วันศุกร์เช้าตรู่ 6:30 น. ตามเวลานัดหมาย รถบัสมหาวิทยาลัย ที่อาศัยเปิดหน้าต่าง อากาศโปร่ง โล่งเย็นสบาย น้าวุฒิ พขร. นำทีมดูงานคณะเรา ..อาจารย์สองท่าน นักวิทย์ฯ และนักศึกษาทั้งหมด 30 ชีวิต จากปัตตานีมายังสงขลา.... เป้าหมายปลายทางที่ “โครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำ เทศบาลนครหาดใหญ่” เพื่อดูงาน การบำบัดน้ำเสียจากชุมชนเมือง ที่นี่ประยุกต์ใช้เทคนิควิธีด้านต่างๆ จะมีอะไรบ้าง ??? ...ชวนติดตามไม่น้อย)
รถบัสนำเราไปยัง site งาน จุดแรกเราเดินตามวิทยากรลงไป พร้อมแหงนมองมุมสูง สายตาเจอะเจอกับอุปกรณ์ขนาดใหญ่ ทำงานหมุนวนขึ้นลง ครบรอบแล้วรอบเล่าไปเรื่อยๆอย่างซื่อสัตย์ในหน้าที่ เครื่องดักขยะนั่นเอง กำจัดขยะที่มีขนาดเล็ก ออกจากน้ำเสีย นั่นคือฉากหลังของห้องเรียนในวันนี้ ขณะที่เบื้องหน้านั้น เป็นบ่อรวบรวมน้ำทิ้งจากชุมชนเมืองหาดใหญ่ ที่ส่งผ่านท่อขนาดใหญ่ ลำเลียงจากในเมืองมาไว้ที่นี่ ณ. วันนี้..ปี’55 กำลังของระบบเพื่อรองรับน้ำเสีย ยังคงทำหน้าที่ได้อีกสักระยะหนึ่ง เพราะขณะนี้ยังใช้งานไม่เต็มสมรรถนะที่มีอยู่ น้ำเข้าระบบเพียงครึ่งเดียวของกำลังที่รองรับได้ น้ำเสียที่เข้ามาจะมีตระแกรงดักจับขยะที่มีขนาดใหญ่ เรียกว่าการกำจัดขยะเชิงกล ...เราเรียนรู้กันหน้างานเลยทีเดียวเรื่องนี้...
ขณะที่เสียงวิทยากร “พี่สมพร” มหาบัณฑิตจากรั้ว มอ.ของเรา ชี้ชวนให้ น้องๆนักศึกษา สัมผัสทั้งกลิ่น ก๊าซไฮโดรเจนชัลไฟด์ หรือทั่วๆไปเรียก (ก๊าซไข่เน่า?? ).มองไปเบื้องล่างก็จะพบกับสีน้ำดำคล้ำ ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปของน้ำเสียจากชุมชนเมือง นอกจากจะมีตะกอน มีสารเคมี สารแขวนลอย สารที่ละลาย/ไม่ละลายในน้ำ ขณะที่ประสาทสัมผัสรับรู้เสียง ฟังไปพร้อมๆกับสายตาก็มองเห็นน้ำเบื้องล่าง และคิดตามไปว่า กระบวนการหมักในบ่อเกิดขึ้นตลอดเวลา จนเกิดกลิ่นคละคลุ้งให้ได้สัมผัส.. เสียงถาม-ตอบ ของนักศึกษาและวิทยากร ที่พยายามงัดเอาองค์ความรู้ออกจากน้องๆ ทั้งด้านเคมี ระดับโมเลกุล โครงสร้าง ปฏิกิริยาของสาร การแตกตัว พันธะเคมี ทั้ง ก๊าซ ไฮโดรเจนชัลไฟด์ กรดซัลฟูริค และทางชีววิทยา อะไรต่ออะไรมากมาย ตอบได้บ้างและไม่ได้บ้าง ทำเอา พี่สมพร ต้องหันมาแซวว่า อาจารย์ต้องสอนให้หนักๆ หน่อย !! ศิษย์หลายคนเลยต้องใช้สติ ก่อนตอบให้มากขึ้น ..การเชื่อมโยง บูรณาการองค์ความรู้ต่างๆยังต้องฝึกฝนกันอีกต่อไป :-))
หลักการทำงานเพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำเสียที่นี่ใช้ การทำงานของจุลินทรีย์ โดยเฉพาะแบคทีเรีย ภายใต้สภาวะต่างๆและปัจจัยสิ่งแวดล้อมในแต่ละบ่อ ที่จัดวางผัง เรียงรายเป็นบริเวณพื้นที่กว้างใหญ่ มีต้นจูดจำนวนมากเป็นพืชเด่นในพื้นที่ชุ่มน้ำตามธรรมชาติ แบคทีเรียทั้งชนิดที่เป็นaerobic, anerobic หรือ facultative bacteria??.หลายคน งง งง !! เมื่อได้ยินคำถามเกี่ยวกับสภาวะการทำงานของจุลินทรีย์ชนิด “facultive bacteria” แต่สักแป๊บหนึ่ง..ก็เรียกความรู้ในรายวิชาต่างๆ มาบูรณาการได้บ้าง..เห็นได้ชัดเจนว่า พวกเรารู้ แต่ไม่มีบริบทของการใช้งานขององค์ความรู้ที่ได้มา
ที่นี่ใช้ธรรมชาติบำบัดน้ำเสีย รวมถึงเทคนิคที่สั่งสมจากการสังเกต และมีหลักคิดที่เป็นเหตุเป็นผล ช่วยในการทำความเข้าใจการปรับปรุงคุณภาพน้ำเสียได้ไม่ยากนัก โดยที่ระบบทั้งหมดประกอบด้วย บ่อหมัก บ่อบ่ม บ่อผึ่ง และบึงประดิษฐ์ ก่อนที่จะปล่อยน้ำลงสู่คลองธรรมชาติ และไหลลงทะเลสาบสงขลาในที่สุด ซึ่งวันที่เราไปดูงาน มีการตรวจหาค่า DO (dissolved oxygen)จากบริษัทที่รับตรวจสอบคุณภาพน้ำ เป็นการทำงานแบบสอบทานระหว่างสองหน่วยงาน เพื่อให้มีความมั่นใจว่าคุณภาพน้ำก่อนที่จะปล่อยออกไปในแหล่งน้ำ เป็นที่น่าเชื่อถือ อีกทั้งยังมีมวลชนซึ่งเป็นห่วงและเฝ้าระวัง การปล่อยน้ำที่ไม่ได้คุณภาพลงสู่แหล่งน้ำ ซึ่งจะมีผลต่อการดำรงชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อม
ระบบการทำงานเพื่อบำบัดน้ำในแต่ละบ่อ เริ่มตั้งแต่น้ำจากแหล่งรับน้ำจะส่งเข้าระบบบ่อแต่ละประเภท โดยมีระยะเวลาให้แบคทีเรียทำงาน ทั้งบ่อหมัก บ่อบ่ม บ่อผึ่ง การมีบันใดน้ำต่างระดับ เพื่ออะไร?? ตามด้วยการได้รับ UV จากแสงอาทิตย์ หรือ การตรวจดูคุณภาพน้ำจากสีของน้ำ เขียวเข้ม เขียวไม่มาก ?? เนื่องจากมีการเจริญเติบโตของสาหร่ายสีเขียว และสีเขียวแกมน้ำเงิน ซึ่งอาศัยปัจจัยในการเจริญเติบโตต่างกันภายในบ่อ หรือการควบคุมปริมาณสิ่งมีชีวิตโดยการกินในห่วงโซ่อาหาร ทั้งสาหร่าย ปลา นก และคน ตามลำดับ แม้กระทั่งบึงประดิษฐ์ที่มีพืชหลากหลายชนิดเช่น บัวใบกว้าง พืชมีรากหยั่งลงดิน พืชที่ไม่จำเป็นต้องหยั่งรากลงดิน เช่นผักตบชวาต่างมีประโยชน์ต่างๆกัน อะไรบ้างหน๊า?? จนกระทั่งถึงการปล่อยน้ำลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ หลักการทำงานในแต่ละบ่ออย่างไร และมีตัวบ่งชี้จากอะไร ?? ขอให้พี่ๆที่ไปดูงานร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “บูรณาการ. สรรสาระ ที่ได้เรียนรู้ใน กระบวนการบำบัดน้ำเสียชุมชนเมือง”