ข่าวประชาสัมพันธ์

วันที่ 6 มีนาคม 2567 นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ให้การต้อนรับ ฯพณฯ นายโจนาธาน คิงส์ (H.E. Mr. Jonathan Kings) เอกอัครราชฑูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย นายนาธาน ฮอลลิส (Mr. Nathan Hollis) เลขานุการเอก (การค้าและเศรษฐกิจ) สถานเอกอัครราชฑูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย

วันที่ 6 มีนาคม 2567 นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ให้การต้อนรับ ฯพณฯ นายโจนาธาน คิงส์ (H.E. Mr. Jonathan Kings) เอกอัครราชฑูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย นายนาธาน ฮอลลิส (Mr. Nathan Hollis) เลขานุการเอก (การค้าและเศรษฐกิจ)
สถานเอกอัครราชฑูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ในโอกาส
เข้าเยี่ยมคารวะและรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสหกรณ์โคนม
ในประเทศไทย ภารกิจและนโยบายของกรมส่งเสริมสหกรณ์
ในการส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์โคนม รวมถึงหารือและแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับการพัฒนาความร่วมมือทางการเกษตรและการค้า
โดยมี นายสันทาน สีสา รองอธิบดี กรมส่งเสริมสหกรณ์
นายนาถ บำรุงพาณิชย์ ผู้อำนวยการกองแผนงาน
นางสาวอุบลวรรณ พัฒนลาภ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ นางสาวเจษฎาภรณ์ สถาปัตยานนท์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิเทศสัมพันธ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ
ณ ห้องประชุม 126 กรมส่งเสริมสหกรณ์ เทเวศร์ กรุงเทพมหานคร

      โอกาสนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้กล่าวต้อนรับคณะเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสหกรณ์โคนม และนโยบายการส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์โคนมในประเทศไทยของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยมีสหกรณ์โคนม จำนวนทั้งสิ้น 102 สหกรณ์ มีโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมของสหกรณ์ จำนวน 29 สหกรณ์ โดยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศไทยกว่า 74% เป็นสมาชิกสหกรณ์โคนม ซึ่งปริมาณน้ำนมดิบในประเทศ 56% มาจากสหกรณ์โคนม โดยปริมาณน้ำนมดิบที่ผลิตได้ต่อวันของประเทศ มีปริมาณ 2,800 ตัน/วัน ซึ่งในจำนวนนี้มาจากสหกรณ์ 1,500 ตัน/วัน โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของสหกรณ์และสมาชิก ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ได้แก่ การสนับสนุนองค์ความรู้ในการบริหารจัดการฟาร์ม การสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ พัฒนาการรวบรวมน้ำนมดิบ ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์นม ทั้งนี้ เกษตรกรสมาชิกของสหกรณ์ส่วนใหญ่ยังเป็นฟาร์มขนาดกลางถึงขนาดเล็ก ที่มีการเลี้ยงโคอยู่ระหว่าง 20 - 50 ตัว

      สำหรับฝ่ายนิวซีแลนด์ได้แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับการพัฒนาสหกรณ์โคนมของบริษัท  Fonterra ซึ่งเป็นสหกรณ์โคนมที่ใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์  รวมถึงแลกเปลี่ยนในประเด็นความร่วมมือร่วมกันในอนาคตและการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดการค้าเสรีสินค้านมและผลิตภัณฑ์ ในปี 2568 ภายใต้ความตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นไทย-นิวซีแลนด์ (TNZCEP)  ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีในการขยายความร่วมมือระหว่างไทยและนิวซีแลนด์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นมร่วมกัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ เช่น นมสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการผลิตและเทคโนโลยีสมัยใหม่ 

      ทั้งนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์และเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ได้หารือเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือในอนาคต เพื่อพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรสมาชิกผู้เลี้ยงโคนมและสหกรณ์โคนมในประเทศไทยในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การลดต้นทุน รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับใช้ในภาคสหกรณ์ของไทยต่อไปในอนาคตด้วย