วันเด็กปีนี้ “หัวหน้าเด็ก”จึงขอเอาเรื่องราวของ “เด็ก”ที่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มากขึ้นทางด้านความคิด :-))..ที่ทำงานในแล็บมาเล่าสู่กันฟัง อีกทั้งความพิเศษในวันนี้ (14/01/55) ก็คือถึงเวลาที่จะต้องเก็บตัวอย่างจากการทดลองที่ได้ทำไว้ เพื่อนำไปวิเคราะห์ ดังแผนงานใน project ที่ “แมน..กาเมน หมัดอะหวัง”(ศิษย์ประจำสำนัก) มีความสนใจที่จะศึกษา...เช่นเดียวกันกับพี่..ป.โท. (ศิษย์รู่นพี่..สำนักเดียวกัน )
แล็บท๊อก?? ที่เรียกกันด้วยความคุ้นเคย จริงๆแล้วหาใช่ที่ไหนไม่..เป็นห้องปฏิบัติการพิษวิทยาระบบนิเวศ ( Ecotoxicology Laboratory)..อาคาร 51D แผนกชีววิทยา คณะ วทท. มอ.ปัตตานี ที่ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้เป็น “บ้าน” ของพวกเรา หลายคนได้มีโอกาสเข้ามาใช้แล็บนี้ในการเรียนรู้และ ฝึกปฏิบัติ หากว่าได้เรียนวิชาด้านพิษวิทยา โดยมีผู้เขียนรับผิดชอบเป็นผู้สอนและผู้ดูแลห้องแล็บนี้ ในฐานะเป็นผู้ที่เรียนรู้มาก่อน และก็ยังสนุกที่จะเรียนรู้ต่อไป ซึ่งรายวิชาที่เกี่ยวข้องมีทั้งระดับ ป. โท และ ป.ตรี รวมถึงวิชา พิษวิทยาระบบนิเวศ (Ecotoxicology) พิษวิทยาสิ่งแวดล้อม (Environmental toxicology) พิษวิทยาทางน้ำ (Aquatic toxicology) พิษวิทยาอาหารและโภชนาการ (Food and nutritional toxicology) ส่วนวิชาของ ป.ตรี ได้แก่ พิษวิทยา (Toxicology) และ พิษวิทยาชีวภาพเบื้องต้น (Introduction to biotoxicology) อีกทั้งวิชาที่ใช้เวลาทำงานในห้องแล็บอย่างเข้มข้นทั้งที่บริเวณ ชั้น 4 และ ห้อง wet roomชั้นล่าง ก็คือ วิชาปัญหาพิเศษ (Special problem in Biology & Reseach project in Chem-Bio) และวิทยานิพนธ์ (Thesis)
โจทย์วิจัย ?? ..คำถามที่ต้องการหาคำตอบใน senior projectครั้งนี้ “ สารเคมีไซเปอร์เมทริน (Cypermethrin) หากปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำจะมีความเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ มากน้อย เพียงใด ?? สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักสารตัวนี้ บอกให้ทราบเล็กน้อย “ไซเปอร์เมทริน” เป็นสารเคมีปราบศัตรูพืชและแมลง ที่เกษตรกรใช้มากในการปลูกพืช ผัก ผลไม้” มีรายงานการนำเข้าสารเคมีชนิดนี้เป็นมูลค่ามากในลำดับที่ 4 ของประเทศ ..ไม่น้อยเลยทีเดียว?? แม้กระทั่งคนเราก็มีความเสี่ยงต่อการได้รับสารชนิดนี้โดยไม่ตั้งใจ ในกรณีปนเปื้อนมากับพืช ผัก ผลไม้ที่เป็นอาหารในชีวิตประจำวัน หรือการปนเปื้อนสารในแหล่งน้ำ ??
จะตอบโจทย์ที่น่าสนใจนี้ได้อย่างไร?? หลังจากการลองทดสอบหลายกระบวนท่า หลายวิธี ก็ได้ข้อสรุปว่า จะใช้การทดสอบความเป็นพิษ (Toxicity Testing: Bioassay) แบบพิษกึ่งเรื้อรัง Subchronic toxicity test, static renewed โดยใช้ระยะเวลานาน 4 สัปดาห์ ในการทดสอบ เรียกได้ว่า พยายามใช้บริบท การได้รับสารปนเปื้อนในชีวิตประจำวัน ที่มักจะได้รับสารเคมีครั้งละน้อยๆ บ่อยๆครั้ง รับนาน การทดสอบความเป็นพิษในครั้งนี้เมื่อเริ่มต้นแล้ัว ในช่วงการเก็บตัวอย่างจะสุ่มเลือกปลาที่ใช้ในการทดสอบแต่ละความเข้มข้น นำมาวิเคราะห์ทุกสัปดาห์ เป็นจำนวน 4 ครั้ง เพื่อเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เมื่อความเข้มข้นของสารเคมีเพิ่มขึ้นและระยะเวลาในการได้รับสารเคมีนานขึ้น......ตามนั้นเลย.....ไม่ว่า ปลาหรือคน หรือสิ่งมีชีวิตชนิดใด
การเลือกใช้สิ่งมีชีวิตในแหล่งน้ำมาทดสอบ เลือกชนิดไหนดี ..สุดท้ายจบด้วยความคิดว่าจะใช้ ..ป ปลา ตาโต ?? .....เอ๋ ..ปลาอะไรดีเอ่ย?? กว่าจะเลือกได้ว่า ปลาชนิดไหนดี หนุ่ม “แมน” ของเราก็เพาะพันธุ์ปลาเสียจนชำนาญ เรียกว่า รักน้องปลา ?? มากกว่าใครๆ ในขณะนั้น เริ่มตั้งแต่ปลากัดไทยๆ โดยไปหาปลากัดจากแหล่งธรรมชาติ มาเลี้ยงและผสมก็มีเรื่องราวสารพัด หลากอารมณ์ให้ลุ้นทั้ง สนุก ตื่นเต้น เหงาหงอย (เมื่อปลาตาย) และเหนื่อยล้า ...เมือปลากัดไม่เห็นใจ กลับตายยกพวก.. ในระหว่างการพัฒนาฝืมือได้หันมาเพาะพันธุ์ปลาม้าลาย (Zebra fish) ไปด้วย ช่วงแรกผลงานก็เข้าตาทีมงาน ..แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน พี่แมนจากน้องม้าลายไป.... 3 วัน..เป็นอื่น ?? ..ตายยกพวกอีกเช่นกัน T^T....ในที่สุดมาลงเอยด้วยการเลิกเพาะพันธุ์ปลา ไปขอซื้อจากที่คนอื่นเค้าเพาะบ้าง.. จึงได้เป็นที่มาของการใช้ปลา Catfish....อืม..เกือบลืมไป ชื่อทั่วไปก็คือ ไม่ใช่ปลาแมว (cat) อะไรหรอก ...ปลาดุกนี่เอง (ที่ใช้เป็น ดุกที่เรียกแบบไทยๆ ว่า ดุกรัสเซีย แต่ไหงชื่อสามัญเป็น "อาฟริกัน" ...African Catfish???... แปลกแต่จริง )..คิดว่าคงรู้จักกันนะค่ะ ..เป็นปลาที่ไม่มีเกล็ด และมีหนวดเหมือนแมวมีหนวดนั่นหล่ะ..รวมถึงปลาสวาย ปลาบึกก็ใช่จัดอยู่ในกลุ่มนี้.. Catfish)
สารเคมีที่เลือกใช้ ก็มีปัญหาให้คิดไม่น้อยเช่นกัน.. แรกเริ่มเดิมที หนุ่ม แมน จะใช้ สารเคมีที่มีจำหน่ายในท้องตลาด เป็นสูตรผสมของไซเปอร์เมทริน แต่เมื่อนำมาทดสอบเบื้องต้นแล้วไม่เป็นผล คาดว่าสูตรที่วางขายในท้องตลาดมีการเติม additive ทำให้สารละลายที่นำมาใช้ค่อนข้างขุ่น...จึงเปลี่ยนเป็นสารไซเปอร์เมทริน ที่บริสุทธิ์ มาใช้ และเตรียมความเข้มข้น 3 ระดับจากน้อยไปหามาก ที่ระดับ 0.001, 0.005 และ 0.01 ไมโครกรัม/ลิตร รวมกลุ่มควบคุม การเตรียมสารละลายทั้งหมดที่จะใช้ในปริมาณเท่าไหร่ ก็ต้องให้เหมาะกับจำนวนปลา 25 ตัว/ แท้งค์ จึงใช้สารละลาย 30 ลิตร/แท้งค์ ...ทั้งหมด คูณ ด้วย 4 ก็จะเห็นภาพว่า OMG !! …..หนุ่ม “แมน” ต้องหาเพื่อนฝูงมาช่วย มิฉะนั้น แมน ก็แมนเหอะ...จะหมดแรงไปพร้อมๆกับการขนน้ำกรองจากชั้น 4 ...ลงไปใช้ที่ห้อง wet room……และแล้วขั้นตอนนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ..รออีกสองอาทิตย์ช่วงที่ต้องเปลี่ยนสารละลายค่อยว่ากันใหม่..นะแมน !
กว่าจะถึงวันนี้ ...ทุกวันเติมแต้มสีสัน แบ่งปัน เรื่องราว ที่เรียนรู้มากมาย ในแล็บ เพราะได้เริ่มงานตั้งแต่ เมื่อครั้งสิ้นสุดเทอมหนึ่ง (1/54 ) ปัจจุบันนี้ก็ครึ่งทางของเทอมสอง (2/54) เพิ่มเข้าสู่ช่วง 1 อาทิตย์ ของการเริ่มทดสอบ ...ส่วนปลาดุก เริ่มต้นที่ อายุ 35 วัน ปัจจุบันนี้ อายุ 55วัน มีน้ำหนักตัว 17.6-35.58 กรัม ความยาว 7.90-9.40 (เฉลี่ย 8.40 ซม) ....บรรยากาศอบอวลไปด้วยทุกรสชาติ สังเกตบ่งชี้จากหน้าตาของศิษย์ประจำสำนักเป็นหลัก ถ้าหน้าตาไม่สดใส เดาได้ว่า "ปลาตาย มีความผิดปกติ ปลากัดกินกัดเอง ปลาประท้วงโดยการกระโดดออกจากบ่อเลี้ยง" แต่มื่อไหร่ที่เป็นไปตามแผนก็ไม่มีข่าว (no news is ..good news ??) หรือฝากข้อความไว้ในกระดานหน้าห้องแล็บชั้น 4 บางครั้งก็โทรศัพท์ หรือแวะเข้ามาบอกความเคลื่อนไหว เป็นระยะๆ ให้ลุ้นร่วมกันทุกวัน :-)) ...
สิ่งที่รอคอยมาถึง ..หนึ่งอาทิตย์แรกของการทดสอบ ก็ครบรอบ ได็เวลาเก็บตัวอย่างครั้งแรก... อีกทั้งยังตรงกับวันดี.. วันเด็กแห่งชาติ 2555... เมื่อคืนก่อน.ได้ซักซ้อมกันว่า แผนในการเก็บตัวอย่างทำอะไรบ้าง?? ให้ฝึกวิเคราะห์งาน ต้องใช้อุปกรณ์อะไร ?? เทคนิคที่เกี่ยวข้อง ?? เพราะเมื่อ แมน บอกว่า การทดลองจะครบ 1 สัปดาห์ ในวันเสาร์ เวลา 07:10 น. ทีมงานทุกคนจึงต้องมาพร้อมกัน ตามเวลา ส่วนใครที่ไม่พร้อม เราก็ดำเนินไปก่อน
เริ่มเก็บตัวอย่าง โดยสุ่มจับปลาในชุดทดลองจำนวน 4 ตัว/ความเข้มข้น ทั้งหมด 16 ตัว
ครั้งถัดๆ ไปจะเป็นการเก็บตัวอย่างที่ 2, 3 และ 4 สัปดาห์. แล้วจะมาเล่าเพิ่มเติม ถ้ามีใครสนใจค่ะ
ทีมงาน..พี่ป.โท และน้อง ป.ตรี ช่วยกันขยันขันแข็ง ในการทำงานวันนี้ โดยมี "หัวหน้าเด็ก" คอยอำนวยความสะดวก ให้ข้อคิด และแก้ปัญหาขณะทำงาน เป็นบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ที่สนุกสนาน ชื่นบาน จากนั้นให้รางวัลแห่งความภูมิใจ...ที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วหล่ะ (มากด้วยความคิดอ่านและมีความรับผิดชอบดีเยี่ยม :-)) ด้วยการไปฉลองวันเด็ก "แล็บท๊อก" ไปทานข้าวร่วมกัน.. อุ๊ป.. ลืมไป ทานพิซซ่าร่วมกันต่างหาก ใช่ไหม๊ แมน รานี ซาน และตาล ?? ..รายล้อมด้วยหลายครอบครัวที่มีเด็กๆมาสนุกสนาน ทานข้าวนอกบ้าน...เราก็เป็นนอีกหนึ่งครอบครัวในบรรยากาศนั้นเช่นกัน แถมร่วมบรรยากาศขบวนรถติดยาวเหยียดในมอ. จากประตูหน้า ถึงประตูหลัง ยันวงเวียน :-))
ใครสนใจส่วนไหน เรื่องเล่าในแล็บท๊อก... แวะมาเยี่ยมชม และพูดคุย แลกเปลี่ยนได้นะค่ะ....บรรยากาศเป็นกันเอง