาด้วยการผ่าตัด
สาเหตุ
เกิดจากถุง Processus vaginalis ปิดลงอย่างไม่สมบูรณ์ทำให้มีช่องทางเชื่อมต่อระหว่างช่องท้องกับถุงอัณฑะช่องเปิดนั้นมีขนาดเล็ก ทำให้มีเฉพาะน้ำในช่องท้องเท่านั้นที่สามารถผ่านลงมาในถุงอัณฑะได้จึงเกิดเป็นถุงน้ำขึ้น
อาการ
ผู้ปกครองจะพบว่าผู้ป่วยมีถุงอัณฑะโตขึ้นกว่าอีกข้างหนึ่งอาจขนาดเปลี่ยนแปลงตามท่าทางโดยจะเล็กลงในท่านอนและโตขึ้นเมื่อยืน โดยการเปลี่ยนแปลงตามท่าทางนั้นจะเป็นไปอย่างช้าๆเนื่องจากช่องทางติดต่อกับช่องท้องมีขนาดเล็ก แต่หากไม่มีช่องทางติดต่อกับในช่องท้องแล้วนั้นขนาดของถุงน้ำก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไปตามท่าทาง มีอาการปวดที่ถุงอัณฑะได้บ้างเล็กน้อยและเมื่อนำไฟมาส่องที่ก้อนจะพบว่าเรืองแสงได้และไม่เจ็บเมื่อสัมผัส
การรักษา
กรณีตรวจพบเมื่ออายุน้อยกว่า 2 ปี อาจทำการตรวจติดตามเป็นระยะ
กรณีอายุ2ปีขึ้นไปการรักษามาตรฐานคือการผ่าตัดเพื่อผูกและตัดถุง Processus vaginalis ทำให้ไม่มีช่องทางติดต่อกับช่องท้อง น้ำในช่องท้องจึงไม่สามารถลงมาในถุงอัณฑะได้อีก
การผ่าตัดทำภายใต้การระงับความรู้สึกทั่วไปร่วมกับการใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อลดอาการปวดแผลหลังจากการผ่าตัด
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
ก่อนวันผ่าตัด 1 สัปดาห์ หากผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ ได้แก่ มีไข้ ไอ น้ำมูก มีเสมหะ หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ให้ผู้ปกครองโทรศัพท์แจ้งที่โรงพยาบาลเพื่อเลื่อนวันผ่าตัดออกไป เพื่อความปลอดภัยในการดมยาสลบ
งดน้ำและอาหารทุกชนิดตามวันเวลาที่กำหนด
การดูแลหลังการผ่าตัด
หากผู้ป่วยตื่นดีแล้ว ให้เริ่มจิบน้ำหรือน้ำหวานได้ครั้งละน้อย
หากสามารถจิบน้ำได้ ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ให้รับประทานอาหารตามปกติได้
หากผู้ป่วยมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ให้หยุดรับประทานก่อนประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง แล้วจึงค่อยเริ่มใหม่เมื่ออาการดีขึ้นแล้ว
หากผู้ป่วยอาการปกติดีแล้ว สามารถให้กลับไปดูแลต่อที่บ้านได้
กรณีที่อาการไม่คงที่อาจต้องรับการดูแลรักษาต่อในโรงพยาบาล
การดูแลหลังการผ่าตัดที่บ้าน
หากไม่มีอาการปวดแผลให้ทำกิจกรรมได้ปกติ
ไม่มีข้อห้ามในการรับประทานอาหาร
การดูแลแผลผ่าตัด ไม่จำเป็นต้องเปิดทำแผล หากแผลเปียกหรือวัสดุปิดแผลหลุดออกหรือแผลสกปรกก่อนวันนัดเปิดแผล ให้พาผู้ป่วยไปทำแผลที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน
หากมีอาการปวดแผล ให้รับประทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่งให้
อาการที่ต้องพาผู้ป่วยมาพบแพทย์ก่อนนัด
แผลมีเลือดซึมออกมาให้เห็นนอกผ้าปิดแผล
ปวดแผลมาก รับประทานยาแก้ปวดแล้วไม่ดีขึ้น
มีรอยบวมแดงรอบแผลผ่าตัด
มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส
อาเจียนบ่อย รับประทานอาหารได้น้อย