ระวัติ หลวงปู่เหมือน วัดโรงหีบ (ปทุมธานี)
"หลวงปู่เหมือน นนฺทสร" เจ้าอาวาสวัดโรงหีบ(นาวง) ปทุมธานี ท่านถือกำเนิดเมื่อ วันพุธเดือน ๑๑ ปีมะโรง พ.ศ.๒๔๒๓ โยมบิดาเป็นชาวมอญ ชื่อนายเนียม โยมมารดาชื่อนางพ่วง "เนียมน้อย" ภูมิลำเนาท่านอยู่ บ้านบางพัง ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ครั้นถึงปี พ.ศ.๒๔๔๓ เมื่อท่านอายุครบอุปสมบท ก็ได้เข้าอุปสมบทในสำนัก "พระธรรมมนุสารี" (สว่าง) วัดเทียนถวาย เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เป็นพระอุปัชฌาย์ "เจ้าอธิการเนตร" วัดบางกุฎีไทย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ "พระครูธัญญะเขตต์" (หลวงพ่อช้าง) วัดเขียนเขตต์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาทางพุทธศาสนาว่า "นนฺทสร"
เมื่ออุปสมบทแล้วก็ได้จำพรรษาอยู่ในสำนัก วัดเทียนถวาย ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ของท่าน ได้ศึกษาเล่าเรียนในทางสมณกิจพอควรแก่กาลสมัยแล้ว ก็ได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ ณ ที่สำนัก "วัดโพธิ์ทองบน" ได้อยู่ดูแลช่วยเจ้าอาวาส (ท่านอาจารย์เล็ก) ปฏิบัติพระศาสนา และปฏิสังขรณ์อารามตลอดมา
ขณะนั้น ทางวัดโรงหีบ(นาวง) เจ้าอาวาส (พระอธิการชื่น) ได้มรณะภาพลง ขาดผู้ปกครองดูแลวัด พระธรรมานุสารี ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ท่านได้เห็นอัธยาศัยอันดี ของท่าน (หลวงปู่เหมือน) จึงได้มอบหมายท่านให้ไปเป็นผู้ปกครองดูแลวัด ตั้งแต่ราวปี พ.ศ.๒๔๕๗ เป็นต้นมา
เมื่อท่านได้มาเป็นเจ้าอาวาสแล้ว ท่านได้จัดการอบรมสั่งสอนภิกษุสามเณรและศิษย์ตลอดจนอุบาสกอุบาสิกาให้อยู่ในธรรมวินัยของแต่ละเพศ และได้ปฏิสังขรณ์ก่อสร้างกุฏิตลอดจนกระทั่งถนนหนทางภายในบริเวณวัด ให้เป็นที่เจริญเรื่อยมา โดยความอุปถัมภ์ของ "หลวงนาวาเกนิกร" (ซิวเม๋ง โปษยจินดา) ผู้เป็นเจ้าของจัดสร้างขึ้น อนึ่งวัดนี้เมื่อผู้เป็นเจ้าของสิ้นชีพไปแล้ว บุตรและธิดาก็ได้อุปถัมภ์เรื่อยมา แม้หลวงปู่เหมือนจะได้ปฏิสังขรณ์และก่อสร้างวัตถุสิ่งใดภายในวัด บุตรและธิดาของผู้เป็นเจ้าของก็ได้บริจาคทรัพย์ร่วมด้วยเป็นจำนวนมากดังที่ปรากฎอยู่ทุกวันนี้ เป็นต้นว่า ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ ถนนเทคอนกรีต และโรงเรียนประถมศึกษา สถานที่เหล่านี้สำเร็จขึ้นมาได้ก็เพราะว่า เกิดจากปัจจัยของหลวงปู่เหมือน และบุตร ธิดาของผู้เป็นเจ้าของตลอดกระทั่งศิษย์และท่านที่เคารพนับถือทั้งหลายด้วย
หลวงปู่เหมือน ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชาวมอญ ผู้มีวิชาอาคมแก่กล้ามากท่านหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางด้าน น้ำมนต์ ท่านโด่งดังมาก ใครโดนคุณไสย เสนียดจัญไร เคราะห์ไม่ดี มาขอรดน้ำมนต์จากท่านเป็นต้องหายปลิดทิ้งหมด
เมื่อถึงปี พ.ศ.๒๔๘๓ ท่านได้สร้างหอสวดมนต์ขึ้นมาหลังหนึ่ง ท่านจึงได้ออกเหรียญรุ่นแรก เพื่อสมนาคุณแก่ผู้บริจาจปัจจัยสมทบทุนการก่อสร้าง เหรียญรุ่นนี้มีรูปหลวงปู่นั่งสมาธิเต็มองค์ มีชื่อท่านจารึกว่า "อธิการเหมือน" ไม่มีชื่อวัดชื่อจังหวัด ด้านหลังมีรูปยันต์และอักขระขอม ล่างสุดมีตัวหนังสือ พ.ศ.๒๔๘๓ ส่วนใหญ่เป็นเหรียญเนื้อทองแดงกลับดำ ซึ่งเช่าหากันเป็นเนื้อสัมฤทธิ์ ที่เป็นเนื้อทองแดงจริงๆพบเจอน้อยมาก
เหรียญรุ่นนี้เป็นเพียงรุ่นเดียวที่ออกในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ โดยด้านหน้ามีเพียงแม่พิมพ์เดียว ส่วนด้านหลังมี ๒ บล็อก คือ บล็อกหางชิด กับ บล็อกหางห่าง โดยดูจากตัวหนังสือ พ.ศ.๒๔๘๓ หางตัว ศ กับเลข ๒ อยู่ชิดติดกัน เป็นบล็อกหางชิด เป็นบล็อกนิยม (บล็อกแรก) ส่วนอีกบล็อกหนึ่ง หางตัว ศ กับเลข ๒ ไม่ชิดติดกัน เป็บล็อกหางห่าง (บล็อกสอง) ความนิยมจะน้อยกว่าบล็อกแรก
ประสบการณ์คนดอนเมืองเล่าว่าเด็กเทคนิคใช้ปืนยิงคู่อริจ่อๆแต่ปืนยิงไม่ออกซับไกมีแค่เสียงเเชะๆ และอีกเหตุการณ์ตำรวจที่ห้อยเหรียญหลวงปู่เหมือนล่อจับซื้อยาเสพติดในซอยวัดสีกันถูกผู้ค้ายาเสพติดใช้ปืนยิงสวนกลับมาโดนตัวแต่ไม่เข้ามีเพียงรอยช้ำเท่านั้น หากท่านใดผ่านไปแถวดอนเมืองลองถามคนแถวนั้นดูเกี่ยวกับพุทธคุณเหรียญหลวงปู่เหมือน มีประสบการณ์กันมาก
หลวงปู่เหมือน เมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้ตั้งอยู่ในคุณธรรม มีเมตตา กรุณา เป็นนิจต่อบุคคลและสัตว์ทั่วไปกอบด้วยท่านเป็นผู้มีวิชาทางไสยศาสตร์ และแพทย์แผนโบราณ ได้ใช้วิชานี้รักษาบุคคลทุกเพศวัยที่ป่วยเป็นไข้มาหาท่านๆก็รักษาให้ด้วยจิตเมตตาโดยสม่ำเสมอ ไม่มีอคติ
หลวงปู่เหมือนท่านได้ถึงแก่มรณภาพลงในคืนวันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๐๒ สิริอายุรวม ๘๐ปี ๕๙ พรรษา