1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
ในศตวรรษที่ 21 นี้หลายประเทศให้ความสำคัญในการพัฒนาคนในชาติของตนเอง เพื่อให้มีศักยภาพในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยจะเห็นว่าปัจจัยแห่งความสำเร็จที่สำคัญ คือ “ศักยภาพของระบบการศึกษาเพื่อการส่งเสริมนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของเศรษฐกิจในยุคนี้ ระบบการศึกษาต้องพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาให้ผู้เรียนเกิดทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมโดยการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ การคิดเชิงวิพากษ์และแก้ปัญหา การสื่อสารและการร่วมมือกันทำงาน ซึ่งเป็นทักษะเพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีความสุขและสร้างสรรค์ (วัชรา เล่าเรียนดีและคณะ. 2560 : 15) ซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการคิดในระดับสูง โดยเฉพาะความคิดสร้างสรรค์ เพราะความคิดสร้างสรรค์มีความสำคัญต่อการพัฒนาชีวิตและสังคม กระทรวงศึกษาธิการจึงได้ นำมาเป็นส่วนหนึ่งของจุดเน้นของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 เพราะเด็กและเยาวชนที่มีความคิดสร้างสรรค์จะกลายเป็นบุคลากรที่จะช่วยนำประเทศไปสู่เป้าหมายที่เราคาดหวังได้ (สังวร งัดกระโทก. 2561 : หน้า 32)
ความคิดสร้างสรรค์ช่วยให้ชีวิตมนุษย์เกิดความสมบูรณ์และเจริญก้าวหน้ามากขึ้นในทุกด้าน ทั้งในระดับปัจเจกบุคคล ประเทศชาติ และสังคมโลก เพราะความคิดสร้างสรรค์นำไปสู่การค้นพบสิ่งใหม่ ตลอดจนนำไปสู่การพัฒนาและแก้ไขปัญหาซึ่งมีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เพราะการแก้ปัญหาด้วยวิธีการเดิม ๆ มักจะใช้ไม่ได้ผล ความคิดสร้างสรรค์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญและชี้ชัดว่าความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและสังคมยุคนี้ขึ้นอยู่กับการที่คนในองค์กรมีความคิดสร้างสรรค์ เพราะความคิดสร้างสรรค์เป็นต้นกำเนิดของนวัตกรรม และนวัตกรรมก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสภาพการดำรงชีวิตของ มนุษย์ (สุคนธ์ สินธพานนท์และคณะ. 2562 : 216)
จากการศึกษาข้อมูลดังกล่าว ผู้สอนจึงมีความสนใจที่จะพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
2. วิธีการดำเนินให้บรรลุ
1. ศึกษาและวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2560) ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560 เกี่ยวกับมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดที่จะนำมาพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
2. ศึกษาหลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) ทฤษฎีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning) และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
3. วิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคลเพื่อจัดการเรียนรู้ตามความแตกต่างของผู้เรียน
4. จัดทำหน่วยการจัดการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้ สื่อการสอน และแบบทดสอบทักษะความคิดสร้างสรรค์
5. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามเทคนิคการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีขั้นตอน ดังนี้
5.1 ทดสอบทักษะความคิดสร้างสรรค์ ก่อนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน
5.2 จัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน
ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ เป็นการกระตุ้นเชิงบวกที่ส่งผลให้ผู้เรียนสนใจ อยากเรียน อยากรู้อยากค้นหาคำตอบ และตื่นตัวในการค้นหาความรู้ด้วยตนเอง เช่น การนำปัญหาที่ผู้เรียนสนใจมาตั้งเป็นหัวข้อ ให้ค้นคว้า หรือใช้เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้เรียน หรือสิ่งที่ผู้เรียนสนใจเป็นตัวกระตุ้น ด้วยวิธีนี้เด็กจะ ไม่ได้เรียนเพื่อสอบ แต่เรียนเพื่อรู้ และความรู้ที่เด็กค้นหาก็สามารถนำไปใช้ในชีวิตได้จริง กระตุ้นการเรียนด้วย สื่อ คลิป วิดีโอเกม เป็นตัวเลือกที่ดีมากในการกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน เพราะเด็กได้ฝึกทักษะการสื่อสาร ด้านปฏิสัมพันธ์ การทำงานร่วมกับผู้อื่น รู้จักแพ้ ชนะ และรู้จักปรับปรุงแก้ไขตนเองมากกว่าการคิดเอาชนะ อย่างเดียว
ขั้นที่ 2 ตั้งปัญหาและแบ่งกลุ่ม เนื้อหาที่สอนมีประโยชน์อะไร หรือจะนำไปใช้งานเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับชีวิตจริงอย่างไร การนำปัญหาในชีวิตจริงเป็นตัวตั้ง เช่น อ่านออกเสียงผิดจะทำให้ความหมายผิดตามไปด้วยหรือไม่
ขั้นที่ 3 ค้นคว้าและคิด หนึ่งในบริบทของ CBL คือการให้ความสมัครใจ ความสนใจ และความร่วมมือกันของเด็ก ดังนั้นการแบ่งกลุ่มเพื่อค้นและคิดจึงให้แบ่งตามความสนใจ ซึ่งจะทำให้เด็กร่วมกันค้นคว้าในเรื่องที่ตนสนใจ เป็นการค้นหาด้วยความ “อยากรู้” ครูตั้งปัญหาให้แต่ละกลุ่มค้นคว้าเรื่องที่แตกต่างกัน เพราะจะทำให้เด็กได้ความรู้ นอกเหนือจากเรื่องที่ตนค้นหามาเอง และไม่เบื่อที่จะฟังกลุ่มอื่นนำเสนอ
ขั้นที่ 4 นำเสนอ หลังจากที่ได้ค้นคว้าหาข้อมูลและร่วมกันคิดหาข้อสรุปแล้ว ผู้เรียนจะออกมานำเสนอผลงานทีละกลุ่ม ยิ่งผู้เรียนมีโอกาสนำเสนอบ่อย ๆ ก็ยิ่งเพิ่มพูนทักษะการนำเสนอส่วนสมาชิกในกลุ่มก็เกิดทักษะการทำงานร่วมกัน ทักษะการค้นคว้า และทักษะการคิด ครูส่งเสริมทักษะต่าง ๆ โดยสนับสนุนและเปิดโอกาสให้แสดงความสามารถตามความถนัดให้กับผู้เรียน เช่น นำเสนอด้วย PowerPoint
พูดคนเดียว อภิปรายกลุ่มหรือนำเสนอเป็นโปสเตอร์แชร์ลง Facebook แชร์ลงเพจ หรือนำเสนอทางโซเชียลมีเดีย ครูกำหนดกติกาของห้องเรียน เช่น ต้องฟังเวลาเพื่อนนำเสนอครูอาจใช้วิธีถามผู้เรียนกลุ่มอื่น ๆ ทันที่หลังจากจบการนำเสนอหรือให้ผู้เรียนต่างกลุ่มถามคำถาม เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ตั้งใจฟัง ควรให้เวลากับการถามตอบ เพราะเป็นกระบวนการที่ทำให้ผู้นำเสนอและผู้ฟัง ได้ทบทวนตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่นำเสนอครูช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไขได้
ขั้นที่ 5 ประเมินผล การประเมินผลจึงจำเป็นต้องทำให้ครอบคลุมทั้ง 3 ด้านได้แก่ความรู้ (Knowledge) ทักษะ (Skills) และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attributes) และควรแยกแสดงผลแต่ละด้าน โดยไม่นำมาร่วมกัน เพื่อให้ผู้เรียนใช้ผลการประเมินไปพัฒนาตนเอง
5.3 ทดสอบทักษะความคิดสร้างสรรค์ หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนแบบสร้างสรรค์ เป็นฐาน
6. ให้ผู้เรียนทำแบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อการเรียนวิชาเทคโนโลยี ที่จัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน
7. รวบรวมข้อมูลของแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ เพื่อนำมา วิเคราะห์และปรับปรุงแก้ไขในประเด็นต่าง ๆ
8. นำผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ เข้าร่วมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของกลุ่มสาระฯ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและหาแนวทางการพัฒนา
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ร้อยละ 70 มีทักษะความคิดสร้างสรรค์ ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด และผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากขึ้นไป
ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีทักษะความคิดสร้างสรรค์ รายวิชาเทคโนโลยี ในระดับดี
ตัวชี้วัด (Indicators)
ผู้เรียนร้อยละ 70 มีความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของครู อยู่ในระดับมากขึ้นไป
แผนภูมิแสดงระดับความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของครู
รายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาคเรียนที่ 2/2564 มีจำนวนผู้เรียน 35 คน มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจ 4.59 อยู่ในระดับมาก
ผู้เรียนร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ตั้งแต่ 2.00 ขึ้นไป
แผนภูมิแสดงการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเทคโนโลยี
ภาคเรียนที่ 2/2564
รายวิชาเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 2/2564 มีจำนวนผู้เรียน 35 คน มีค่าเฉลี่ยผลการเรียน ตั้งแต่ 2.0 ขึ้นไป ร้อยละ 94.1
คลิปวีดีโอการจัดการเรียนรู้