หนังสือ 2 โครินธ์ เปาโลเขียนที่แคว้นมาซีโดเนียส่งถึงคริสตจักรในเมืองโครินธ์ประมาณ ค.ศ. 60 (ขณะที่ท่านเขียนฉบับที่หนึ่งประมาณปี ค.ศ. 59 ที่เมืองเอเฟซัส
1:1 เปาโล ผู้เป็นอัครทูตของพระเยซูคริสต์ตามพระประสงค์ของพระเจ้า และทิโมธีน้องของพวกเรา เรียน คริสตจักรของพระเจ้าซึ่งอยู่ที่เมืองโครินธ์ พร้อมกับบรรดาวิสุทธิชนซึ่งอยู่ทั่วแคว้นอาคายา
** อัครทูตของพระเยซูคริสต์ตามพระประสงค์ของพระเจ้า ท่านใช้คำนี้อีกครั้งหนึ่งเพื่อยืนยันว่าท่านคือผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกเพื่อให้รับใช้ตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
1:2 ขอพระคุณและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของพวกเรา และจากพระเยซูคริสต์เจ้า จงมีแก่ท่านทั้งหลายเถิด
** พระคุณ คือการกระทำของพระเจ้าทั้งหมดผ่านพระเยซูคริสต์เพื่อเรา
** สันติสุข ในที่นี้ คือ peace ความสงบสุขหรือนิ่งสงบเบาสบายภายในจิตใจ ไม่กลัว กังวล วิตก กระวนกระวาย
** จงมีแก่ท่าน คือจงเต็มล้น จงเข้าสู่ประสบการณ์แห่งพระคุณและสันติสุขดังกล่าว
1:3 สาธุการแด่พระเจ้า คือพระบิดาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเรา พระบิดาแห่งความเมตตาทั้งหลาย และพระเจ้าแห่งการปลอบประโลมใจทุกอย่าง
** สาธุการ กรีกคือ การพูดในเชิงยกย่อง อวยพร และความหมายในที่นี้ คือให้การยกย่องสรรเสริญและรับพรนั้นเป็นของพระเจ้า
** พระบิดาของพระเยซูคริสต์ คือพระเยซูที่เป็นบุตรมนุษย์ ผู้ชายชื่อเยซู
** พระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า Lord คือเจ้านาย นาย หรือพระผู้เป็นเจ้า คือเยซูนั่นเองที่เป็นพระเจ้า เป็นที่อยู่อาศัยของพระเจ้าทั้งสามพระภาค
** พระบิดาแห่งความเมตตาทั้งหลาย คือพระเจ้าทรงเป็นแหล่งกำเนิดของความรักและความเมตตาทั้งหลาย พระองค์ทรงเต็มเปี่ยมด้วยรัก love และเมตตา mercy / compassion
** พระเจ้าแห่งการปลอบประโลมใจทุกอย่าง คือพระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าที่ใส่ใจ care และให้กำลังใจ cheer up และปลอบประโลมใจ comfort แก่ผู้ที่แสวงหาพระองค์ ดังนั้นเมื่อเราเชื่อในพระเยซูคริสต์ อย่าคิดว่าเราโดยเดี่ยวและไม่มีใคร คิดว่าพระเจ้าไม่รัก ไม่สนใจ ไม่อภัยให้เราเมื่อเราทำบาปอย่างมากมาย ไม่ให้โอกาสเราอีก พี่น้องที่รัก พระเจ้าทรงเข้าใจเราดีกว่าตัวเราเสียอีก พระองค์รักและจะไม่ทอดทิ้งเรา ไม่ว่าเราทำบาปชั่วมามากมาย เมื่อเราเชื่อและมาหาพระองค์ เรามีผู้ปลอบประโลมใจที่รัก มีเมตตาเราเป็นที่สุด ไม่เหมือนมนุษย์หรือคริสเตียนศาสนาที่ค่อยแต่จะจับผิดและซ้ำเติมเรา สรรเสริฐพระเยซู
1:4 ผู้ทรงปลอบประโลมใจพวกเราในความทุกข์ยากทั้งสิ้นของพวกเรา เพื่อพวกเราจะสามารถปลอบประโลมใจคนเหล่านั้นซึ่งมีความทุกข์ยากอย่างหนึ่งอย่างใดได้ โดยการปลอบประโลมใจนั้นซึ่งพวกเราเองได้รับการปลอบประโลมใจจากพระเจ้า
** ปัญหาของผู้เชื่อในสมัยนั้น คือผู้รับใช้และพี่น้องพระกายบางส่วนได้รับความทุกข์ยากฝ่ายร่างกาย (1. ความขัดสนเรื่องการอยู่กิน, 2. การข่มเหงและความยากลำบากที่มาจากการรับใช้) พระวิญญาณบริสุทธิ์จึงตรัสผ่านเปาโลเพื่อหนุนใจทุกว่าที่พบความทุกข์ยากดังกล่าวให้มั่นใจในความเชื่อและวางใจในพระเจ้าผู้ทรงรัก เมตตา และคอยดูแลช่วยเหลือปลอบประโลมใจไม่เคยห่างหรือทอดทิ้งเราไปไหน
1:5 เพราะว่าการทนทุกข์ต่างๆ ของพระคริสต์บริบูรณ์ในพวกเราฉันใด การปลอบประโลมใจของพวกเราก็บริบูรณ์โดยพระคริสต์ฉันนั้น
** การทนทุกข์ต่างๆ ของพระคริสต์บริบูรณ์ในพวกเรา เปาโลหมายถึง ความทุกข์ยากเรื่องการเป็นอยู่ การเดินทางไปประกาศรับใช้ การถูกข่มเหงต่างๆ ซึ่งเป็นความทุกข์ยากที่พระเยซูได้รับและแบ่งปันให้แก่ผู้ชนะทุกคนไม่มากก็น้อย
1. เปาโลยืนยันว่าท่านคืออัครทูตที่มาจากพระเจ้า
2. สาธุการแด่พระเจ้า – Blessed be to God คำพูดในเชิงยกย่อง อวยพร พูดแต่สิ่งดีๆ
3. ผู้ปลอบประโลม comforter ที่ดีที่สุด ที่เข้าใจเรามากกว่าใคร พระองค์แคร์ ใส่ใจ ให้กำลังใจเราอยู่เสมอทุกวัน ไม่เคยห่างเราไปไหน ขอเพียงแค่เรารู้ เข้าใจและเชื่อในความจริงนี้
4. พระเจ้าทรงรับรู้ความทุกข์ของเราเรื่อง การเป็นอยู่การอยู่กิน การเดินทางประกาศรับใช้ การถูกข่มเหง แต่เพื่อเข้าสู่ชีวิตผู้ชนะ พระเยซูก็แบ่งปันประสบการณ์ความทุกข์ยากของพระองค์แก่เราไม่มากก็น้อย
ยน 14:16 และเราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผู้ปลอบประโลมใจอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่านทั้งหลาย เพื่อพระองค์จะได้สถิตอยู่กับท่านทั้งหลายตลอดไป
14:17 คือพระวิญญาณแห่งความจริง ผู้ซึ่งโลกไม่สามารถรับได้ เพราะว่าโลกมองไม่เห็นพระองค์และไม่รู้จักพระองค์ แต่ท่านทั้งหลายรู้จักพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายและจะประทับอยู่ในท่านทั้งหลาย
14:18 เราจะไม่ละทิ้งท่านทั้งหลายไว้ให้ปราศจากการปลอบประโลมใจ เราจะมาหาท่านทั้งหลาย
14:19 แต่อีกหน่อยหนึ่ง และโลกก็มองไม่เห็นเราอีกต่อไปแล้ว แต่ท่านทั้งหลายเห็นเรา เพราะว่าเรามีชีวิต ท่านทั้งหลายก็จะมีชีวิตด้วย
14:20 ในวันนั้นท่านทั้งหลายจะรู้ว่า เราอยู่ในพระบิดาของเรา และท่านทั้งหลายอยู่ในเรา และเราอยู่ในท่านทั้งหลาย
สรุปการสามัคคีธรรม: บ่าวก็ไม่เหนือไปกว่านาย เมื่อนายรับอะไรได้ประสบการณ์อะไรเข้ามาในชีวิตของนาย
1:6 และไม่ว่าพวกเราได้รับความทุกข์ยากนั้น ก็เพื่อการปลอบประโลมใจและความรอดของพวกท่าน ซึ่งมีผลในการสู้ทนความทุกข์ยากอันเดียวกันเหล่านั้นซึ่งพวกเราก็ทนทุกข์ด้วย หรือไม่ว่าพวกเราได้รับการปลอบประโลมใจนั้น ก็เพื่อการปลอบประโลมใจและความรอดของพวกท่าน
** เปาโลและเพื่อนร่วมงานได้รับความทุกข์ยากซึ่งได้รับมาจากการแบ่งปันของพระคริสต์ เพื่อผู้ที่เชื่อจะได้รับความรอดและการปลอบประโลมโดยพระผู้ปลอบประโลมที่อยู่ภายในเราเพื่อเมื่อผู้ที่เชื่อได้รับความทุกข์ยากพวกเขาก็มีกำลังใจและพลังจากพระคริสต์เยซู
1:7 และความหวังของพวกเราในพวกท่านนั้นก็มั่นคง โดยรู้ว่าพวกท่านเป็นผู้เข้าส่วนของความทุกข์ยากเหล่านั้นฉันใด พวกท่านก็จะเป็นผู้เข้าส่วนของการปลอบประโลมใจนั้นด้วยฉันนั้น
** สรุปคือ พระเยซูแบ่งปันความทุกข์ยากให้แก่สาวก จากนั้นก็แบ่งปันสู่ผู้เชื่อ และสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ เพื่อผู้เชื่อทุกคนจะได้รับการปลอบประโลมจากพระองค์ผู้สถิตอยู่ภายในเรา กำลังใจก็ดี ความหวังใจก็ดี คือสิ่งที่ผู้เชื่อไม่เคยขาดเมื่อเราพบความทุกข์ยากในแต่ละครั้ง อย่าคิดว่าเราโดดเดี่ยวเดียวดาย ท่านอย่าได้คิดเลย
1:8 พี่น้องทั้งหลาย ด้วยว่าพวกเราไม่อยากให้พวกท่านขาดความรู้เกี่ยวกับความทุกข์ลำบากของพวกเราซึ่งได้มาถึงพวกเราในแคว้นเอเชีย ที่พวกเราได้ถูกกดดันอย่างเหลือขนาด อย่างเกินกำลัง จนพวกเราหมดหวังว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยซ้ำ
** สำหรับผู้รับใช้บางคนอาจได้รับความทุกข์ยากอย่างมากมายจนหมดหวังในชีวิต
1:9 แต่พวกเรามีคำตัดสินแห่งความตายในพวกเราเองแล้ว เพื่อพวกเราจะไม่วางใจในตนเอง แต่ในพระเจ้าผู้ซึ่งทรงบันดาลให้คนตายเป็นขึ้นมา
** ผู้เชื่อและผู้รับใช้ไม่ว่าจะเป็นคริสเตียนศาสนาหรือคริสเตียนฝ่ายวิญญาณ ถ้าหากรู้จักวางใจในพระเจ้าและไม่วางใจในกำลังสติปัญญาของตนก็จะได้รับการช่วยกู้อย่างแน่นอน
1:10 ผู้ได้ทรงช่วยพวกเราให้พ้นจากความตายอันใหญ่หลวงแล้ว และกำลังทรงช่วยให้พ้น ในพระองค์นั้นพวกเราวางใจว่า พระองค์จะยังทรงช่วยพวกเราให้พ้นอีก
** การวางใจในพระเจ้าในท่ามกลางคริสเตียนศาสนานั้นไม่ค่อยจะมีหรือพวกเขาไม่เข้าใจความหมายของคำว่า วางใจ เมื่อคนใดคนหนึ่งวางใจในพระเจ้า พอเขาอธิษฐานเสร็จเขาจะไม่เก็บมาคิดอีก ทั้งไม่หนักใจ ไม่กังวลกระวนกระวาย กลัว หรือเป็นทุกข์ แต่เขาจะพูดว่า ข้าได้วางใจในพระเจ้า คือเอาภาระดังกล่าววางไว้ที่พระหัตถ์ของพระเยซูแล้วเราก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่ในมือทั้งสองข้างของเรา นี่คือการวางใจที่แท้จริง
1:11 พวกท่านก็ช่วยกันด้วยโดยการอธิษฐานเพื่อพวกเรา เพื่อว่าเพราะของประทานที่ได้ประทานแก่พวกเราผ่านทางคนเป็นอันมาก การขอบพระคุณจะได้ถูกถวายให้โดยคนเป็นอันมากเพราะเห็นแก่พวกเรา
** การอธิษฐานเผื่อกันและกันโดยเฉพาะเผื่อผู้รับใช้ที่ใช้ของประทานอยู่เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับพระกาย เพื่อทุกคนจะขอบพระคุณพระเจ้าไม่ว่าจะพบความทุกข์ยากเพราะว่าพระเจ้าจะปลอบประโลมและให้กำลังใจและพลังในเขาเพื่อที่จะอดทนต่อสู้กับทุกปัญหาในความทุกข์ยากเหล่านั้นได้
1. พระเยซูทรงแบ่งปันความทุกข์ยากทั้งหลายให้แก่เราเพื่อพระองค์จะได้แบ่งปันการครอบครองอาณาจักรร่วมกับพระองค์ให้แก่เราด้วย
2. เราอาจได้รับความทุกข์ยากไม่มากก็น้อย แต่พระองค์เป็นผู้ปลอบประโลมเราไม่เคยทิ้งเราห่างเราไปไหน ขอเพียงแค่เราอย่าทิ้งพระองค์ก็พอ
3. อย่าคาดหวังการใส่ใจปลอบประโลมจากมนุษย์จนเกินไปแต่ให้คาดหวังการปลอบประโลมจากพระเยซูก็เพียงพอแล้ว
4. ผู้เชื่อทั้งศาสนาและฝ่ายวิญญาณ ถ้าหากวางใจเป็น ก็จะได้รับการปลอบประโลมและการช่วยกู้ตามน้ำพระทัยอย่างแน่นอน
5. การอธิษฐานเผื่อพี่น้องและผู้รับใช้เป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะว่าเราเป็นพระกายเดียวกันต้องเอาใจใส่ดูแลช่วยเหลือกันและกัน
สรุปการสามัคคีธรรม : คำว่า "ปลอบประโลม" มีความหมายมากกว่าและลึกกว่าที่เราคิดเสียอีก
1:12 ด้วยว่าความปีติยินดีของพวกเราก็คือสิ่งนี้ คำพยานแห่งจิตสำนึกของพวกเรา ที่กระทำในความซื่อตรงและความจริงใจในทางของพระเจ้า มิใช่ด้วยปัญญาฝ่ายเนื้อหนัง แต่โดยพระคุณของพระเจ้า พวกเราได้มีการประพฤติของพวกเราในโลกนี้ และยิ่งกว่านั้นมากเท่าใดต่อพวกท่าน
** มิใช่ด้วยปัญญาฝ่ายเนื้อหนัง แต่โดยพระคุณของพระเจ้า ขณะที่ท่านเขียนหนังสือ 1 และ 2 โครินธ์ เปาโลยังไม่ได้เป็นผู้ชนะที่สุกงอมแต่ท่านฝึกเดินจนมีพระคริสต์เป็นสติปัญญาของท่าน คือพระคริสต์คิดแทน ตัดสินใจแทนท่านอยู่เสมอ เมื่อพระวิญญาณไม่คิดไม่นำท่านจะไม่คิด
** พวกเราได้มีการประพฤติของพวกเราในโลกนี้ นอกจากเปาโลมีพระคริสต์เป็นสติปัญญาของท่าน ท่านก็ยังมีการทำแทนของพระคริสต์อย่างมากมาย แต่ท่านวิ่งแข่งสำเร็จในหลายปีต่อมา (เมื่อท่านเขียนหนังสือ 2 ทธ 4:7)
• นี่คือลำดับหนังสือที่เปาโลเขียนถึงคริสตจักรต่างๆ จากแรกจนถึงสุดท้าย
1. 1 เธสะโลนิกา / ค.ศ. 54
2. กาลาเทีย / ค.ศ. 54
3. 1 โครินธ์ / ค.ส. 59
4. 2 โครินธ์ / ค.ส. 60
5. โรม / ค.ส. 60
6. ฟิเลโมน / ค.ส. 64
7. ฟีลิปปี / ค.ส. 64
8. เอเฟซัส / ค.ส. 64
9. โคโลสี / ค.ส. 64
10. 1 ทิโมธี / ค.ส. 65
11. 2 ทิโมธี / ค.ส. 67
1:13 ด้วยว่าพวกเราไม่เขียนสิ่งอื่น ๆ ถึงพวกท่าน นอกจากที่พวกท่านอ่านหรือรับรู้ และข้าพเจ้าก็วางใจว่าพวกท่านจะรับรู้จนถึงที่สุดปลาย
** เมื่อเปาโลเดินทางมาประกาศก่อนหน้านี้ ท่านได้สั่งสอนความรู้มากมายเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อ ความหวัง ความรอด การดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัย จดหมายฉบับนี้จึงไม่มีอะไรมากนอกจากคำแนะนำตักเตือนบางเรื่องเท่านั้น แต่ท่านเชื่อว่าพระวิญญาณจะเปิดเผยแก่พวกเขาจนถึงคราวสุดท้าย
1:14 ตามที่พวกท่านรับรู้พวกเราบ้างแล้วเช่นกัน ว่าพวกเราเป็นความปีติยินดีของพวกท่าน คือเหมือนกับที่พวกท่านเป็นความปีติยินดีของพวกเราเช่นกันในวันของพระเยซูเจ้า
** ผู้รับใช้ประกาศและเกิดผลมากมาย ผู้เชื่อก็ได้รับการดูแลเสริมสร้าง ทั้งคู่จึงมีความปิติคือได้มีส่วนเข้าไปในอาณาจักรเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมาเพื่อตัดสินผู้เชื่อทุกคน
1:15 และในความไว้เนื้อเชื่อใจนี้ ข้าพเจ้าได้ประสงค์ว่าจะมาถึงพวกท่านก่อน เพื่อพวกท่านจะได้พระคุณสองเท่า/พระคุณซ้อนพระคุณ
** พระคุณสองเท่า หรือพระคุณซ้อนพระคุณ หรือพระคุณอันครบถ้วน คือ..
- พระคุณ คือการไถ่บาปผ่านพระโลหิตของพระเยซู ผู้เชื่อทุกคนจึงกลายเป็นคนชอบธรรม (ทั้งๆ ที่เรามีบาปและทำบาปอยู่)
- พระคุณสองเท่าหรือพระคุณซ้อนพระคุณหรือพระคุณอันครบถ้วน คือผู้เชื่อมาถึงการชำระให้เข้าสู่ชีวิตผู้ชนะที่มีพระคริสต์ดำเนินชีวิตแทนเราแล้วไม่มากก็น้อย
1:16 และเพื่อจะผ่านพวกท่านเข้าไปยังแคว้นมาซิโดเนีย และเพื่อจะออกจากแคว้นมาซิโดเนียมาหาพวกท่านอีก และขอให้พวกท่านส่งไปในการเดินทางของข้าพเจ้าไปยังแคว้นยูเดีย
1. เปาโลเขียนหนังสือและจดหมายทุกฉบับโดยการนำพาคือสติปัญญาของพระคริสต์ อาจจะมีบางคำที่ท่านเขียนตามความคิดของท่านเองและท่านก็จะบอกว่า *สำหรับความคิดเห็นของข้าพเจ้า*
2. เปาโลเน้นที่การสนิทในพระเยซู (อธิษฐาน/พูดคุยกับพระเยซูอย่างสม่ำเสมอ) ท่านจึงเห็นผลของการที่พระคริสต์นำพา คิดและตัดสินใจและเขียนแทนท่าน
3. เปาโลกลับใจประมาณ ค.ส. 30 กว่าจนถึง 40 กว่า ท่านเขียนหนังสือ 2 โครินธ์ในปี ค.ส. 60 ท่านมีชีวิตที่พระคริสต์ทำแทนมากมาย และเป็นผู้ชนะที่เลิกทำบาปได้ทั้งหมดในปี ค.ส. 67 ท่านใช้เวลาประมาณ 10 ปี ในการฝึกเดินในพระวิญญาณ
4. เมื่อเปาโลไม่อยู่ พระวิญญาณก็ทำงานต่อและเปิดเผยพระคำแห่งความจริงมากขึ้น เปาโลเป็นแค่เพียงเครื่องใช้ที่พระเจ้าใช้เพื่อการเกิดผลของผู้เชื่อแต่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือพระวิญญาณบริสุทธิ์
5. พระคุณ และพระคุณสองเท่าคืออะไร
- พระคุณแรก คือการตายเพื่อไถ่บาปของพระเยซู และยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์
- พระคุณสองเท่า ซ้อนพระคุณ อันครบถ้วน คือพระเยซูเป็นขึ้นและเป็นพระวิญญาณอยู่ภายในเราเพื่อดำเนินชีวิตแทนเรา ทั้งผู้นำและผู้เชื่อ ทุกคนต้องรายงานตัวที่พระที่นั่งของพระคริสต์เรื่องการดำนินชีวิตและการรับใช้เพื่อรับบำเหน็จและถูกตีสอนเป็นเวลาพันปี ผู้ที่เน้นไฟ เน้นฤทธิ์เดช เน้นไล่ผี เน้นรักษาโรค เน้นความรู้ เน้นสร้างโบสถ์ใหญ่ๆ เน้นแสวงหาพระพร และความสุขในโลกนี้มากกว่าการสนิทบอกรักใกล้ชิดและให้พระคริสต์เป็นรากฐานในชีวิตตั้งเน้นเดินและรับใช้ด้วยรักเป็นหลักก็จะไม่มีโอกาสได้เข้าไปในอาณาจักร