ประเด็นสำคัญ ให้ นายทหารโครงการฯ รับทราบ และดำเนินการ แจ้งให้ต้นสังกัด รวบรวม และ จัดเก็บเอกสาร หลักฐานสำคัญ ดังต่อไปนี้

หากในกรณี ที่ จะมีการตรวจสอบจาก สตน.กห. (ปีละ ๒ ครั้ง) และ สตง. ในอนาคต

๑ หลักฐานการเบิกจ่ายทุกประเภท ด้าน การจัดซื้อ และ การเบิกค่าตอบแทน เบี้ยเลี้ยงเดินทาง-ที่พัก ตามมาตรการประหยัด ฯลฯ)

๒ หลักฐาน ใบนำจ่ายภาษี ภ.ง.ด.๕๓ หัก ณ ที่จ่าย ในกรณีที่ บริษัท คู่สัญญา ถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้ที่หน่วยต้นสังกัด ซึ่ง กง.ของ หน่วยต้นสังกัด จะต้องนำส่ง กรมสรรพากร ในพื้นที่ ภายในไม่เกินวันที่ ๗ ของเดือนถัดไป

๓ ปรับสมุดบัญชี ของ โครงการวิจัยฯ ให้เป็นปัจจุบัน ทันสมัย และ กง.หน่วยต้นสังกัด นำส่งดอกเบี้ยเงินฝาก เมื่อ บัญชีเงินวิจัย เกิดรายได้ จากดอกเบี้ยเงินฝากนั้นๆ

๔ หลักฐานการเดินทางไปปฏิบัติราชการ ดำเนินงานวิจัย จะต้องสอดคล้อง สัมพันธ์ ได้แก่ หลักฐานการขอรถ ขส.ทร. ตามคำสั่ง ที่ไปฏิบัติราชการ และ การงดเว้นเบิกค่าเลี้ยงรับรองในการจัดประชุมนอกสถานที่/นอกพื้นที่ ในกรณีที่คณะทำงานฯ ได้รับเบี้ยเลี้ยงเดินทาง

ในวันนั้นๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

๕ การจัดทำ และ ควบคุม จัดเก็บ ทะเบียนทรัพย์สิน / ครุภัณฑ์ ที่ได้มาจากการจัดซื้อ จัดหา ทุกประเภท

ข้อกำหนด/หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินผลความก้าวหน้า

โครงการวิจัยและพัฒนาการทหารของ กห.

(๑) การจัดส่งรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานโครงการวิจัยและพัฒนาการทหาร ประจำไตรมาส

ตามแบบ วท.กห.๒ ผ่านหน่วยประสานการวิจัยของหน่วย ให้จัดส่งถึง วท.กห. ภายใน ๑๐ วัน นับแต่วันสิ้นไตรมาส

(๒) โครงการที่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินการในปีนั้น ๆ ในไตรมาสแรกจะได้รับสถานภาพโครงการเป็น “เริ่มใหม่” เห็นชอบให้ดำเนินโครงการต่อไป

(๓) โครงการที่มีผลการดำเนินงานเป็นไปตามแผนงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับอนุมัติชัดเจน

โดยหน่วยเจ้าของโครงการได้จัดส่งรายงานความก้าวหน้าของโครงการ พร้อมรายละเอียดด้านการวิจัยและพัฒนา จะได้รับสถานภาพโครงการเป็น “สีเขียว” หรือ “ผ่าน” เห็นชอบให้ดำเนินโครงการต่อไป

(๔) โครงการที่มีผลการดำเนินงานไม่เป็นไปตามแผนงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หรือไม่ได้จัดส่งรายงานความก้าวหน้าของโครงการ จะได้รับสถานภาพโครงการเป็น “สีเหลือง” หรือ “ไม่ผ่าน” เห็นชอบให้หน่วยเจ้าของโครงการหรือนายทหารโครงการเร่งรัดการดำเนินการและรายงานผลการดำเนินการเพิ่มเติม

ให้ วท.กห. โดยเร็วที่สุด

(๕) โครงการที่ประสบปัญหาในการดำเนินงาน ไม่มีความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการ หรือไม่สามารถดำเนินการต่อจนบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการได้ หรือไม่ได้จัดส่งรายงานความก้าวหน้าของโครงการ จะได้รับสถานภาพโครงการเป็น “สีแดง” หรือ “ไม่ผ่าน” เห็นชอบให้หน่วยเจ้าของโครงการหรือนายทหารโครงการเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาและรายงานผลการดำเนินโครงการเพิ่มเติมให้ วท.กห. โดยเร็วที่สุด

(๖) โครงการที่ได้รับสถานภาพตามข้อ (๔) และ (๕) หากยังมีงบประมาณโครงการคงเหลืออยู่ จะถูกชะลอ

การเบิกจ่ายงบประมาณไว้ จนกว่าหน่วยเจ้าของโครงการหรือนายทหารโครงการเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาและรายงานผลการดำเนินโครงการเพิ่มให้ วท.กห. และหากโครงการใดที่ได้รับสถานภาพเป็นสีแดงตามข้อ (๕) อาจถูกเสนอให้ อกวท.กห.วัดผลและประเมินผล เพื่อพิจาณาให้ยุติ หรือปิดโครงการได้

(๗) โครงการที่หน่วยเจ้าของโครงการได้รายงานขออนุมัติปิดโครงการต่อหน่วยประสานการวิจัยแล้ว

โดยอยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบของหน่วยประสานการวิจัย ซึ่งหน่วยประสานการวิจัยได้รับผิดชอบใน

การรายงานความก้าวหน้าให้ วท.กห. แทนหน่วยเจ้าของโครงการ เพื่อยืนยันการดำเนินการของหน่วยประสานการวิจัย จะได้รับสถานภาพโครงการเป็น “สีขาว” หรือ “ผ่าน”

(๘) โครงการที่หน่วยเจ้าของโครงการได้รายงานขออนุมัติปิดโครงการต่อหน่วยประสานการวิจัยแล้ว โดยอยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบของหน่วยประสานการวิจัย แต่หน่วยประสานการวิจัยไม่ได้จัดส่งรายงานความก้าวหน้าให้ วท.กห. แทนหน่วยเจ้าของโครงการ จะได้รับสถานภาพโครงการเป็น “สีดำ” หรือ “ไม่ผ่าน”

(๙) กรณีหน่วยเจ้าของโครงการมีความประสงค์จะขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการไปจาก

คำขอโครงการวิจัยและพัฒนาการทหารเดิมที่ได้รับอนุมัติไว้ ให้เสนอผ่านหน่วยประสานการวิจัย ถึง วท.กห.

ทั้งนี้ เพี่อขอความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการ และขออนุมัติเปลี่ยนแปลงโครงการต่อ จก.วท.กห.ต่อไป

(๑๐) การเปลี่ยนแปลงโครงการตามข้อ ๙ ในกรณีโครงการที่ครบกำหนดระยะเวลาดำเนินการแล้ว แต่ยังดำเนินงานโครงการไม่แล้วเสร็จ ขอให้หน่วยประสานการวิจัย และ/หรือ หน่วยเจ้าของโครงการรายงานขอขยายระยะเวลาเพิ่มเติม พร้อมปรับแผนการดำเนินงานที่เหลืออยู่จนถึงสิ้นสุดโครงการ

ปิดโครงการ

เมื่อการดำเนินโครงการ/กิจกรรมเสร็จสิ้นสมบูรณ์ลง หรือกรณีที่โครงการ/กิจกรรมยังไม่สมบูรณ์แต่จำเป็นจะต้องมีการยุติการดำเนินงาน หรือได้รับมติเห็นชอบจาก อกวท.กห.วัดผลและประเมินผล ให้ยุติโครงการ/กิจกรรม หรือได้รับแจ้งจาก วท.กห. ให้ปิดโครงการ/กิจกรรมได้ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด หน่วยเจ้าของโครงการ/กิจกรรม จะต้องรายงานขออนุมัติปิดโครงการ/กิจกรรม (ผ่านหน่วยประสานการวิจัย) มายัง วท.กห. ซึ่ง กคง.วท.กห.

จะเสนอขอความเห็นชอบจาก กวท. หรือ อกวท.กห.วัดผลและประเมินผล แล้วจึงดำเนินการขออนุมัติปิดโครงการ/กิจกรรมต่อ จก.วท.กห. ทั้งนี้เป็นไปตามระเบียบ กห. ว่าด้วยการวิจัยและพัฒนา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการทหารของ กห. พ.ศ.๒๕๕๕ หมวด ๔ การบริหารงานวิจัยและพัฒนาการทหาร ข้อ ๒๒.๕ และข้อ ๒๕ โดยมีสาระสำคัญดังนี้

๑. การปิดโครงการวิจัยและพัฒนาการทหาร หมายถึง การสิ้นสุดการดำเนินงานวิจัยและพัฒนา

(ทั้งในกรณีที่บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ/กิจกรรมและไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ/กิจกรรม) การยุติโครงการ/กิจกรรม (เป็นโครงการ/กิจกรรมที่ได้มีการเริ่มต้นการดำเนินงานและใช้จ่ายงบประมาณไปแล้วส่วนหนึ่ง) การยกเลิกโครงการ/กิจกรรม (เป็นโครงการ/กิจกรรมที่ยังไม่มีการใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันงบประมาณ) โดยมี

๒ ลักษณะ คือ

๑.๑ การปิดโครงการ/กิจกรรมตามความต้องการของหน่วยเจ้าของโครงการ/กิจกรรม เนื่องจากการวิจัยบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ/กิจกรรมแล้ว หรือ การวิจัยดำเนินการต่อไม่ได้ เนื่องจากนักวิจัยขาดความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เป็นปัญหาสำคัญของโครงการ การจัดซื้อ - จัดหาวัสดุอุปกรณ์การวิจัยไม่ได้ นักวิจัยลาออก ปรับย้ายตำแหน่ง/หน่วยงาน หรือเสียชีวิต ฯลฯ

๑.๒ การปิดโครงการ/กิจกรรมผลการพิจารณาของ อกวท.กห. วัดผลและประเมินผล เนื่องจาก

ผลการดำเนินงานไม่ก้าวหน้า โครงการ/กิจกรรม ไม่เป็นไปตามแผนงานหรือขั้นตอนตามที่กำหนดไว้ในแบบ วท.กห.๑ การดำเนินงานขาดประสิทธิภาพ ผลการดำเนินงานไม่สัมพันธ์กับการงบประมาณและเวลาที่ใช้ไป

หรือหมดความจำเป็นที่จะนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์เพราะว่าล้าสมัยและไม่คุ้มค่า ฯลฯ

๒. ขั้นตอนในการขออนุมัติปิดโครงการ/กิจกรรม

๒.๑ การปิดโครงการ/กิจกรรม ที่หน่วยเจ้าของโครงการ/กิจกรรม รายงานขออนุมัติปิดโครงการ/กิจกรรม จะต้องรายงาน วท.กห. ผ่านหน่วยประสานการวิจัย ภายใน ๓๐ วัน หลังสิ้นสุดโครงการ/กิจกรรม หรือเมื่อได้รับแจ้งให้ปิดโครงการ/กิจกรรม โดยใช้แบบ วท.กห.๕ รวมทั้งให้ส่งเอกสารสำคัญประกอบการพิจารณา

การปิดโครงการ/กิจกรรม ดังนี้

๑) แบบ วท.กห. ๕ รายงานขออนุมัติปิดโครงการ

๒) ร่างเอกสารการวิจัยที่มีรูปแบบและเนื้อหาตามที่ วท.กห. กำหนด โดยยังไม่ต้องเข้าเล่มปกแข็ง จำนวน ๓ เล่ม (เดิมกำหนดให้จัดทำเป็นเอกสารการวิจัยฉบับสมบูรณ์ พร้อมเข้าเล่มปกแข็ง จำนวน ๕ เล่ม)

๓) บัญชีครุภัณฑ์ที่จัดหามาใช้ในโครงการ

๔) ผลงานวิจัยต้นแบบหรือหุ่นจำลอง (ถ้ามี)

๕) แฟ้มข้อมูลในรูปแบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ แผ่นซีดี แผ่นดีวีดี และ/หรือภาพถ่าย

๖) สรุปการใช้จ่ายงบประมาณ สำเนาหนังสือสำคัญการนำส่งคืนเงินในกรณีที่มีเงินคงเหลือจากการทำวิจัย

๗) เอกสารสำคัญอื่น ๆ (ถ้ามี) ได้แก่ การประเมินผลจากผู้เชี่ยวชาญหรือคณะกรรมการ

ของเหล่าทัพ การรับรองมาตรฐานผลงานวิจัยจากเหล่าทัพ การประเมินผลการนำไปใช้งาน ฯลฯ

๒.๒ เมื่อหน่วยเจ้าของโครงการ/กิจกรรม เสนอรายงานขออนุมัติปิดโครงการ/กิจกรรม อย่างเป็นทางการต่อ วท.กห. แล้ว เจ้าหน้าที่ กคง.วท.กห. จะตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของรายงานเอกสารการวิจัยฉบับสมบูรณ์ และ/หรือ ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ทรงคุณวุฒิเฉพาะสาขา (ทางทหารและพลเรือน) เป็นผู้ประเมินผลสัมฤทธิ์

ของโครงการ/กิจกรรม ตามแบบประเมินผลโครงการ (หรืออาจใช้ผลการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญหรือคณะกรรมการของเหล่าทัพ) จากนั้นจึงนำโครงการ/กิจกรรม ที่ขออนุมัติปิดเข้าสู่กระบวนการพิจารณาให้

ความเห็นชอบจาก อกวท.กห.วัดผลและประเมินผล โดย จก.วท.กห. เป็นผู้มีอำนาจในการอนุมัติให้ปิดโครงการ/กิจกรรมได้แล้วนำผลการพิจารณาเสนอต่อ กวท.กห. (ผ่าน อกวท.กห.บริหาร) และรายงานให้ รมว.กห.ทราบ

หมายเหตุ การจัดทำบัญชีครุภัณฑ์ ต้นแบบผลงานวิจัย (ถ้ามี) และการนำส่งเงินคืน (ถ้ามี) ให้เป็นไปตามระเบียบ วท.กห. ว่าด้วยเงินอุดหนุนการวิจัยและพัฒนาการทหาร พ.ศ.๒๕๕๕ และหากนายทหารโครงการ/กิจกรรม หรือ หน่วยเจ้าของโครงการ/กิจกรรม ส่งเอกสารไม่ครบตามที่กำหนดจะถือว่ายังไม่ปิดโครงการ/กิจกรรมอย่างเป็นทางการ หน่วยรับผิดชอบ (อาจเป็นหน่วยเจ้าของโครงการ/กิจกรรม หรือหน่วยประสานการวิจัย แล้วแต่กรณี) ยังคงต้องส่งรายงานความก้าวหน้าทุก ๆ ไตรมาสต่อไป เพื่อรักษาสถานภาพโครงการไว้จนกว่าจะส่งเอกสารประกอบจนครบถ้วน)

เมื่อท่านอ่านทำความเข้าใจครบทุก หัวข้อแล้ว ให้คลิกปุ่ม "ลงทะเบียนรับทราบ" ด้านล่าง