สืบสานประเพณีท้องถิ่น บุญบั้งไฟเบิกบ้านตำบลดอนยาวใหญ่ (ศิลปวัฒนธรรม)
ความเชื่อของ ประเพณีบุญบั้งไฟ ปรากฏอยู่ใน ตำนานเรื่องพญาคันคากและเรื่องผาแดงนางไอ่ มีการกล่าวถึงการจุดบั้งไฟเพื่อบูชาพญาแถน โดยเฉพาะในเรื่องพญาคันคาก ซึ่งตำนานนั้นมีอยู่ว่า พญาคันคาก เป็นพระโพธิสัตว์ เสวยชาติเป็นโอรสของกษัตริย์ เหตุที่ได้ชื่อว่า “พญาคันคาก” เป็นเพราะเมื่อครั้งประสูติมีรูปร่างผิวพรรณเหมือนคางคก หรือที่ชาวอีสานเรียกกันว่า คันคาก และถึงแม้พระองค์จะมีรูปร่างอัปลักษณ์ แต่พระอินทร์ก็คอยช่วยเหลือ จนพญาคันคากเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน จนลืมที่จะเซ่นบูชาพญาแถน พญาแถนจึงโกรธ ไม่ยอมปล่อยน้ำฝนให้ตกลงมายังโลกมนุษย์ จึงเกิดศึกการต่อสู้ระหว่างพญาคันคากและพญาแถนขึ้น โดยพญาคันคากได้นำทัพสัตว์ต่างๆ ขึ้นไปรบ จนได้รับชัยชนะ พญาแถนจึงปล่อยให้ฝนตกลงมาเช่นเดิม แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องจุดบั้งไฟขึ้นไปบูชาเป็นประจำทุกปี จึงเป็นที่มาว่า ชาวอีสานจึงทำบั้งไฟจุดขึ้นบนฟ้าถวายพญาแถน เพื่อฝนจะได้ตกต้องตามฤดูกาล
อำเภอโนนแดง บริเวณแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมฐานบั้งไฟเก่า บ้านหินเงิ้ม ตำบลดอนยาวใหญ่ อำเภอโนนแดง จังหวัดนครราชสีมา ก็มีความเชื่อเรื่องตำนานการจุดบั้งไฟเพื่อบูชาพญาแถน ดังนั้นชาวบ้านจึงมาร่วมกันจัด “ประเพณีจุดบั้งไฟเบิกบ้าน” เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีที่มีมาแต่ครั้งปู่ย่าตายายหลายชั่วอายุคน เชื่อมความสัมพันธ์ความสามัคคี ซึ่งงานนี้ไม่มีรางวัลสินน้ำใจแต่อย่างใด มีเพียงความสนุกสนานของของพี่น้องในชุมชนเท่านั้น ซึ่งโดยปกติในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูกาลทำนารอบใหม่ ในพื้นที่จะจัดประเพณีบุญบั้งไฟเพื่อบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางและบอกพระยาแถน ให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล โดยถือเป็นงานประเพณีใหญ่ของชาวบ้านที่สืบทอดกันมามากกว่า 50 ปี มีประชาชนจากหมู่บ้านต่างๆ ในพื้นที่ ตำบลดอนยาวใหญ่ ตั้งขบวนแห่บั้งไฟของคุ้มบ้านตัวเองอย่างคึกคัก ซึ่งประเพณีบุญบั้งไฟอยู่คู่กับวิถีชีวิตของคนอีสานมาอย่างยาวนาน ประเพณีนี้จึงมีความผูกพันกับคนอีสานอย่างเหนียวแน่น ทุกปีชาวอีสานจะจัดทำบุญบั้งไฟกันอย่างเอิกเกริก ยิ่งปีใดฝนแล้งจะต้องทำเป็นกรณีพิเศษ
นอกจากนี้ประเพณีบุญบั้งไฟยังเปิดโอกาสให้ชาวบ้านจาก หมู่บ้านและตำบลต่างๆ ได้มาช่วยกันทำบุญบั้งไฟ หากหมู่บ้านใดไม่จัดงานบุญบั้งไฟบูชา ฝนก็จะไม่ตกถูกต้องตามฤดูกาล อาจก่อให้เกิดภัยพิบัติกับหมู่บ้านได้ ซึ่งก่อนจะถึงวันงานหรือวันเอาบุญ ชาวบ้านก็จะช่วยกันเตรียมงานกันอย่างสามัคคี ชาวบ้านที่ได้รับมอบหมายจะสร้างปะรำ หรือ ผาม หรือ ตูบบุญ ฝ่ายแม่ครัวก็เตรียมข้าวปลาอาหารไว้เลี้ยงแขกเลี้ยงคน ฝ่ายช่างฟ้อนก็เตรียมขบวนรำไว้สำหรับแห่บั้งไฟ ฝ่ายผู้ชายที่เป็นช่างฝีมือก็ช่วยกันทำบั้งไฟและตกแต่งให้สวยงาม โดยประเพณีบุญบั้งไฟนี้เป็นงานบุญที่เน้นความสนุกสนานรื่นเริง ชาวบ้านจะเอาบั้งไฟของแต่ละคุ้มแต่ละหมู่บ้านมาจุดแข่งกัน ถ้าของใครทำมาดีจุดขึ้นได้สูงสุดก็จะชนะ แต่ถ้าของใครแตกหรือซุก็ถือว่าแพ้ ต้องโดนลงโทษโดยการจับโยนลงโคลนหรือตมซึ่งเป็นที่สนุกสนานอย่างยิ่ง
ผู้ให้ข้อมูล นายสุทล ทองดีนอก
ผู้เรียบเรียง นางสาวสุพินญา ลอบไธสง