ชญานันท์ สุวรรณพรหม
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
โรงเรียนหนองยางชุมพิทยาคม
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุดรธานี
ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง
งานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ กำหนด
-รายวิชาคณิตศาสตร์ (ค23101) จำนวน 3 คาบ/สัปดาห์
-รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม (ค23201) จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์
-รายวิชาคณิตศาสตร์ (ค32101) จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์
-รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม (ค32201)จำนวน 3 คาบ/สัปดาห์
-รายวิชาคณิตศาสตร์ (ค33101) จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์
-รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม (ค33201)จำนวน 3 คาบ/สัปดาห์
-แนะแนว จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์
-กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์
-กิจกรรมชุมนุม จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์
-ห้องเรียนคุณธรรม จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์
งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์
งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 12 คาบ/สัปดาห์
งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
-รายวิชาคณิตศาสตร์ (ค23101) จำนวน 3 คาบ/สัปดาห์
-รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม (ค23201) จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์
-รายวิชาคณิตศาสตร์ (ค31101) จำนวน 4 คาบ/สัปดาห์
-รายวิชาคณิตศาสตร์ (ค32101) จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์
-รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม (ค32201)จำนวน 3 คาบ/สัปดาห์
-รายวิชาคณิตศาสตร์ (ค33101) จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์
-รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม (ค33201)จำนวน 3 คาบ/สัปดาห์
-รายวิชาหน้าที่พลเมือง (ส33033) จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์
-แนะแนว จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์
-กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์
-กิจกรรมชุมนุม จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์
-ห้องเรียนคุณธรรม จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์
งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์
งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 12 คาบ/สัปดาห์
งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานตําแหน่งครู
ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทาย
ประเด็นท้าทาย
เรื่อง การพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนหนองยางชุมพิทยาคม อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี
จากสภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคมยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นไปอย่างรวดเร็วหลากหลายและซับซ้อน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยี ข่าวสาร รวมทั้งการเมืองการปกครอง ส่งผลให้การดำเนินชีวิตของคนในสังคมเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยนั้น การที่มนุษย์ในยุคปัจจุบันจะสามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข ต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพในทุกด้านและส่วนหนึ่งมาจากการได้รับการศึกษาอย่างสมบูรณ์ครบถ้วน เพราะการศึกษาเป็นกระบวนการที่ช่วยให้คนได้พัฒนาตนเองด้านต่าง ๆ ตลอดชีวิต
คณิตศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษา เป็นรากฐานของการศึกษาวิชาอื่นๆในระดับสูงขึ้น การจัด การเรียนการสอนคณิตศาสตร์ในโรงเรียนมัธยมศึกษา ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร (ศิริ แคนสา.2548) เนื่องจากคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ค่อนข้างเป็นนามธรรมด้วยสัญลักษณ์ กฎ ทฤษฎีต่างๆ ซึ่ง ยากต่อการ ทำความเข้าใจ ทำให้นักเรียนส่วนมากไม่ประสบผลสำเร็จในการเรียนและเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่ชอบ และไม่อยากเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ดังนั้นการเรียนรู้ต้องอาศัยความรู้พื้นฐาน การฝึกทักษะ การชี้แนะและให้กำลังใจจากอาจารย์ผู้สอน (วัฒนา ก้อนเชื้อรัตน์.2542) การจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษาต้องมีวิธีการที่สามารถทำให้การเรียนมีความหมายสำหรับผู้เรียนยิ่งวิชาที่เป็นนามธรรมอย่างคณิตศาสตร์ยิ่งต้องหาวิธีสอนให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ เกิดทักษะและความชำนาญ คิดเป็น แก้ปัญหาเป็นและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
ผลการวิจัยของอรพิน วงษ์เสน (2542) พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการเรียนทั้งในและนอกห้องเรียนและไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับ สติปัญญาทั้งหมด นักเรียนที่มีพฤติกรรมทางการเรียนที่ดีจะประสบความสำเร็จในการเรียน ซึ่งทั้งครูและผู้ปกครองมีหน้าที่ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้เวลาในการเรียนอย่างเหมาะสมและควรปลูกฝังให้นักเรียนมีความรับผิดชอบและวิธีการเรียนรู้ที่ถูกต้อง
จากการติดตามผลการใช้หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้นของกรมวิชาการ ปีการศึกษา 2551 พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์อยู่ในเกณฑ์ต่ำ และในส่วนที่เกี่ยวกับวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของครู พบว่ายังคงยึดครูเป็นศูนย์กลางโดยใช้การบรรยายเป็นส่วนใหญ่ การแก้โจทย์ปัญหาในแบบฝึกหัดยังเป็นการฝึกคิดเป็นรายบุคคล นักเรียนมีโอกาสปฏิบัติกิจกรรมและฝึกการแก้ปัญหาร่วมกันน้อยมาก แทบไม่มีปฏิสัมพันธ์กันในขณะที่การเรียนการสอนดำเนินอยู่ ส่งผลให้นักเรียนขาดการช่วยเหลือกันในการเรียนรู้เนื้อหาวิชาและขาดทักษะทางสังคม ทำให้นักเรียนไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าถามเมื่อไม่เข้าใจ โดยเฉพาะนักเรียนที่เรียนช้าจะขาดความเชื่อมั่นในตนเอง และคิดว่าตนเอง ไม่มีความสามารถที่จะเรียนวิชาคณิตศาสตร์ได้ ทำให้ขาดความพยายาม แรงจูงใจในการเรียนลดน้อยลง และนักเรียนจะมีปัญหามากขึ้นตามลำดับเมื่อเรียนบทเรียนที่ซับซ้อนขึ้น จนในที่สุดนักเรียนเหล่านี้จะเบื่อและไม่ชอบวิชาคณิตศาสตร์
จากสภาพปัญหาคุณภาพการศึกษาวิชาคณิตศาสตร์ที่นำเสนอมาทั้งหมด ทำให้ผู้สอนได้ข้อสรุปว่าการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ ยังคงเป็นปัญหาที่จะต้องได้รับการแก้ไขและพัฒนาให้ดีขึ้น จึงสนใจที่จะแสวงหานวัตกรรมหรือวิธีการที่เหมาะสมมาใช้ในการแก้ปัญหาการจัดการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ จากการศึกษาเอกสาร ตำรา และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พบว่ากิจกรรมการเรียนการสอนที่ดีควรเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ดังที่ ยัง(Young , 1972 : 603) กล่าวว่าการเรียนรู้จาก กันและกันของนักเรียนจะทำให้เกิดความเข้าใจได้ดีกว่าการเรียนจากครู เพราะภาษาที่นักเรียนใช้พูดจาสื่อสารกันนั้นสื่อความเข้าใจได้ดีและเหมาะสม เนื่องจากวัยของนักเรียนใกล้เคียงกันมากกว่าวัยของนักเรียนกับครู
จากการทดสอบความรู้พื้นฐานโดยใช้ข้อสอบที่ผู้สอนจัดทำขึ้น ได้ค้นพบว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนหนองยางชุมพิทยาคม อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ยังมีนักเรียนที่ได้คะแนนไม่ถึงเกณฑ์ที่ตั้งไว้คิดเป็น 70%
ด้วยเหตุนี้ผู้สอนจึงมีความพยายามมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ ด้วยการสร้างบทเรียนสำเร็จรูปเรื่อง ความน่าจะเป็น เพื่อปูพื้นฐานให้กับผู้เรียนเพื่อพัฒนาทักษะการคำนวณของนักเรียนให้เหมาะสมกับระดับชั้น และเปลี่ยนแปลงทัศนคติของผู้เรียนเกี่ยวกับคณิตศาสตร์เน้นให้ความสำคัญของวิชานี้ และเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ให้กับผู้เรียนเพื่อใช้เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ในการพัฒนาการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
2.1 ผู้สอนวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ตามหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรแกนกลางศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนหนองยางชุมพิทยาคม ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560 เกี่ยวกับมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดที่จะนำมาแก้ปัญหาเป็นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
2.2 ศึกษาหลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับบทเรียนสำเร็จรูป เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
2.3 วิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคลเพื่อจัดการเรียนรู้ตามความแตกต่างของผู้เรียน
2.4 ผู้สอนจัดทำกิจกรรมการสอนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ความน่าจะเป็น ลักษณะสำคัญของบทเรียนสำเร็จรูป คือ การออกแบบการบรรจุเนื้อหาและสาระการเรียนรู้ออกเป็น กรอบ (Frame) ซึ่งเนื้อหาและสาระการเรียนรู้ดังกล่าวนั้นจะนำมาจัดทำเป็นหน่วยการเรียนรู้ย่อย ๆ แล้วบรรจุเนื้อหาสาระการเรียนรู้หน่วยย่อย ๆ ดังกล่าวลงไปในกรอบแต่ละกรอบให้มีความสัมพันธ์และเรียงลำดับเนื้อหาจากง่ายไปยาก กรอบสาระการเรียนรู้ (Frame) ในแต่ละกรอบของบทเรียนสำเร็จรูปประกอบด้วย
1. การอธิบายเนื้อหา 2. แบบประเมินผลก่อนเรียน
3. เนื้อหาสาระและกิจกรรมการเรียนรู้ 4. คำถาม
5. เฉลยคำตอบ 6. แบบประเมินผลหลังเรียน
2.5 จัดให้มีการตอบคำถามเรื่อง ความน่าจะเป็น ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในห้องเรียนที่ได้รับผิดชอบสอน เพื่อเป็นการวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคการสอนดังกล่าว
2.6 ผู้สอนนำปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการจัดการเรียนและการสอนมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้บริหาร ครูผู้สอนทั้งในกลุ่มสาระฯ เดียวกันและต่างกลุ่มสาระ ฯ เพื่อร่วมกันออกแบบ/หาแนวทางในการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นไปตามที่หลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรแกนกลางได้กำหนดไว้
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนหนองยางชุมพิทยาคม ร้อยละ 75 ได้รับการพัฒนาการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป
1) ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนหนองยางชุมพิทยาคม ที่ได้รับการสอนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ความน่าจะเป็น มีทักษะพื้นฐานการคำนวณได้ดีขึ้น
2) ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนหนองยางชุมพิทยาคม ได้รับการพัฒนาทักษะการให้เหตุผลและแก้ปัญหา ตรงตามสมรรณนะของผู้เรียนในหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
3) ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ในรายวิชาคณิตศาสตร์สูงขึ้น
4) ผู้เรียนมีทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้
5) ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้