1. ด.ญ สุธิดา วิชาชัย ม.3/6
2. ด.ญ เมธาวี ปลัดสังข์ ม.3/6
฿150.10฿158.00 |5%Off
จำนวน : 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
หยิบใส่รถเข็น
โทรุจอมเขมือบที่วัน ๆ คิดแต่เรื่องกินถูกเลือกเป็นตัวแทนแข่งขันโค้ดดิงหรือ การเขียนโปรแกรมสำหรับเด็กร่วมกับฮารุและจอห์น ทั้งสามต้องฝ่าภารกิจสนุก ๆ มากมายในสวนสนุกแห่งโลกอนาคตที่ทุกอย่างทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ รวมไปถึง การสร้างเกมสุดมันที่โดนใจเด็ก ๆ งานนี้รับประกันความฮา พร้อมความรู้สนุก ๆ
โดราเอมอน ตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ
ドラえもん のび太の恐竜โดราเอมอน ตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ (ญี่ปุ่น: ドラえもん のび太の恐竜 โรมาจิ: Doraemon Nobita no Kyōryū) เป็นโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยาว ผลงานของ ฟูจิโกะ เอฟ. ฟูจิโอะ มีความยาวทั้งสิ้น 92 นาที ภาพยนตร์ชุดนี้ถือเป็นตอนแรกของโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ออกฉายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1980 และเข้าฉายในประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) โดยใช้ชื่อตอนว่า "โดเรม่อนผจญไดโนเสา" (สะกดตามต้นฉบับ)[2] โดยผู้นำเข้ามาฉาย คือ สมโพธิ แสงเดือนฉาย โดยเข้าฉายใน 2 โรงภาพยนตร์ คือ เมโทร และ สามย่าน นับเป็นโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์เรื่องยาวที่เข้ามาฉายในประเทศไทยเป็นเรื่องแรก ได้รับความนิยมมากเมื่อเข้าฉาย ด้วยการทำรายได้มากถึง 2 ล้านบาท [3] และในส่วนฉบับหนังสือการ์ตูน ได้ลิขสิทธิ์จัดพิมพ์โดยเนชั่นเอ็ดดูเทนเมนท์
แฮรี่พอตเตอร์ไม่เคยได้ยินชื่อของโรงเรียนฮอกวอตส์มาก่อนเลย จนกระทั่งกองทัพจดหมายร่อนลงบนพรมหน้าประตูบ้านเลขที่สี่ ซอยพรีเว็ต ลุงกับป้าผู้น่าขนลุกของเขายึดซองจดหมายที่ทำจากกระดาษแข็งสีออกเหลือง จ่าหน้าด้วยหมึกสีเขียวมรกตมีตราประทับขี้ผึ้งสีม่วงไปอย่างรวดเร็ว แต่แล้วในวันเกิดปีที่สิบเอ็ดของแฮรรี่ แฮกริดชายร่างยักษ์ดวงตาดำขลับคล้ายตัวด้วงก็โผล่มาพร้อมกับข่าวที่น่าประหลาดใจ คือแฮรี่ พอตเตอร์เป็นพ่อมด และเขามีสิทธิ์เข้าโรงเรียนคาถาพ่อมดและแม่มดเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ด้วย การผจญภัยแสนมหัศจรรย์กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
Rated 4.95out of 5 based on 21customer ratings
1,135.00 ฿ 1,021.50 ฿
พบกับนวนิยายไตรภาคโรแมนติกสืบสวนสอบสวน แอ็คชั่นสุดระทึก จากปลายปากกาผู้เขียน “ราชบุตรเขยเจ้าสำราญ”
จากเด็กสาวอายุ 16 หาเงินเลี้ยงตัวเองด้วยการเป็น “หมาล่าเนื้อ” อาชีพใต้ดินที่มีหน้าที่อันได้แก่ การลักพาตัว ไล่ล่าตามหาคนตามใบสั่งจากเอเย่นต์ แม้ชีวิตจะเสี่ยงอันตราย แต่เธอก็คิดว่าชีวิตของตัวเองนั้นราบเรียบดีอยู่ กระทั่งเธอรับงานตามหาคนคนหนึ่งที่ลาสเวกัส ทำให้ชีวิตการไล่ล่าของเธอต้องเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
"หมีพูห์" เป็นที่รู้จักในบ้านเรา จากการ์ตูนของ "วอลท์ ดิสนีย์" ซึ่งนำเอาพูห์มาลงสีสดใส เป็นเจ้าหมีตัวอ้วนกลมสีเหลืองใส่เสื้อสีแดง เรื่องราวของพูห์ก็เหมือนสังคมที่เด็กๆ อยู่ร่วมกัน มีทั้งความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ มีทั้งปัญหาและความขัดแย้ง แต่ด้วยมุมมองและวิธีคิดแบบเด็กๆ ซึ่งหลายครั้งก็ง่ายและลึกซึ้งอย่างไม่น่าเชื่อ ก็ทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี นอกเหนือจากความสนุกสนานแล้ว วิธีคิดแบบง่ายๆ ซื่อๆ แบบหมีพูห์ น่าจะสร้างแรงบันดาลใจและเป็นกำลังใจแก่ผู้อ่านได้ ไม่เพียงแต่เด็ก ๆ หากรวมถึงผู้ใหญ่ด้วย
มิกกี้ เมาส์ เป็นตัวละครการ์ตูนที่ครองใจเด็ก ๆ ทั่วโลก มีลักษณะเป็นหนูสีดำ สวมกางเกงเอี๊ยมสีแดง ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2471 โดยวอลต์ ดิสนีย์ และอับ ไอเวิร์กส ให้เสียงโดยวอลต์ ดิสนีย์ วิกิพีเดีย
การปรากฏตัวครั้งแรก: เรือกลไฟวิลลี่ (พ.ศ. 2471)
"ขนิษฐา" และ "เอื้อย" สองแม่ลูกผู้มีจิตใจดีงามหมั่นทำแต่ความดี แต่กลับถูกขนิษฐีและอ้ายกับอี่ ผู้ที่มีแต่ความอิจฉาริษยาคอยกลั่นแกล้งสารพัด ครั้นขนิษฐาผู็เป็นแม่ได้ตายจากไป ก็ยิ่งทำให้เอื้อยอยู่อย่างยากลำบากยิ่งขึ้น ด้วยผลแห่งความดีที่ขนิษฐาเคยทำไว้ ทำให้ได้ไปเกิดใหม่เป็น "ปลาบู่ทอง" เอื้อยจึงได้แต่นำรำข้าวมาให้แม่ปลาบู่ทองกินทุกวัน แต่เมื่อขนิษฐีและอ้ายกับอี่รู้เข้า ก็หมายจะเอาชีวิตแม่ปลาบู่ทองให้ได้ ความกตัญญูและคุณความดีของเอื้อยจะช่วยแม่ปลาบู่ทองได้อย่างไร? ติดตามเอาใจช่วยเอื้อยผู้น่าสงสารได้ในเล่ม
หญิงผู้ชั่วร้ายนางหนึ่งลักพาตัว "ราพันเซล" มาตั้งแต่ยังเป็นทารกน้อย โดยหวังจะใช้ประโยชน์จากผมที่มีมนตร์วิเศษของเธอ เมื่อราพันเซลเติบโตขึ้น ความสงสัยเกี่ยวกับโคมลอยที่ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้ายามราตรีในวันเกิดของเธอทุกปี ทำให้เธออยากออกจากหอคอยลึกลับเพื่อไปดูให้เห็นกับตา จนวันหนึ่งราพันเซลได้พบกับ "ฟลินน์ ไรเดอร์" โดยบังเอิญ เธอจึงยื่นข้อเสนอให้ฟลินน์พาเธอออกไปดูโคมลอย ซึ่งข้อเสนอนี้จะเปลี่ยนชีวิตของเธอไปอย่างสิ้นเชิง!
เก่งอังกฤษ และอ่านเรื่องราวสุดตื่นเต้นของสองพี่น้อง เอลซ่าและอันนา เมื่ออาณาจักรแอเรนเดลล์ถูกสาปให้มีเพียงฤดูหนาวชั่วนิรันดร์ เจ้าหญิงอันนาผู้กล้าหาญจึงออกตามหาราชินีเอลซ่า พี่สาวผู้มีพลังน้ำแข็ง อันนาจะทำอย่างไร เพื่อหยุดพายุน้ำแข็งอันหนาวเหน็บนี้ ตามไปเอาใจช่วยเธอกันเถอะ!
ด้วยความริษยาราชินีเรียกนายพรานเข้าเฝ้าและบังคับให้เขาฆ่าสโนว์ไวต์ทิ้งแล้วควักเอาหัวใจใส่กล่องมายืนยันพระกับนาง แต่ทว่านายพรานไม่อาจทำร้ายเจ้าหญิงได้ เขาปล่อยเธอไปและนำหัวใจหมูมาให้ราชินีแทน
สโนว์ไวต์วิ่งหนีเข้าไปในป่าทึบ ต้นไม้ทุกต้นดูราวกับมีชีวิต มันยื่นกิ่งออกมาฉุดรั้งสโนว์ไวต์เอาไว้ เธอรู้ตัวอีกทีก็มานอนร้องไห้อยู่กลางป่า ฝูงสัตว์พากันมุงดูเธอราวกับเป็นสิ่งประหลาด บัดนี้ชีวิตของสโนว์ไวต์ไม่ได้มืดมนอีกแล้วเธอร้องเพลงอยู่กับเพื่อนสัตว์ป่าของเธอ พวกมันพาเธอไปขอที่พักแรมในป่า สโนว์ไวต์พบกระท่อมหลังเล็ก เธอจึงถือวิสาสะเข้าไปทำความสะอาดที่นั่นและทำอาหารไว้ เผื่อว่าเจ้าของกระท่อมจะเห็นใจและให้เธอพักด้วย และเผลอหลับไปที่นอกบ้าน คนแคระตัวเล็กๆทั้งเจ็ดคนเดินกลับมาจากทำงานที่เหมืองและพบว่าบ้านตนมีผู้บุกรุกจึงเข้าไปดูว่าเป็นใคร แล้วก็ต้องตะลึงเมื่อเห็นหญิงสาวแสนงามนามสโนว์ไวต์และอนุญาตให้เธออยู่ด้วย
ที่พระราชวังราชินีถามกระจกเพื่อให้แน่ใจว่าตนงดงามที่สุด พระนางถึงกับโกรธจัดเมื่อรู้ว่าสโนว์ไวต์ยังไม่ตายโดยอาศัยอยู่กับพวกคนแคระที่กระท่อมในป่า พระนางวิ่งลงไปที่คุกใต้ดินและปรุงยาพิษเพื่อกำจัดสโนว์ไวต์ด้วยพระองค์เอง แอปเปิ้ลสีแดงสดถูกนำมาเคลือบด้วยยาพิษ ยาพิษที่เมื่อสโนว์ไวต์กินแล้วจะต้องหลับเป็นตายไม่มีสิ่งใดปลุกนางจากนิทราได้เว้นไว้แต่จุมพิตแรกแห่งรักแท้
ราชินีปลอมตัวเป็นหญิงชราแม่ค้าเร่ ทำทีไปขายแอปเปิ้ลให้สโนว์ไวต์ นางใช้มารยาหลอกให้สโนว์ไวต์กินแอปเปิ้ลจนสำเร็จและหลบหนีไป พวกคนแคระกลับมาดูสโนว์ไวต์และแต่ไม่อาจฝังร่างเธอได้ พวกเขาสร้างโลงแก้วบรรจุร่างสโนว์ไวต์เอาไว้และมาเยี่ยมเธอทุกวัน
วันหนึ่งเจ้าชายรูปงามผ่านมาพบสโนว์ไวต์และจุมพิตสโนว์ไวต์และแล้วคำสาปก็สูญสลายไป เจ้าชายพาสโนว์ไวต์ขี่ม้าขาวไปที่ปราสาทของพระองค์แล้วทั้งคู่ก็ครองรักกันอย่างมีความสุข ตลอดกาล