การปลูกสับปะรดทองระยอง สับปะรดสายพันธุ์ใหม่



การปลูกสับปะรดทองระยอง สับปะรดสายพันธุ์ใหม่

จังหวัดระยองมีภูมิศาสตร์ที่ติดฝั่งทะเลตะวันออกของประเทศไทย ทำให้มีสภาพอากาศ ความชื้น และคุณสมบัติของดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูกผลไม้เป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกที่จะเป็นแหล่งปลูกสับปะรดมากที่สุดในภาคตะวันออก สับปะรดในพื้นที่จังหวัดระยองส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ปัตตาเวีย ส่วนอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เกษตรกรนิยมปลูกกันมาก คือ ตราดสีทอง โดยภายหลังเกษตรกรได้นำมาทดลองปลูกบวกกับสภาพอากาศที่เหมาะสม ทำให้เกิดการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาจนกลายเป็น สับปะรดพันธุ์ทองระยอง และคาดว่าจะเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิด ที่สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่ได้อย่างงาม

สับปะรดที่พัฒนาสายพันธุ์มาจากกลุ่ม ควีน (อย่างเช่น พันธุ์ภูเก็ต พันธุ์ภูแล พันธุ์สวี พันธุ์ตราดสีทอง เป็นต้น) ซึ่งมีลักษณะเด่นอยู่ที่ขอบใบ

ต้น จุก จะมีหนามสั้นและแหลมคม มีผลเป็นทรงกระบอก น้ำหนักลูกประมาณ 0.7-1.5 กิโลกรัม เมื่อผลแก่จัดเปลือกและเนื้อในจะเป็นสีทองสด มีรสชาติหวานฉ่ำ กรอบ เนื้อแน่นไม่เป็นโพรง มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

โดยปัจจุบันราคาจำหน่ายจะอยู่ที่ลูกละ 20-40 บาทตามขนาดของผล ซึ่งตอนนี้ผลผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด พ่อค้าแม่ค้าจะมาจับจองกันถึงในไร่ตั้งแต่สับปะรดยังไม่สุก และคาดว่าสับปะรดพันธุ์ทองระยองนั้น จะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่ทำรายได้ให้เกษตรกรในจังหวัดระยองต่อไป คุณสราวุธ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า หากเกษตรกรท่านใดสนใจในเรื่องการปลูกสับปะรดพันธุ์ทองระยอง สามารถโทรมาสอบถามวิธีการปลูกได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 081-8620073 ตนเองยินดีให้คำปรึกษา




การปลูกสับปะรดทองระยอง สับปะรดสายพันธุ์ใหม่

จังหวัดระยองมีภูมิศาสตร์ที่ติดฝั่งทะเลตะวันออกของประเทศไทย ทำให้มีสภาพอากาศ ความชื้น และคุณสมบัติของดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูกผลไม้เป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกที่จะเป็นแหล่งปลูกสับปะรดมากที่สุดในภาคตะวันออก สับปะรดในพื้นที่จังหวัดระยองส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ปัตตาเวีย ส่วนอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เกษตรกรนิยมปลูกกันมาก คือ ตราดสีทอง โดยภายหลังเกษตรกรได้นำมาทดลองปลูกบวกกับสภาพอากาศที่เหมาะสม ทำให้เกิดการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาจนกลายเป็น สับปะรดพันธุ์ทองระยอง และคาดว่าจะเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิด ที่สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่ได้อย่างงาม

สับปะรดที่พัฒนาสายพันธุ์มาจากกลุ่ม ควีน (อย่างเช่น พันธุ์ภูเก็ต พันธุ์ภูแล พันธุ์สวี พันธุ์ตราดสีทอง เป็นต้น) ซึ่งมีลักษณะเด่นอยู่ที่ขอบใบ

ต้น จุก จะมีหนามสั้นและแหลมคม มีผลเป็นทรงกระบอก น้ำหนักลูกประมาณ 0.7-1.5 กิโลกรัม เมื่อผลแก่จัดเปลือกและเนื้อในจะเป็นสีทองสด มีรสชาติหวานฉ่ำ กรอบ เนื้อแน่นไม่เป็นโพรง มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

โดยปัจจุบันราคาจำหน่ายจะอยู่ที่ลูกละ 20-40 บาทตามขนาดของผล ซึ่งตอนนี้ผลผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด พ่อค้าแม่ค้าจะมาจับจองกันถึงในไร่ตั้งแต่สับปะรดยังไม่สุก และคาดว่าสับปะรดพันธุ์ทองระยองนั้น จะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่ทำรายได้ให้เกษตรกรในจังหวัดระยองต่อไป คุณสราวุธ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า หากเกษตรกรท่านใดสนใจในเรื่องการปลูกสับปะรดพันธุ์ทองระยอง สามารถโทรมาสอบถามวิธีการปลูกได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 081-8620073 ตนเองยินดีให้คำปรึกษา