ผู้เขียน: Itim | เขียนเมื่อ: 15 สิงหาคม 2559
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอะไรเป็นชนวนเหตุให้ผมตัดสินใจเข้ามาล็อคอินในบุรงตานีอีกครั้ง
.
และสิ่งที่ไม่น่าเชื่อไปกว่านั้น คือ ผมสามารถกรอกรหัสผ่านได้สำเร็จในครั้งเดียว.. ตอนนี้ก็ยังคงแปลกใจ เพราะปกติเป็นคนที่มีความทรงจำที่สั้นมาก ในการจดจำรหัสผ่าน
วันนี้เป็นอีกวันที่งานยุ่งมาก (เรื่องจริงคือยุ่งทุกวัน นั่นแหละครับ) เลยขอใช้ช่วงเวลาพักเที่ยงเข้ามาแวะเวียนอ่านเรื่องราวต่างๆในบุรงตานี บางประเด็นน่าสนใจ บางประเด็นก็ชวนให้คิดต่อได้หลากมุม.. แต่เมื่อลองย้อนกลับไปอ่านบทความเก่าๆสมัยเรียน กลับพบว่ามีหลายความทรงจำที่เกิดขึ้นและทรงคุณค่ามากมาย
.
สมัยที่ร่ำเรียน ยังจำได้ว่า การที่จะต้องมานั่งเขียนบล็อคหรือตอบความคิดเห็นต่างๆนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยพิสวาสมากนัก มักจะได้ยินเสียงโอดโอยจากเพื่อนร่วมรุ่นหลายคนว่า กว่าจะสั่งให้ตัวเองมานั่งพิมพ์แต่ละครั้งได้ มันต้องผ่านกลั่นกรองทางความคิดหลายครั้ง คิดแล้วคิดอีก ลบแล้วลบอีก บางคนที่เขียนไม่เป็น ก็ยิ่งทุกข์ใจไปกันใหญ่ เพราะไม่มั่นใจที่จะเขียน หรือบางคนต้องเขียน เพราะจำใจเขียน นึกแล้วก็เป็นเรื่องขบขันอยู่ไม่น้อย ... แต่สุดท้ายทุกคนก็ได้เขียน ดีบ้าง ปรับปรุงบ้าง ปะปนกันไป .. ยิ่งได้ลองกลับไปอ่านงานเขียนตนเอง ก็ยิ่งตลกไปกันใหญ่ บางประโยคก็เหมือนความคิดเด็กๆ บางคำก็สะกดผิดสะกดถูก นั่งอ่านไปยิ้มไป
.
มาถึงวันนี้ วันที่หลายคนเติบโตเข้าสู่ชีวิตการทำงาน เพื่อนที่เคยมีความรู้สึกเขินอายกับการเขียน ..กลับกลายเป็นคนที่เขียนดีขึ้นมากจนน่าทึ่ง หลายคนเป็นครูที่ยืนพูดหน้าห้องได้อย่างฉะฉาน ...ความขมขื่นของการฝึกฝนในวันนั้น คือเครื่องขัดเกลาอันแหลมคมให้ตนเองพัฒนาอย่างมีศักยภาพในสังคม .. ขอเป็นตัวแทนขอบคุณอาจารย์จากใจจริง
.
นอกจากนี้ พื้นที่ของบุรงตานี ได้ฉายภาพความทรงจำเก่าๆให้ผุดขึ้นมาเต็มไปหมด บางเรื่องเกือบลืมไปแล้ว บางเรื่องจดจำได้เลือนรางเต็มที .. มาอ่านอีกครั้ง เหมือนได้หมุนเข็มนาฬิกากลับไปตรงนั้น ตรงที่ที่เคยยืน เคยหัวเราะ เคยลำบาก เคยท้อถอย ได้กลับมาชัดเจนขึ้น มันมีความรู้สึกตื้นตัน ผสมปนเปกับหลายอารมณ์อย่างบอกไม่ถูก แต่โดยรวมแล้วเป็นความรู้สึกด้านบวก ที่ทำให้โลกของผมน่าอยู่ขึ้นเยอะเกินบรรยาย
.
ในฐานะของศิษย์เก่าที่จบไปแล้ว อยากเปล่งเสียงดังๆให้รุ่นน้องได้ยินว่า ในบางคราว เราอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ มีคำถามเกิดขึ้นมากมาย ว่าเหตุใดต้องมานั่งลงทุนกับการเรียนรู้ที่มากมาย เหตุใดต้องมานั่งจมกับการบ้านกองโตที่อาจารย์สั่ง และมีแนวโน้มว่าจะทำไม่ทัน เหตุใดต้องมานั่งเขียนบล็อค ทั้งๆที่ตัวเองไม่มีทักษะทางนี้เลยแม้แต่น้อย หรือคำถามอื่นๆที่เกิดขึ้นระหว่างการเรียนกับอาจารย์ที่ชื่อว่า "วรรณชไม" .. คำถามเหล่านั้นไม่มีคำตอบที่ชัดหรอกครับ แต่ทุกคนจะได้ตอบคำถามของตัวเองด้วยตนเองในวันที่โตขึ้น ... วันนี้ถ้ายังบินไม่ได้ ก็ต้องหัดบิน ยังทุลักทุเลกับการเดิน ก็ต้องหัดเดิน .. ทุกอย่างที่ถูกสร้างสรรค์มาให้เราเผชิญ มีคุณค่าทั้งสิ้นครับ ไม่สำคัญว่าต้องเหน็ดเหนื่อยหรือท้อถอยมากเพียงใด.. ถ้ายังศรัทธาว่าเราฝึกได้ วันหนึ่งข้างเราก็จะโผบินได้อย่างภาคภูมิ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เราดีใจที่สุดและอยากกล่าวขอบคุณกับทุกวันก่อนหน้านั้นนับครั้งไม่ถ้วนเลยครับ
.
เขียนจนใกล้จบ ก็ยังคิดสาเหตุไม่ออกว่าทำไมถึงมานั่งเขียนบล็อคอีกครั้งได้อยู่ดี หรือบางทีอาจเป็นเพราะสายลมที่พัดวนรอบๆตัว ทำให้ต้องแหงนมองท้องฟ้า และบันดาลใจให้คิดถึงบุรงตานีอีกครั้งได้ ... ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องขอบคุณทุกเหตุผลที่ให้ผมผ่่านสมรภูมิมากมายในอดีต และทำให้ปัจจุบันเป็นเรื่องราวดีๆขึ้นมาได้
.
คิดถึงทุกสิ่งที่ยังอยู่ตรงนั้นเสมอครับ .... ด้วยรักและผูกพัน ...มุสตากีม วท.บ.(ศึกษาศาสตร์) ชีววิทยา รหัส 53^^