หรือวสันตฤดูมิรู้รัก
โลมรมรื่นชื่นฉ่ำยามโปรยสาย ต้องแสงจันทร์เป็นประกายเมื่อบ่ายหา
แต่ละเม็ดแต่ละหยดรดลงมา ก็คำนึงสิเนหา ... คราวันวาน
หรือวสันตฤดูมิรู้รัก จึงแสร้งผลักหยาดฟ้า...น่าสงสาร
ให้ตกลงจากฟ้าสู่บาดาล อวสานความรักจักอย่างไร
ด้วยยังมีใบหญ้าว่าหลงรัก รับหยาดฝนลงบนตักมิผลักไส
พสุธาผืนดินยินเสียงใด ล้วนเต็มใจต้อนรับสดับมา
โอละเห่..หยาดน้ำฟ้าคราวสันต์ มิมีวันจะสิ้นสุดเสน่หา
แม้นผืนดิน..ใบหญ้า...จะเมตตา แต่ทว่า...ดวงใจ...ให้ฟ้าเดียว
อื๊ด! ฟังเสียงครวญจากหยาดฝน ทั้งคืน ทำให้เช้านี้ต้องต่อสู้กับจิตใจตัวเองมิใช่น้อย ที่จะต้องละทิ้งผ้าห่มอันแสนอบอุ่นไว้ข้างหลัง อื๊ดดดดด ! ขอบิดขี้เกียจยาวๆอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปรับลมเย็นๆ ยามเช้าตรงระเบียง เพื่อเติมพลังต่อสู้กับวันใหม่ ฟิ้ว! ฟิ้ว! เปาะ แปะ เปาะ แปะ เสียงลมเย็นพัดมากระทบผิวหน้า สลับกับเสียงสายฝนกระทบหลังคา พาให้เย็นยะเยือก ชุ่มฉ่ำไปด้วยหยดฝนที่เกาะติดพักพิง อวดโฉมอยู่บนใบไม้ใบหญ้า เป็นสัญญาณบอกว่า........... วสันตฤดูกำลังมาเยือน ยอดไม้แย่งกันชูช่อ อวดยอดงาม
แต่ถึงจะตื่นเร็วแค่ไหน ก็คงจะช้าไปสำหรับแขกผู้มาเยือนคนใหม่ของเช้านี้...... กระติ๊ดขี้หมู (Scaly - breasted Munia) 1 คู่ชู้ชื่น กำลังถกเถียงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ (มันอาจเป็นนกธรรมดาสำหรับใครหลายคน เพราะเจอได้ทั่วไป แต่สำหรับมดและไซ (เพื่อนร่วมห้องที่รัก) คือความสุขมากมายของเราเจ้าของถิ่นที่มีผู้มาเยือนถึงห้อง)
แต่เราคงช้าไปจริงๆ.... เมื่อสอดส่ายสายตามองต้นกุหลาบที่ปลูกไว้หลังห้อง ว้าววว !!! มันมาอีกแล้วววววว พลันตะโกน บอกไซ ด้วยความตื่นเต้น ที่ต้องบอกว่ามันมาอีกแล้วก็เพราะว่าก่อนหน้านี้ ซัก...ประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา เจ้าตัวน้อยทั้งสองได้มามัดจำ ตั้งถิ่นฐานซะดิบดี หน้าจะปักใจว่าฉันจะยึดกุหลาบต้นนี้เป็นเรือนรัก และเราจะมีลูกมีหลานที่นี้ แต่เปล่าเลย ...ด้วยพายุอันรุนแรงที่โหมกระหน่ำเข้ามาทำให้กระถางตกลงไป พร้อมด้วยรังน้อยก็ลอยไปกับสายลม.... กลับมาตอนเย็นได้เห็นสภาพเช่นนั้น ก็เศร้าใจ ซึ่งคงไม่ต่างอะไรกับเจ้าตัวน้อยสองตัว ที่นอนอยู่ดีๆ ชีวิตก็ต้องจำจากบ้านหลังงาม
วันนี้เจ้าตัวน้อยทั้งสอง คงแอบ(แต่ก็ไม่อาจหลีกหนีสายตาพวกเราไปได้) กระซิบพลอดรัก หวานชื่น (เมีย) ที่รักจ๊ะ ..เราจะสร้างรังที่กุหลาบต้นนี้อีกเหรอ
(ผู้) ใช่สิ ตรงนี่ร่มรื่น แถมเจ้าของห้องก็ใจดี๊ ใจดี เราสร้างหลักปักฐานที่นี้ มีลูกด้วยกันเยอะๆ
(เมีย) ก็ได้จ๊ะ ... สู้ๆ ดังที่มนุษย์เค้าพูดกัน " ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จต้องอยู่ที่นั่น"
วันนี้เช้าอังคารที่ 26 / 10 / 54 บ้านหลังน้อยก็เริ่มตั้งเสาเอก (เอ๊ะ ..นกเค้ามีเสาเอกด้วยหรือเปล่านะ ) เอาเป็นว่าเริ่มเห็นมีหญ้ามาสุมๆ แร่ะ
วันที่สองฝนตกหนักทั้งวัน 27/10/54 กลับมาเย็นนี้คาดว่าจะเสร็จเรีบร้อยแล้วซะอีก สงสัยบรรยากาศชวนให้นอน แอบงีบก่อน บ้านเลยยังม่ะเสร็จเลย (หรือว่าตัดใจแร่ะ ไม่เอาดีกว่าไม่สร้างแล้วตรงนี้ ) ตื่นมาเช้านี้ 28/10/54 ก็ไม่มีวี่แววเจ้าตัวน้องทั้ง สองแม้แต่เงา ลุ้นกันต่อไปน่ะ......
กลับมาตอนเย็นด้วยความหวัง .........ทายสิว่าเค้าจะมาอีกไหม ลุ้น ลุ้น ลุ้น .......
เย่ เย่ เย่ เสียงร้องตะโกนในใจก็ดังขึ้น เมื่อรังของเค้า โตขึ้น แถมเรียบร้อยกว่าเดิม พัฒนาการเพิ่มขึ้นเป็นระยะๆ ด้วยการเฝ้ามองดูของเจ้าของถิ่น แบบไม่ให้คลาดสายตาเลยเชียว
ซึ่งจากการจ้องเขม่งคอยดูพฤติกรรมพบว่า อีกตัวจะคอยก็สร้างรังด้วยหญ้าทีละเส้น ทีละเส้น ถักทอด้วยสายใยรัก อีกตัวก็ยืนเฝ้าระแวดระวังภัย พร้อมด้วยกำลังใจที่ส่งถึงกัน สบตาให้เป็นระยะๆ (ปิ้ง ปิ้ง ) วันแล้ว วันเล่า จนสำเร็จลุล่วงเป็นรังที่สวยงามพร้อมอยู่ (ขึ้นบ้านใหม่ เอ้าฉลอง)
ก็หวังเหมือนกันว่า ....สายลม พายุ และสายฝน จะไม่ทำลายความฝันของเค้าทั้งสองไปอีก และมีลูกหลาน เหลน โหลน เยอะๆ
ปล. แต่อยากรู้เหลือเกิน... ทั้งสองตัวนี้ น่าจะเป็นสองตัวเดิมที่โดนพายุพัดเมื่อคราวก่อนหรือเปล่า? แล้วตัวที่สร้างคือ ตัวผู้ หรือ ตัวเมีย?