รีวิว สถานที่สำคัญเชิงประวัติศาสตร์จังหวัดสิงห์บุรี

เชื่อว่าทุกคนในที่นี้ไม่มากก็น้อยที่ชื่นชอบในเรื่องของประวัติศาสตร์ของจังหวัดสิงห์บุรีในเรื่องของ ประวัติศาสตร์ของบางระจัน วัตถุโบราณ เครื่องปั้นดินเผา หรือประวัติศาสตร์ความเป็นของจังหวัดสิงห์บุรี เราเลยจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเชิงประวัติศาตร์ของจังหวัดสิงห์บุรีมาให้ทุกคนได้ดูกัน

เรามาเริ่มต้นด้วย "อุทยานวีรชนค่ายบางระจัน" ตั้งอยู่ตำบลบางระจัน มีพื้นที่ทั้งหมด 115 ไร่ เป็นสวนรุกขชาติ และอนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน มีรูปหล่อประติมากรรมวีรชนค่ายบางระจันทั้ง 11 คน สร้างโดยกรมศิลปากร ปรากฏเด่นเป็นสง่าอยู่ในสวน ซึ่งหัวหน้าค่ายบางระจันทั้้ง 11 คน ใช้เวลา 5 เดือน จึงเอาชนะได้ เมื่อวันจันทร์แรม 2 ค่ำ เดือน 8 ปีจอ พ.ศ. 2309 นับเป็นอนุสาวรีย์ที่มีความสำคัญยิ่งแห่งหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรี

เปิดทุกวัน ตั้้งแต่ 08:00 น. - 16:30 น. ไม่เก็บค่าเข้าชม

ค่ายบางระจันมีความสำคัญยิ่งทางประวัติศาสตร์ ผืนแผ่นดินแห่งนี้ได้บันทึกเหตุการณ์ความกล้าหาญและเสียสละของวีรชนไทยที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นชาวบ้านบางระจันได้รวมพลังกันต่อสู้กับกองทัพข้าศึกซึ่งมีจำนวนมากมายมหาศาล โดยข้าศึกต้องยกทัพเข้าตีหมู่บ้านนี้ถึง 8 ครั้ง นับเป็นอนุสาวรีย์ที่มีความสำคัญยิ่งแห่งหนึ่งในอุทยานวีรชนค่ายบางระจันเป็นอย่างมาก

ภายในค่ายบางระจันยังมีหมู่บ้านจำลองของชาวบ้านบางระจันที่มีชื่อว่า "หมู่บ้านระจัน" ทำให้เหมือนกับเราได้เหมือนกันว่าได้ย้อนยุคกลับไปในยุคนั้นให้กับนักท่องเที่ยวด้วยและยังมีน้องควายน้อยน่ารักที่เราสามารถขึ้นไปขี่ได้ด้วย

ภายในอาคารศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ได้มีการจัดห้องนิทรรศการแบ่งเป็นห้องต่างๆของชาวบางระจันและประวัติศาสตร์ของชาวจังหวัดสิงห์บุรี ได้แก่

มาต่อกันที่ " พิพิธภัณฑ์เตาเผาแม่น้ำน้อย" เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่มีคุณค่าของจังหวัดสิงห์บุรี  มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมไม่มากนัก ทั้งๆที่สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งขุดค้นพบเตาเผาขนาดใหญ่และวัตถุโบราณ  เครื่องปั้นดินเผา ภาชนะเครื่องใช้ที่สำคัญ ซึ่งเป็นร่องรอยความเจริญทางอารยธรรมในสมัยอยุธยา 

เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.30-16.30น.  ไม่เก็บค่าเข้าชม 

ที่ เตาเผาแม่น้ำน้อย  ตั้งอยู่ในอำเภอบางระจัน โดยกรมศิลปากรได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์เป็นอาคารขนาดใหญ่เชื่อมต่อกันสองหลังโดย

สถานที่ต่อไป คือ "มิวเซียมสิงห์บุรี" นับว่าเป็นฐานแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ประจำภาคกลาง มีการจัดแสดงนิทรรศการถาวร "ทรัพย์เมืองสิงห์" ภายใต้รูปแบบแสง สี เสียง มัลติมีเดียร่วมสมัยสไตล์มิวเซียมสยาม เพิ่มอรรถรสในการชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เพิ่มความน่าสนใจและลูกเล่นต่าวๆ สำหรับผู้เข้าชมในกลุ่มเยาวชน ซึ่งประกอบไปด้วย 8 ห้อง 

ห้องแสดงทั้ง 8 ห้องใช้เวลาเดินชมประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ จะได้ทั้งความรู้และความสนุกสนานของมิวเซียมและได้ความรู้เกี่ยวกับอาคารหลังเก่าหลังนี้ไปด้วย

มิวเซียมสิงห์บุรีได้ดัดแปลงอาคารศาลากลางจังหวัดสิงห์บุรี (หลังเดิม) ที่สร้างไว้ตั้งแต่สมัย ร.ศ.130 หรือ พ.ศ.2454 ซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียวสีเหลืองมัสตาร์ดสดใส สถาปัตยกรรมสไตล์ยุคโคโลเนียล มาสู่การเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ของเมืองสิงห์บุรี ที่มีชื่อเท่ๆร่วมสมัยว่า "มิวเซียมสิงห์บุรี" อันเกิดจากความร่วมมือระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรีและสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) 

เปิดวันอังคาร - วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 - 17.00 น. เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย 

และสถานที่สุดท้ายนี้เหมาะสำหรับคนชอบถ่ายรูปมาก คือ "Street Art" ภาพวาด Street Art นำมาใช้ในการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม ซึ่งถือเป็นสื่อกลางในการที่จะทำให้ผู้พบเห็น สามารถเข้าถึงและเข้าใจการท่องเที่ยวที่ตนเองได้ไปเยือนได้อย่างง่ายดาย ทั้งในแง่ของวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ วิถีชีวิต และประวัติศาสตร์ ทำให้พื้นที่ตลอดแนวเขื่อนกั้นน้ำ มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม เกิดประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว เป็นสถานที่ออกกำลังกายของประชาชน อีกทั้งยังเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของคคนจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งสถานที่ของงาน Street Art นี้จัดอยู่ด้านหน้าของ "มิวเซียมสิงห์บุรี" อีกด้วย 

แหล่งอ้างอิง

LinkLinkLinkLink