ศาลเจ้าปากน้ำกะแดะ และ ศาลเจ้าทับทิม บ้านกะแดะ

ในพื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ มีคนไทยเชื้อสายจีนไหหลำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณปากน้ำกะแดะ และบ้านกะแดะอันเป็นที่ตั้งของอำเภอกาญจนดิษฐ์ในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะว่าบริเวณดังกล่าวมีทางน้ำซึ่งสัญจรไปมาสะดวกเมื่อมีผู้อพยพจากแผ่นดินใหญ่จีนมาตั้งหลักแหล่งมากเข้า ก็ได้ก่อสร้างศาลเจ้าขึ้นเพื่อนำรูปเคารพมาไว้เป็นที่สักการบูชา และเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ศาลเจ้าที่สำคัญซึ่งคนไทยเชื้อสายจีนตั้งขึ้นในเขตพื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ มี 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าปากน้ำกระแดะศาลเจ้าแม่ทับทิมบ้านกะแดะ

ศาลเจ้าปากน้ำกะแดะ ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 6 ตำบลพลายวาส อำเภอกาญจนดิษฐ์ บริเวณปากน้ำกะแดะ อันเป็นชุมชนซึ่งมีชาวประมงตั้งหลักแหล่งทำมาหากินอยู่หนาแน่น ศาลเจ้าปากน้ำกะแดะสร้างมาประมาณ 200 ปีเศษแล้ว โดยความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านปากน้ำกะแดะ เชื้อสายจีนไหหลำ ซึ่งได้อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่มาตั้งรกรากทำมาหากินที่นี่ แต่เดิมเป็นอาคารไม้ใต้ถุนสูง หลังคามุงด้วยกระเบื่อว่าว มีองค์เทพเจ้ากวนอู ซึ่งอัญเชิญมาจากประเทศจีนประทับ เพื่อเป็นที่สักการะ ปัจจุบันศาลเจ้านี้ได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต เนื่องจากเมื่อปี 2533 ชาวไทยเชื้อสายจีนไหหลำทั้งจากบ้านปากน้ำกะแดะและที่อื่นๆของอำเภอกาญจนดิษฐ์และผู้มีจิตศรัทธาได้บริจาคทรัพย์ร่วมกันสร้างศาลเจ้าใหม่ขึ้น ซึ่งเป็นศิลปะแบบจีนอย่างสวยงามในพื้นที่เดิม ปัจจุบันศาลเจ้าหลังนี้นอกจากเป็นที่พึ่งทางใจอย่างสำคัญแก่ชาวบ้านปากน้ำกะแดะแล้วยังเป็นที่พึ่งของผู้มีจิตศรัทธาของคนโดยทั่วไปอีกด้วย

ส่วน ศาลเจ้าแม่ทับทิมที่บ้านกะแดะ ตั้งอยู่ที่ ตลาดกะแดะ หรือบริเวณใกล้ตัวอำเภอกาญจนดิษฐ์นั่นเอง ไม่พบหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างเมื่อใด สันนิษฐานว่าคงมีอายุไม่น้อยกว่า 100 ปี กล่าวคือเมื่อชาวจีนไหหลำอพยพมาอยู่ที่เกาะทรายหรือป้านปากกะแดะ ก็ได้มีคนจีนกลุ่มหนึ่งย้ายถิ่นฐานจากบ้านปากกะแดะมาทำมาหากินที่บ้านกะแดะ โดยขึ้นตามลำน้ำคลองกะแดะห่างจากบ้านกะแดะ ประมาณ 3 กิโลเมตร เมื่ออพยพมาอยู่ที่นี่ก็จำเป็นต้องสร้างศาลเจ้าขึ้นเป็นที่เคารพบูชายึดเหนี่ยวทางใจ อาคารที่สร้างเป็นอาคารไม้ มุงกระเบื้อง ลักษณะของศาลเป็นศาลาคู่มีชานกลางโดยได้อัญเชิญรูปโพเต๋า (เจ้าแม่ทับทิม) เล่า บุนหง่าว และเฮียดีก๋ง (องค์ 108) ซึ่งเป็นรูปแกะสลักจากประเทศจีนมาตั้งเป็นรูปเคารพ ครั้นต่อมาคนจีนที่มาอาศัยที่บ้านกะแดะ ซึ่งมีจำนวนไม่มากเสียชีวิตลง ศาลเจ้าก็ขาดการดูแล ในที่สุดก็ทรุดโทรมและทิ้งร้างไป เมื่อมีการประทับทรงเทพเจ้ากวนอู (กวนก๋ง) ณ ศาลเจ้าไหหลำ บ้านปากกะแดะขณะประทับทรงได้ดำริให้รื้อศาลเจ้าหลังเก่า หลังจากนั้นได้ดำเนินการสร้างศาลเจ้าหลังใหม่เป็นศิลปะศาลเจ้าแบบจีน ศาลเจ้าหลังนี้ได้ทำพิธีเปิดเมื่อ 2539 นับเป็นศาลเจ้าที่มีความสวยงามมากหลังหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ศาลเจ้าจีนทั้งสองหลังในพื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ซึ่งเป็นศาลเจ้าสำคัญของคนไทยเชื้อสายจีนและผู้เคารพนับถือทั่วไป นับเป็นศิลปกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวโยงทางประวัติศาสตร์ของคนจีน ซึ่งอพยพมาตั้งหลักแหล่งทำมาหากินที่นี่ อันแสดงถึงความเชื่อถึงความศรัทธาในวัฒนธรรมดั่งเดิม และการดำรงชีวิตของคนไทยเชื้อสายจีน ในปัจจุบันศาลดังกล่าว จึงเป็นแหลงศิลปกรรมสำคัญที่ควรแก่การอนุรักษ์เป็นสมบัติของชาติบ้านเมืองด้วย


ผู้ให้ข้อมูล : หนังสืออนุสรณ์ กาญจนดิษฐ์สัมพันธ์ ครั้งที่ 23

ผู้เรียบเรียง : นางสาวหทัยชนก คอมเพ็ชร

ผู้ถ่ายภาพ : Postjung, Facebook : ที่นี่ศาลเจ้า ไหหลำบ้านปากน้ำกะแดะ

และ Facebook : ที่นี่ศาลเจ้าแม่ทับทิม บ้านกะแดะ