Code

การแจ้งเข้าปฏิบัติหน้าที่ หรือการแจ้งเลิกปฏิบัติหน้าที่

ตัวอย่าง 1 :
/hq [ยศ/ตำแหน่งของคุณ] + [ชื่อเต็มของคุณ] + has gone on duty.
(กรณีเข้าปฏิบัติหน้าที่)

ตัวอย่าง 2 :
/hq [ยศ/ตำแหน่งของคุณ] + [ชื่อเต็มของคุณ] + has gone off duty.
(กรณีเลิกปฏิบัติหน้าที่)

ตัวอย่างข้อความการแจ้งที่ถูกต้อง

• Police Officer III Ethan Reed has gone on duty.

• Police Officer III Ethan Reed has gone off duty.

การแจ้งเข้าปฏิบัติหน้าที่ หรือการแจ้ง Callsign

ตัวอย่าง 1 :
/hq [ยศ/ตำแหน่งของคุณ] + [ชื่อเต็มของคุณ] + is now under callsign 2L11.
(กรณีเข้าปฏิบัติหน้าที่ 1 คน)

ตัวอย่าง 2 :
/hq [ยศ/ตำแหน่งของคุณ] + [ชื่อเต็มของคุณ] + [ยศ/ตำแหน่งของคู่หู] + [ชื่อเต็มของคู่หู] + are now under callsign 2A11.
(กรณีเลิกปฏิบัติหน้าที่ 2 คน)

หมายเหตุ:  ยศที่สูงกว่าจะต้องอยู่นำหน้าเสมอ

ตัวอย่างข้อความการแจ้งที่ถูกต้อง

• Police Officer III Ethan Reed is now under callsign 2L11.

• Police Officer III Ethan Reed and Police Officer III Ric Francesco are now under callsign 2A11.

รูปแบบการแจ้งยกเลิก Call Sign (Disbanded)

ตัวอย่าง:
/hq [CALLSIGN], Callsign Disbanded.

ตัวอย่าง Lincoln:
/hq 2L11, Callsign Disbanded.

ตัวอย่าง Adam:
/hq 2A11, Callsign Disbanded.

การแจ้งเริ่มต้นการไล่ล่า (เมื่อผู้ต้องสงสัยพยายามหลบหนี) / TAC

• รูปแบบคำสั่งที่ใช้
  [Callsign] + in pursuit TAC 1 + รายละเอียดผู้ต้องสงสัย + ลักษณะพาหนะ + ทิศทางและสถานที่ล่าสุดที่พบเห็น
  (ควรมีการรายงานความเคลื่อนไหวต่อเนื่องระหว่างการไล่ล่า)

• ตัวอย่าง:
  2L29, in pursuit TAC 1, เป็นชายผิวสี ขับรถสปอร์ต 2 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน T7154ZS, ขณะนี้กำลังมุ่งหน้าไปที่ถนน Strawberry Ave มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ.

จบการไล่ล่า (Pursuit Terminated)

• ตัวอย่าง: 2L21, Show Code 4, 10-15 at Rockford Drive.

การเข้าร่วม / ออกจากการไล่ล่า TAC

• เข้าร่วมการไล่ล่า (เมื่อมีการร้องขอหรือประสงค์เข้าร่วม)
  [Callsign] + Code 3 to TAC 1.

• ตัวอย่าง: 2L45, Code 3 to TAC 1.

• ออกจากการไล่ล่า (ยุติบทบาทการติดตาม)
  [Callsign] + Leave TAC 1.

• ตัวอย่าง: 2L45, Leave TAC 1.
  
  

ร้องขอ FTO (Field Training Officer) สำหรับผู้ฝึกงาน (FTP)

ตัวอย่าง:

/r [Badge Number], Request FTO at [Location].

ตัวอย่าง:

/r PD2111, Request FTO at Mission Row Station.

การแจ้งนำรถลาดตระเวณ เข้า-ออก จากสถานี  และ ออกจากสถานที่สำคัญต่างๆ    /   Clear from and 10-19

ตัวอย่างที่ 1 :  Callsign + clear from + ชื่อสถานี  ( ใช้กรณีออกจากสถานี หรือ สามารถใช้เมื่อคุณออกจากสถานีต่างๆของรัฐได้ เช่น โรงพยาบาล

ตัวอย่างที่ 2 :  Callsign + 10-19 + ชื่อสถานี  ( ใช้กรณีกลับสถานี )

• 2L61, Clear from MRS.

• 2L61, Clear from 114 Station.

• 2L61, 10-19 MRS.

• 10D, 10-19 114 Station. 

การตอบสนองเหตุต่างๆ  เช่น  การร้องขอจากหน่วย, การแจ้งเตือนเหตุเข้ามาทางวิทยุ / Code 2 and Code 3

ตัวอย่างที่ 1 :  Callsign + Responding  code 2  หรือ  code 3  + สถานที่  หรือ  เหตุที่เราจะไป.

• 2L45, Responding code 2 to last call.

• 2L44, Responding code 3 to last niner.

การเรียกหยุดรถบนท้องถนนแล้วลงไปตรวจสอบ  หรือการ  Traffic Stop  /   Code 6 and Code 6Adam

ตัวอย่างที่ 1:  Callsign + Code 6  +  ลักษณะรถ ป้ายทะเบียน สีรถ + ลักษณะคนและจำนวนคนบนรถ + สถานที่.

ตัวอย่างที่ 2:   Callsign + Code 6Adam  +  ลักษณะรถ, ป้ายทะเบียน, สีรถ, ลักษณะคนและจำนวนคนบนรถ + สถานที่ + 10-31 จำนวนกี่หน่วยต้องบอก.

• 2L15, Show me Code 6 พบเป็นรถ Sedan 4 ประตู  สีขาว ป้ายทะเบียน 3K77XPY บริเวณ El Rancho เขต  Cypassflat  พบคนบนรถเพียง 1 คนเป็นชายผิวขาว.

• 2L35, Show me Code 6Adam พบเป็นรถ Sedan 2 ประตู  สีขาว ป้ายทะเบียน 6K27XGH บริเวณ El Rancho  เขต  Cypassflat  พบคนบนรถ 2 คนเป็นชายผิวขาว เราต้องการ 10-31 จำนวน 1 Unit.

การเรียกหยุดรถที่อันตรายความเสี่ยงสูง หรือ บุคคลตาม BOLO  หรือการ  Felony Stop  /   Code 6Charles

ตัวอย่างที่ 1:  Callsign + Code 6Charles + ลักษณะรถ + ป้ายทะเบียน + สีรถ + ลักษณะคนและจำนวนคนบนรถ + สถานที่ + ชื่อคนใน BOLO

• 2L35, Show me Code 6Charles, พบเป็นรถ Muscle Car 2 ประตู สีดำ ป้ายทะเบียน 6K27XGH บริเวณ El Rancho เขต Cypassflat พบผู้โดยสาร 2 คนเป็นชายผิวขาว, ชื่อใน BOLO: Frank Dalton

รายการรหัส 10 และความหมาย

รหัส 10

ความหมาย

ตัวอย่างการใช้งาน

10-1: Reception poor (การรับสัญญาณไม่ดี)

10-2: Reception good (การรับสัญญาณดี)

10-4: Message received (รับข้อความแล้ว)

10-5: Relay message (ส่งต่อข้อความ)

10-6: Busy, stand by (ยุ่ง, กรุณารอ)

10-7: Out of service (ไม่ให้บริการ)

10-8: In service (ให้บริการ)

10-9: Repeat last transmission (กรุณาทวนข้อความล่าสุด)

10-10: Off duty (นอกเวลางาน)

10-11: Identify mobile frequency (ระบุความถี่ของอุปกรณ์เคลื่อนที่)

10-13: Advise road or weather conditions (แจ้งสภาพถนนหรือสภาพอากาศ)

10-14: Provide escort (ให้การอารักขา)

10-15: Suspect in custody (ผู้ต้องสงสัยอยู่ในความควบคุม)

10-17: Relay paper, supplies, etc. (ส่งต่อเอกสาร, ของใช้, ฯลฯ)

10-19: Return, or return to_________ (กลับไปยัง/หรือกลับไปที่_________)

10-20: Location requested (ขอที่ตั้ง)

10-21: Telephone_________ (โทรศัพท์_________)

10-22: Disregard (ไม่ต้องสนใจ)

10-23: Standby (รอ)

10-28: Request for registration (ขอข้อมูลทะเบียน)

10-29: Check for wanted (person or vehicle) (ตรวจสอบบุคคลหรือรถที่ต้องการ)

10-30: Improper radio traffic (การสื่อสารวิทยุไม่ถูกต้อง)

10-31: Attempt suicide (พยายามฆ่าตัวตาย)

10-35: Code 2 backup (ขอหน่วยสนับสนุนโค้ด 2)

10-36: Confidential information (ข้อมูลลับ)

10-36A: Confidential info, subject possibly armed (ข้อมูลลับ, บุคคลอาจมีอาวุธ)

10-36F: Confidential info, possible felony wants (ข้อมูลลับ, อาจมีความผิดร้ายแรง)

10-36M: Confidential info, possible misdemeanor wants (ข้อมูลลับ, อาจมีความผิดทางอาญา)

10-37: What time is it? (ตอนนี้เวลาเท่าไร?)

10-39: Message or item delivered (ข้อความหรือของถูกส่งแล้ว)

10-97: Arrived on scene (ถึงที่เกิดเหตุแล้ว)

10-98: Assignment completed (ภารกิจเสร็จสิ้น)

10-99: Emergency (เหตุฉุกเฉิน)

ข้อดีของรหัส 10

1. การสื่อสารที่รวดเร็ว: ลดระยะเวลาในการส่งข้อความ

2. กระชับ: สื่อสารด้วยคำรหัสที่มีความหมายชัดเจน

3. ปลอดภัย: ลดความเสี่ยงจากการเปิดเผยข้อมูลละเอียดอ่อน

หมายเหตุ: รหัส 10 อาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละหน่วยงานหรือตำรวจแต่ละพื้นที่ ขึ้นอยู่กับการปรับใช้

รายการรหัสสถานการณ์พิเศษ (Code) และความหมาย

Code

ความหมาย

ตัวอย่างการใช้งาน

Code 1

"Code 1, การเรียกถามจาก Supervisors เท่านั้น เมื่อถูกเรียกถามจะต้องตอบวิทยุทันที"

หมายเหตุสำคัญ: ระดับ Sgt. I ขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถแจ้ง Code 1 ได้ เจ้าหน้าที่ทั่วไปใช้ Callsign หรือ Badge Number ในการแจ้ง

เช่น 2L11 to 2L12, PD2111 to PD2112

Code 2

"Code 2, มุ่งหน้าไปสถานที่เกิดเหตุ" เร่งด่วน แต่ไม่มีสัญญาณไฟหรือเสียงไซเรน

"Code 2-High, มุ่งหน้าไปสถานที่เกิดเหตุ" เร่งด่วน มีสัญญาณไฟไม่มีเสียงไซเรน

Code 3

ฉุกเฉิน เร่งด่วน ใช้สัญญาณไฟและไซเรน

"Code 3, กำลังไปยังจุดไล่ล่า

Code 4

"Code 4, เคลียร์สถานการณ์แล้ว" สถานการณ์เรียบร้อย ไม่มีภัยคุกคาม, ไม่ต้องให้หน่วยอื่นตอบสนองอีกต่อไป กลับสู่การลาดตระเวน 

"Code 4-Adam, เคลียร์สถานการณ์แล้ว" สถานการณ์ไม่พบผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ (หลบหนีไปแล้ว) และ ไม่จำเป็นต้องมีกำลังเสริมเพิ่มเติม ในจุดเกิดเหตุ
หมายเหตุสำคัญ: กรณี Scene ร่วมหลาย Unit เจ้าหน้าที่เจ้าของ Scene หรือ ระดับ Senior Lead Officer ขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถแจ้ง Code 4 ได้ เจ้าหน้าที่ทั่วไปใช้ Clear From ในการแจ้ง

Code 5

การปฏิบัติการเฉพาะกิจ/ยกเลิกการสื่อสาร

"Code 5, เฝ้าระวัง ต้องหลีกเลี่ยงสถานที่"
"Code 5-Edward, แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนทางอากาศเกี่ยวกับอันตรายจากการระเบิดต่อเครื่องบินที่บินในระดับต่ำ"

Code 6

พร้อมให้ความช่วยเหลือ/หรือเข้าร่วมปฏิบัติการ

"Code 6, หน่วยได้เดินทางมาถึงสถานที่แล้ว ดำเนินการสอบสวนภาคสนาม"
"Code 6-Adam, ต้องการกำลังเสริม 1 Unit ช่วยเหลือระหว่างดำเนินการสืบสวน"
"Code 6-Charles, ผู้ต้องสงสัยอันตราย (felony stop or warrant reported)"
"Code 6-George, ต้องการความช่วยเหลือในการดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับกิจกรรมของแก๊ง หากมีหน่วยบังคับใช้กฎหมายแก๊งที่พร้อม จะต้องตอบสนองทันที"
"Code 6-Mary, ต้องการความช่วยเหลือในการดำเนินการสืบสวนเกี่ยวกับกิจกรรมของกลุ่มก่อการร้ายที่เป็นไปได้ หน่วยในบริเวณใกล้เคียงจะต้องลาดตระเวน"

Code 7

การพักทานอาหาร หรือพักจากการปฏิบัติหน้าที่

"Code 7, กำลังพักทานอาหาร"

Code 8

ขอความช่วยเหลือจากหน่วยอื่น

"Code 8, มีการรายงานเหตุไฟไหม้ในบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้สูงหรือเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิง"

"Code 8-Adam, หน่วยที่ร้องขอให้ไปเกิดเหตุเพลิงไหม้เพื่อควบคุมการจราจรและฝูงชน"

Code 77

เฝ้าระวังทุกหน่วยต้องตอบสนอง

"Code 77, เฝ้าระวัง Ambush"

Code 99

ขอความช่วยเหลือด่วนทุกหน่วยต้องตอบสนอง

"Code 99, ฉุกเฉิน (เช่น เจ้าหน้าที่ถูกโจมตี) หน่วยทั้งหมดตอบสนอง"

Code 100

เข้าขัดขวาง

"Code 100, ขอสำหรับ Intercept"

รายการรหัสสถานการณ์พิเศษ (Code) และความหมาย (เพิ่มเติม)

Code 6 ADAM

ความหมาย:
"Code 6 ADAM" หมายถึงการขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมเพื่อช่วยในการตรวจสอบพื้นที่ข้างนอกยานพาหนะสายตรวจ ซึ่งปกติแล้วจะใช้เจ้าหน้าที่ 1 หน่วยเว้นแต่ว่ามีการขอ "Additional Unit Request" เพิ่มเติม เจ้าหน้าที่สามารถใช้รหัสนี้ในกรณีที่ต้องออกจากยานพาหนะและต้องการกำลังเสริมเพื่อช่วยเหลือในการตรวจสอบพื้นที่

ตัวอย่างการใช้งาน:

• "Code 6 ADAM, ขอช่วยเหลือในการตรวจสอบพื้นที่"

Code 6 CHARLES

ความหมาย:
"Code 6 CHARLES" ใช้เมื่อเจ้าหน้าที่ต้องการกำลังเสริมในการหยุดยานพาหนะหรือบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ต้องสงสัยที่อาจมีอาวุธหรือหลบหนีจากการจับกุม รหัสนี้จะใช้ในกรณีที่ต้องดำเนินการกับ "Felony Stop" ซึ่งมีความเสี่ยงสูง เจ้าหน้าที่จะทำการแจ้งสถานที่และหน่วยเสริมจะตอบกลับด้วย "Code 3" เพื่อเข้ามาช่วยในการหยุดการกระทำผิด

ตัวอย่างการใช้งาน:

• "Code 6 CHARLES, กำลังจะดำเนินการกับ Felony Stop ที่ Intersection 5th and Main"

Code 6 GEORGE

ความหมาย:
"Code 6 GEORGE" ใช้สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ออกจากยานพาหนะเพื่อตรวจสอบกลุ่มแก๊งหรือกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด (Gang and Narcotics) เท่านั้น เจ้าหน้าที่ในหน่วย Gang and Narcotics สามารถใช้รหัสนี้ในการขอกำลังเสริมจากหน่วยอื่นๆ เมื่อจำเป็นต้องตรวจสอบกลุ่มแก๊ง ซึ่งหน่วยอื่นที่เข้ามาช่วยเหลือจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วย Gang and Narcotics และหลีกเลี่ยงการจับหลักฐานเอง

ตัวอย่างการใช้งาน:

• "Code 6 GEORGE, กำลังตรวจสอบกลุ่มแก๊งในพื้นที่ Vinewood"

Code Robert-Rifle & Robert-UPR

ความหมาย:
รหัส "Code Robert" ใช้เมื่อเจ้าหน้าที่ต้องการกำลังเสริมพร้อมอาวุธหนัก เช่น ปืนไรเฟิล (AR-15 หรือ M4) ทั้ง "Code Robert-Rifle" และ "Code Robert-UPR" ใช้ในการขอกำลังเสริมพร้อมอาวุธหนักที่มีความสามารถในการยิงระยะไกล เจ้าหน้าที่ต้องได้รับการอบรมในการใช้ไรเฟิลก่อนและห้ามใช้อย่างพลการ หากมีการใช้อาวุธในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสมจะมีการสอบสวนและอาจถูกปลดออกจากหน้าที่

ตัวอย่างการใช้งาน:

• "Code Robert-Rifle, ขอสนับสนุนด้วยปืนไรเฟิล M4"

Code Robert-Slug

ความหมาย:
"Code Robert-Slug" ใช้เมื่อเจ้าหน้าที่ต้องการกำลังเสริมพร้อมอาวุธประเภท Shotgun (เช่น Remington) เจ้าหน้าที่ทุกคนสามารถใช้รหัสนี้ได้ โดย Supervisor จะเป็นผู้กำหนดว่าอนุญาตให้ใช้หรือไม่ในสถานการณ์นั้นๆ

ตัวอย่างการใช้งาน:

• "Code Robert-Slug, ขออาวุธ Shotgun เพื่อตอบสนองสถานการณ์"

Code Sam

ความหมาย:
"Code Sam" ใช้เมื่อเจ้าหน้าที่ต้องการกำลังเสริมพร้อมอาวุธประเภท Beanbag หรือ Shotgun Beanbag ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ในการควบคุมสถานการณ์ที่ไม่รุนแรงเกินไป เช่น การจับกุมที่ต้องการลดความรุนแรง

ตัวอย่างการใช้งาน:

• "Code Sam, ขอสนับสนุนด้วยอาวุธ Beanbag"

Code Sam-40

ความหมาย:
"Code Sam-40" ใช้เมื่อเจ้าหน้าที่ต้องการกำลังเสริมพร้อมอาวุธประเภทเครื่องยิงกระสุนยาง ขนาด 40 มม. ที่ไม่สามารถสังหารชีวิตได้ ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ในการควบคุมสถานการณ์ที่ไม่รุนแรงเกินไป เช่น การจับกุมที่ต้องการลดความรุนแรง

ตัวอย่างการใช้งาน:

• "Code Sam-40, ขอสนับสนุนด้วยอาวุธกระสุนยาง ขนาด 40 มม."

Code Tom

ความหมาย:
"Code Tom" ใช้เมื่อเจ้าหน้าที่ต้องการกำลังเสริมพร้อมอาวุธประเภท Taser ที่ไม่สามารถสังหารชีวิตได้ ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ในการควบคุมสถานการณ์ที่ไม่รุนแรงเกินไป เช่น การจับกุมที่ต้องการลดความรุนแรง

ตัวอย่างการใช้งาน:

• "Code Tom, ขอสนับสนุนด้วยอาวุธ Taser"

Officer Needs Help

ความหมาย:
การเรียกฉุกเฉินนี้จะใช้เมื่อเจ้าหน้าที่ต้องการความช่วยเหลือทันทีในสถานการณ์ที่คุกคามถึงชีวิตหรือความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เอง ซึ่งอาจเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงหรือเผชิญหน้ากับการประทุษร้าย เจ้าหน้าที่ที่ขอจะต้องระบุตำแหน่งและข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้หน่วยที่เหมาะสมสามารถตอบสนองได้ทันที โดยหน่วยเสริมจะตอบกลับด้วย "Code 3"

ตัวอย่างการใช้งาน:

• "Officer Needs Help, ขอการสนับสนุนจากหน่วย SWAT ที่ 12th Street"

Back-up Unit Request

ความหมาย:
"Back-up Unit Request" ใช้เมื่อเจ้าหน้าที่ต้องการการสนับสนุนจากหน่วยอื่นในสถานการณ์ที่ไม่ร้ายแรงถึงขั้นชีวิต แต่กำลังใกล้ถึงจุดที่ต้องการกำลังเสริม ซึ่งหน่วยที่ได้รับคำขอจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจรเมื่อเดินทางไปยังสถานที่ที่ขอ

ตัวอย่างการใช้งาน:

• "Back-up Unit Request, ขอหน่วยเสริมที่ 5th Avenue"

Additional Unit Request

ความหมาย:
การขอ "Additional Unit" ใช้เมื่อเจ้าหน้าที่ต้องการหน่วยเพิ่มเติมในการช่วยเหลือสถานการณ์ที่ไม่ฉุกเฉิน การแจ้งขอนี้จะไม่ถือเป็นการเรียกฉุกเฉิน และหน่วยที่เข้ามาต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจรเมื่อเดินทางไปยังสถานที่

ตัวอย่างการใช้งาน:

• "Additional Unit Request, ขอหน่วยเสริมสำหรับการสอบสวนที่ Maple Street"

ข้อดีของการใช้รหัส Code

• การสื่อสารที่รวดเร็วและกระชับ: ช่วยให้การสื่อสารมีความรวดเร็วและเข้าใจได้ง่าย โดยไม่ต้องกล่าวคำอธิบายที่ยืดยาว

• การรักษาความปลอดภัย: ช่วยลดการเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนหรือสำคัญระหว่างการปฏิบัติการ

• การระบุสถานการณ์ได้ชัดเจน: รหัสต่างๆ ช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้าใจสถานการณ์และระดับของความเร่งด่วนที่ต้องการการตอบสนอง

Code 1

• Example: 2A11 to 2L21, Code 1.

• Example: 2L21 to 2A11, Code 1, Mission Row Station.
  
  

Code 2 (Non-Emergency)

• Example: 2A11, code 2, Non-Emergency Call.

• Example: 2A11, responding.
  
  

Code 3 (Emergency)

• Example: 2A11, code 3.

• Example: 2A11, code 3, TAC 1
  
  

Code 4 (Situation Clear)

• Example: 2A11, situation clear, show code 4.
  
  

• Example: 2A11, code 4, suspect in custody.
  
  

Code 4 ADAM (Suspect Lost, No Backup Needed)

• Example: 2A11, Suspect is lost, code 4 ADAM.
  
  

Code 5 (Stakeout / Surveillance)

• Example: 2A11, Code 5, Strawberry Avenue, suspicious male group.

• Clearing Code 5: 2A11, Clearing Code 5, situation clear.
  
  

Code 6 (Field Investigation / Traffic Stop)

• Example: 2A11, Code 6 on Black Sedan, Index AG3242.

• Example: 2A11, Code 6 with 2L21.

• Example: 2A11, Code 6, at Strawberry Avenue.
  
  

Code 6 CHARLES (Felony Stop)

• Example: 2A11, Code 6 CHARLES at Strawberry Avenue.
  
  

Code 6 ADAM (Request Backup for Stop/Investigation)

• Example: 2A11, Code 6 ADAM, at Strawberry Avenue.
  
  

Code 7 (Meal Break)

• Example: 2A11, Code 7 at Up n Atom, 5 minutes.
  
  

Code Sam (Beanbag Used)

• Example: 2A11, Code Sam in TAC 1 / in area Strawberry.
  
  

Code Robert-UPR (Use of UPR / Rifle)

• Example: 2A11, Code Robert-UPR in TAC 1 / area Strawberry.
  
  

Code Robert-Slug (Use of Slug)

• Example: 2A11, Code Robert-Slug in TAC 1 / area Strawberry.
  
  

RADIO PHRASES & PROTOCOLS

Duty Start

• Example: 2L11, Clear from Mission Row Station.
  
  

End of Watch

• Example: 2L11, End of watch.
  
  

Back to Station

• Example: 2L11, Back to Mission Row Station.
  
  

Join TAC / Leave TAC

• Join: 2L11, code 3 to TAC 1

• Leave: 2L11, code 4, suspect in custody and clear from [location].
  
  

Shots Fired

• Example: 2L11, Shots fired, officer needs help, Strawberry Avenue.
  
  

Cross-Department Radio

• Police to Fire: PD to FD, [message].
  
  

Emergency Call

• Responding: 2A11, Responding Last niner.

หมายเหตุ: การใช้รหัสควรเป็นไปตามสถานการณ์จริง และใช้เสียงวิทยุที่ชัดเจนเสมอในการปฏิบัติหน้าที่

• 211: ปล้น

• 311: การเปิดเผยอวัยวะลามกอนาจาร

• 390: ชายเมาสุรา

• 390W: หญิงเมาสุรา

• 415: ความวุ่นวาย

• 459: การลักทรัพย์

• 484: การขโมย

• 484PS: การฉกกระเป๋าถือ

• 502: ขับรถภายใต้อิทธิพล

• 507: ความวุ่นวายเล็กน้อย

• 507FC: ดอกไม้ไฟ

• 586: จอดรถผิดกฎหมาย

• 586E: รถจอดในทางเข้าบ้าน

• Roger: รับข้อความแล้ว จะดำเนินการตาม
  
  

• TO: Training Officer
  
  

• Rookie: เจ้าหน้าที่ตำรวจมือใหม่ที่เพิ่งเข้าทำงานในกรมตำรวจ
  
  

• Street Boss: ชื่อเล่นสำหรับ Police Officer III+1
  
  

• Back up: ขอหน่วยสนับสนุน / กำลังเสริม
  
  

• BOLO (Be On the Lookout): ระวังบุคคลหรือยานพาหนะต้องสงสัย
  
  

• MDC (Mobile Data Computer): คอมพิวเตอร์ติดรถตำรวจ
  
  

• MDT (Mobile Data Terminal): เครื่องปลายทางข้อมูลเคลื่อนที่
  
  

• ID (Identification): การระบุตัวตน
  
  

• Stand By: รอคำสั่งเพิ่มเติม / อย่าส่งข้อความตอนนี้
  
  

• Suspects: ผู้ต้องสงสัย
  
  

• Shot Fired: มีเหตุยิงปืนหรือยิงปะทะ
  
  

• Go Ahead: ส่งข้อความของคุณได้เลย
  
  

• Repeat: โปรดทวนข้อความอีกครั้ง
  
  

• Clear: ไม่มีเหตุรบกวน พร้อมรับสายใหม่
  
  

• Want: ตรวจสอบว่าบุคคลหรือรถอยู่ในสถานะต้องการตัว
  
  

• No Want: ไม่มีหมายจับหรือสถานะต้องการตัว
  
  

• Warrant: ข้อมูลหมายจับที่ออกให้บุคคลหรือรถ
  
  

• DMV (Department of Motor Vehicles): ข้อมูลทะเบียนรถ
  
  

• Juvenile Check: ตรวจสอบประวัติหรือหมายจับของเยาวชน
  
  

• Victim: เหยื่อ / ผู้เคราะห์ร้าย
  
  

• ASAP (As Soon As Possible): เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  
  

• Ambush: การลอบโจมตี
  
  

• Foot Pursuit / Foot Belt: การหลบหนีด้วยการวิ่ง
  
  

• Enroute: กำลังเดินทางไปยังที่หมาย
  
  

• Lost Contact: สูญเสียการติดตาม / ผู้ต้องสงสัยหายไปจากสายตา
  
  

• Off Road: การหลบหนีผ่านทางที่ไม่ปกติ เช่น ภูเขา ทุ่ง หรือเส้นทางลูกรัง
  
  

• PIT Maneuver: ยุทธวิธีปัดท้ายรถเป้าหมายให้เสียหลัก

• TC: Traffic Collision / รถเกิดการชน
  
  

• Pull Over: สั่งให้หยุดรถหรือหยุดตัวบุคคล
  
  

• Pursuit: การไล่ล่า
  
  

• R.A. (Rescue Ambulance): หน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน
  
  

• Additional Units: ขอหน่วยเสริมเพิ่มเติม
  
  

• End of Watch: สิ้นสุดหน้าที่ในวันนี้ / ใช้ในความหมายทางการหรือพิธีไว้อาลัยเจ้าหน้าที่