ฝายคลองเหนก

ฝายคลองเหนก


“...เรื่องน้ำนี้ ก็เป็นปัจจัยหลักของมวลมนุษย์ ไม่ใช่มนุษย์เท่านั้น แม้สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ทั้งสัตว์ ทั้งพืช ถ้าไม่มีก็อยู่ไม่ได้ เพราะว่าน้ำเป็นสื่อ หรือเป็นปัจจัยสำคัญของสิ่งมีชีวิต แม้สิ่งไม่มีชีวิตก็ต้องการน้ำเหมือนกัน มิฉะนั้นก็จะกลายเป็นอะไรไม่ทราบ เช่น ในวัตถุต่างๆ ในรูปผลึก ก็ต้องมีน้ำในนั้นด้วย ถ้าไม่มีน้ำก็จะไม่เป็นผลึก กลายเป็นสิ่งที่ไม่มีรูป ฉะนั้น น้ำนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่กล่าวถึงข้อนี้ก็จะให้ได้ทราบถึงว่า ทำไมการพัฒนา ขั้นแรกหรือสิ่งแรก ที่นึกถึงก็คือโครงการชลประทาน แล้วก็โครงการ สิ่งแวดล้อมทำให้น้ำดี สองอย่างนี้อื่นๆ ก็จะเป็นไปได้ ถ้าหากว่า ปัญหา ของน้ำนี้ เราได้สามารถที่จะแก้ไข หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ทำให้เรามีน้ำใช้อย่างเพียงพอ ฉะนั้น การพัฒนานั้นสิ่งสำคัญก็อยู่ตรงนี้ นอกจากนั้น ก็เป็นสิ่งที่ต่อเนื่อง เช่นวิชาการในด้านการเพาะปลูก เป็นต้น ตลอดจนถึงการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม หรือการค้า หรือการคลัง อะไร พวกนี้ก็ต่อเนื่องต่อไป...”

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรทรงให้ความสำคัญกับน้ำ ด้วยทรงถือว่าเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของพสกนิกร สัตว์และสิ่งมีชีวิตนานาชนิดให้มีความเป็นอยู่ที่สมบูรณ์ ดังพระราชดำรัสข้างต้นพระราชทานเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2532 ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

ก่อนที่จะมีโครงการฝายคลองเหนกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลพระรักษ์ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร ราษฎรในเขตพื้นที่ดังกล่าวใช้น้ำจากการเก็บกักน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคไว้ในถังเก็บน้ำ และการขุดสระน้ำไว้ใช้เองในแต่ละครัวเรือน

แต่ในช่วงฤดูแล้งประมาณเดือนมกราคม-เดือนพฤษภาคมของทุกปี ปริมาณน้ำจะมีระดับลดต่ำลงมากจนไม่สามารถนำขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้ ส่วนพื้นที่การเกษตรของราษฎร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สวนผลไม้ เช่น ทุเรียน มังคุด ลองกอง สละ เป็นต้น ต้องประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำด้วยเช่นกัน เนื่องจากในช่วงฤดูแล้ง ระดังน้ำในคลองเหนกมีระดับลดต่ำลงมาก จนราษฎรไม่สามารถนำขึ้นมาใช้ในพื้นที่การเกษตรได้

จากความเดือดร้อนดังกล่าวของราษฎร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับโครงการก่อสร้างฝายคลองเหนกพร้อมระบบส่งน้ำ ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลพระรักษ์ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร ขอพระราชทานโครงการก่อสร้างฝายคลองเหนก บริเวณบ้านคลองเหนก หมู่ที่ 3 ตำบลพระรักษ์ เพื่อช่วยเหลือราษฎร ตำบลพระรักษ์ ซึ่งประสบความเดือดร้อนจากภัยแล้งขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภค บริโภคและทำการเกษตร

กรมชลประทานได้ดำเนินการสนองพระมหากรุณาธิคุณก่อสร้างฝายคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดกว้าง 20 เมตร ยาว 49 เมตร ความสูง 2.50 เมตร พร้อมกับการก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำและอาคารประกอบ ความยาวรวมประมาณ 8,488 เมตร แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2558 โดยก่อนหน้านี้ชาวบ้านตำบลพระรักษ์รวมพลังสามัคคีได้มีการจัดตั้ง “กลุ่มผู้ใช้น้ำฝายคลองเหนก” ขึ้นเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2552 เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมกันบริหารจัดการการใช้น้ำกันเองมาเป็นระยะให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ทั้งนี้โครงการดังกล่าว สามารถส่งน้ำช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่หมู่ที่ 1-4 ตำบลพระรักษ์ อำเภอพะโต๊ะ จำนวน 500 ครัวเรือน ราษฎรประมาณ 2,500 คน รวมทั้งพื้นที่การเกษตรโดยเฉพาะพื้นที่สวนทุเรียน ประมาณ 2,500 ไร่ ตลอดจนวัดโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ได้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี

นายประชา ประดู่วงษ์ ที่ได้รับผลประโยชน์จากโครงการฝายคลองเหนกอันเนื่องมาจากพระราชดำริบอกความรู้สึกว่า

“...ก่อนหน้านี้ ขาดแคลนน้ำทำการเกษตรนับแต่ หลังมีฝายคลองเหนก ซึ่งเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยน้ำที่ได้นำมาใช้ทำเกษตรแบบผสมผสานในพื้นที่ ทำให้มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ฯทำให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น พอเพียง ไม่รวย แต่มีกินมีใช้ตลอด และครอบก็มีความสุข...”

นายไพโรจน์ บัวทิม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพระรักษ์ กล่าวด้วยความตื้นตันว่า...แม้พระองค์ท่านเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้วแต่พระองค์ท่านก็ยังอยู่ในใจของพวกเราทุกคน ซึ่งไม่สามารถที่จะสรรหาถ้อยคำใดมาอธิบายถึงพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพวกเรา

“ราษฎรกว่า 500 ครัวเรือน ในพื้นที่หมู่ที่ 1-4 ตำบลพระรักษ์ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร ได้รับผลประโยชน์จากฝายคลองเหนก ทั้งในเรื่องน้ำกิน น้ำใช้ และทำการเกษตร ทั้งนี้เป็นเพราะได้รับพระมหากรุราธิคุณจากในหลวงรัชกาลที่ 9 พระมหากรุณาธิคุณของท่านมากเกินกว่าจะบรรยายได้ ทรงมองเห็นถึงอนาคตของประเทศไทยในทุกๆพื้นที่ และฝายคลองเหนกนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์สุขแก่ราษฎรในพื้นที่”นายไพโรจน์ บัวทิม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพระรักษ์ กล่าวทิ้งท้าย