17-02-55 วันสุดท้ายของการเรียนการสอนเทอมนี้ 2/54 แล้วซินะ ศุกร์ที่ผ่านมาดูราวอะไรๆรอบๆตัว ก็จะเร่งรีบไปหมด เป็นช่วงเวลาที่ศิษย์นำเสนอผลงานทุกวิชา ทุกโปรเจค เรียกได้ว่า คุณค่าการเรียนรู้จากการฝึกปฏิบัติโดยตรง ตั้งแต่หลังปีใหม่เป็นต้นมา ใน class project วิชา Toxicology และ Introduction to biotoxicology ส่วน Senior project นั้นหรือ จะใช้เวลาทั้งเทอม หรือมากกว่าในการค้นหา สิ่งที่ตั้งเป็น research questions ช่วงนี้จึงมีอัตราการใช้ห้องแล็บเข้มข้นขึ้น คนมากขึ้นพื้นที่ดูจะคับแคบไป แต่การใช้แล็บร่วมกันก็ต้องเคารพในระบบที่มีอยู่ ซึ่งทุกคนก็ต้องเรียนรู้
หัวข้อที่น่าสนใจใน class projectทางพิษวิทยา เทอมนี้มีเรื่องราวน่าสนใจ เช่น
* การสำรวจสารปนเปื้อนในอาหาร จากตลาดสดในจังหวัดปัตตานี เป็นหัวข้อ project ในรายวิชา พิษวิทยาชีวภาพเบื้องต้น (introduction to Biotoxicology)
* ความเป็นพิษของทองแดงและแคดเมียมต่อปลาม้าลาย เมื่อมีแคลเชียมคาร์บอเนตที่ทำให้น้ำกระด้าง เป็นหัวข้อ project ในรายวิชา พิษวิทยา (Toxicology)
และ *ความเป็นพิษของไซเปอร์เมทรินต่อพยาธิสภาพของเนื้อเยื่อและโครงร่างของปลาดุก เป็นหัวข้อ ใน Senior project
*การสำรวจและตรวจหาสารปนเปื้อนในอาหาร จากตลาดสดในจังหวัดปัตตานี*
มีเรื่องเล่าแห่งความภูมิใจร่วมกัน ที่ศิษย์ได้เพิ่มพลังแห่งการเรียนรู้ด้วยตนเอง ที่ยืนยันว่า เป็นพลังที่วิเศษ ควรค่าแก่การฝึกปฏิบัติ ความรู้สึกก่อนและหลังดำเนินงานแล้วเสร็จงานหอมหวานต่างกัน ?? หลังจากที่ทุกคนได้รับทราบว่า ในการประเมินผลปลายภาค เรามีข้อตกลงเรื่องการ ศึกษาค้นคว้าเรียนรู้ด้วยตนเอง 1 เรื่อง (class project)..ศิษย์หลายคนมีสีหน้นา ทีท่ากังวล บ้างเริ่มคิดว่าจะทำได้หรือไม่?? โดยธรรมชาติวิชานี้ มีผู้เรียนที่ต่างกัน 3 วิชาเอก (ชีววิทยา วิทยาศาสตร์ทั่วไป และ วิทย์นิเทศ) ต่างชั้นปี (2, 3 & 4) จำนวนทั้งหมด 30 คน จึงเป็นสิ่งที่ศิษย์ต้องหาเวลาทำงานร่วมกันให้ได้ เนื่องจากภารกิจที่ต่างกัน....อืม!!..หลายทักษะเชียวหล่ะ ที่ต้องเรียนรู้
เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเริ่มงาน ได้กระตุ้นให้ศิษย์ระดมความคิดโดยกระบวนการกลุ่ม เพื่อให้ได้มาซึ่งคำถามที่ต้องการจะค้นหาคำตอบ (research question) จึงบอกศิษย์ว่า เราลงเรือลำเดียวกันนะ “ We are in the same boat” เราทำงานเป็นทีม ถ้าจะไปให้ถึงเป้าหมาย โดยไม่ซักซ้อม พูคุย ทำความเข้าใจกับทีมบ้าง ความโกลาหลเกิดขึ้นแน่ๆ อย่างน้อยที่เห็นได้ชัดเริ่มก่อตัวแล้ว ก่อนสิ่งใด ก็คือ “ความคิด ต่างกันไปทุกทิศทาง” ฉะนั้นก่อนที่เรือจะวิ่งออกไป ผู้สอนคอย ตะล่อม โดยให้ หางเรือ อุ๊บ หางเสือ!! ไปทางซ้าย ขวา หรือปล่อยนิ่งเฉยบ้าง เพื่อให้ผ่อนคลาย ชื่นชมบัวบานเป็นเวลานานจนเกิดความสงสัยว่า เรือเริ่มวนเป็นวงกลมแล้วนะ ก็จะใช้เทคนิคเสริมแรง (re-enforcement) สร้างแรงจูงใจ (motivation) สารพัด แล้วแต่บริบทและเวลา
หลังจากกำหนด สิ่งที่ต้องการจะหาคำตอบ จากนั้นแบ่งงานกัน ทั้งการสำรวจเอกสาร สำรวจตลาด สำรวจชุดทดสอบแต่ละชนิดของสารปนเปื้อน เป็นเพราะเราสนใจเรื่อง สารปนเปื้อนในอาหาร ที่พบในทั้งสามตลาดในจังหวัดปัตตานี จึงแบ่งทีมเข้าไปสำรวจ พูดคุย สอบถามแหล่งที่มา และอื่นๆ ส่วนทีมงานสำรวจเอกสาร ก็จะได้ข้อมูลการสำรวจสารปนเปื้อนชนิดต่างๆ ในตลาดอื่นๆ และ มีวิธีการตรวจสอบเบื้องต้นอย่างไร
บทเรียนที่สะท้อนมาในขั้นการสำรวจ เบื้องต้นก็จะเป็น “ความกลัว”คิดว่า ตัวเองจะทำได้เหรอ?? ไม่เคยทำมาก่อนเลยนะ ?? ไปสำรวจตลาด อืม!! ยังไม่รู้ว่าตลาดอยู่ตรงไหนบ้าง ไม่เคยตื่นเช้าไปตลาด จะตื่นไหวไหม๊?? พ่อค้า แม่ค้า เค้าจะยอมพูดคุยกับเราหรือไม่?? เมื่อได้ลงมาปฏิบัติ ผ่านขั้นการสำรวจจริงๆ ก็จะเห็นคุณค่าของการตื่นเช้าไปดู พืช ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ประเภทต่างๆที่เป็น ของสด จากที่ไม่เคยชื่นชม วิถึของตลาดสด ก็มีเสียงตอบรับในเชิงบวกมากขึ้น มีความสนใจอะไรอื่นๆ เพิ่มเติมเป็นสี สัน ให้กับชีวิต ที่ไม่ได้จากในห้องเรียน ต้องเรียนรู้จากในบริบทจริงเท่านั้น
ครั้นเมื่อเริ่มฝึกใช้ชุดทดสอบ ครั้งนี้ใช้ทั้งหมด 5 ประเภทของสารปนเปื้อนที่ต้องการทดสอบ ได้แก่ การทดสอบหาสารบอแรกซ์ สารฟอกขาว สารฟอร์มาลิน สารกันรา (กรดซาลิซิลิค) และสารเคมีปราบศัตรูพืชและแมลง ก่อนที่จะใช้ เราก็มีแนวคิดการ ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของชุดทดสอบ (validate)ด้วยการ ใช้สารเคมีจากชุดทดสอบ นำมาทดสอบโดยตรงกับสารเคมีปนเปื้อนชนิดนั้นๆก่อน เพื่อดูว่าสีที่ระบุไว้ให้ผลตรงกัน กรณีที่มี/ไม่มีสารปนเปื้อน ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ ขั้นตอนนี้ จำเป็นต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเครื่องมือ ในเบื้องต้น เช่นเดียวกับ การสอบทานเครื่องมือ อุปกรณ์บางประเภทที่ต้องใช้ความละเอียดมาก โดยหลักการ... การใช้เครื่องมือที่ไม่มีประสิทธิภาพไปตรวจสอบ ผลที่ได้ก็ไม่น่าเชื่อถือ การทดลองตรวจสอบชุดทดสอบ 4 ใน 5 ชุดก็ผ่านการทดสอบไปได้ ไม่ยุ่งยากนัก
ที่ซับซ้อนมากกว่า ได้แก่ชุดทดสอบหาสารเคมีปราบศัตรูพืชและแมลงกลุ่ม ออร์กาโนฟอสเฟต และคาร์บาเมต ได้เสนอให้ศิษย์ validate ชุดทดสอบ โดยทดสอบกับ สารฟูราดาน ผลออกมาเป็นไปดังในรายละเอียด ขณะทดสอบ ได้ยินเสียงโอดครวญ เล็กๆ เราไม่มีทักษะเลยเรื่องทางเคมี?? เราเพิ่งปีสองเองนะ ยังไม่ผ่านแล็บอะไรมากมาย ?? Micropipette ยังใช้ไม่เป็นเลย ?? ใช้ยังไงนะ ช่วยสอนหน่อย ?? การสกัดสาร ระเหยสาร อะไรนี่ ไม่เคยรู้เลยว่า ใช้น้ำที่ระดับความร้อนไม่มาก และใช้สายยางต่อจากแอร์ปั๊ม นำมาใส่ในหลอดเพื่อให้ ตัวทำละลายให้ระเหยออกมา.. ทำได้ไง ?? สาระพัน ความไม่มั่นใจ มากด้วยความไม่เข้าใจ?? จึงต้องเสริมแรงด้วยการทำให้ดู ชี้แนะ ถามให้เข้าใจ ถึงหลักการแต่ละขั้น มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร ..สุดท้ายทดสอบได้ นำเอาตัวอย่างพืช ผักที่สนใจ มาทดสอบในวันถัดไป
การรวบรวมผลที่ได้จากการทดสอบ และนำเสนองาน ก็เป็นอีกทักษะที่ต้องเรียนรู้ การฝึกวิจารณ์ อ้างอิงจากงานเอกสารที่สำรวจในเบื้องต้นก็ยังไม่มี ส่วน กราฟ ตาราง ก็ไม่เห็น หรือการวิเคราะห์เทียบสัดส่วนหรือ ร้อยละของพืช ผัก ผลไม้ หรือ อาหารที่นำมาทดสอบ ก็ไม่ได้นำเสนอ ทำให้เรียนรู้กันว่า ต้องปรับปรุงแก้ไขงานที่นำเสนอหลายครั้ง สร้างความเหนื่อยล้า ให้กับศิษย์ แต่ก็เน้นว่า กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีทักษะที่ควรฝึกปฏิบัติ และนำมาใช้ให้เหมาะสม ถูกที่ ถูกเวลา ...ศิษย์ก็ยอมรับ แถมเสียงตัดพ้อเล็กๆ ..สิ่งที่อาจารย์ท้วงติง เป็นจริงทุกประการ เห็นด้วยทุกอย่าง แต่ทำไมพวกเราจึงไม่คิดได้ก่อนที่อาจารย์จะวิพากย์!!
Moment of truth วันนี้แล้วซินะ (17-02-55) ต้องไปนำเสนองาน ให้กับกลุ่มที่เรียน toxicologyซึ่งลักษณะวิชามีทักษะการฝึกปฏิบัติมากกว่า ..เป็นภาพที่น่าประทับใจ การนำเสนอเรื่องราวใกล้ตัวที่น่าสนใจ “สารปนเปื้อนในอาหารจากตลาด”ที่ทุกคนต่างก็ฝากท้องไว้ กับวัตถุดิบเหล่านั้นที่นำมาปรุงอาหาร ผลงานครั้งนี้เป็นการทดสอบด้วยฝีมือของสมาชิกในกลุ่ม ทุกคนมีส่วนร่วม แยกกลุ่มกันปฏิบัติตามชนิดของสารปนเปื้อน แล้วนำผลมาแลกเปลี่ยนกัน เมื่อมีคำถามก็ช่วยกันตอบ เป็นบรรยากาศแห่งการแลกเปลี่ยน เสนอแนะความเห็น บ่งชี้ความสนใจเกี่ยวกับสารพิษ สารปนเปื้อน ทั้งฝ่ายผู้นำเสนอ และผู้ร่วมฟัง ..น่าภูมิใจไม่น้อยเลย..
ภาพรวมผลจากการสรุปบทเรียนแห่งการเรียนรู้ของศิษย์ ส่วนใหญ่จะมีความภูมิใจในตัวเองมากขึ้น อืม!! ในที่สุดเราก็มีฝีมือนะ ...ทำไมเราต้องกลัวไปก่อน??...สุดท้ายจบลงด้วยรอยยิ้ม นั่นเพราะพลังของทีมที่ฝ่าฟันมาด้วยกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัย การเรียนรู้แบ่งงานกันรับผิดชอบ ความถนัดที่ไม่เหมือนกัน ความเห็นไม่ตรงกัน อ่อนล้า มีภารกิจซ้ำซ้อนมาก จึงต้องเรียนรู้ที่จะบริหารจัดการความแตกต่าง และสุดท้ายสร้างความรักใคร่ระหว่างพี่ น้อง ต่างเอก ต่างชั้นปี ที่ไม่เคยพูดคุยกันเลยก่อนหน้านี้ (...คำสารภาพจากศิษย์)....น่าชื่นใจที่มีความคิดบวกมากขึ้น จากการเรียนรู้...ในที่สุด
รู้ไว้ใช่ว่า..... ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับการได้รับอาหาร หรือพืชผักผลไม้ที่ปนเปื้อนสารเคมีในตลาดปัตตานี
สารปนเปื้อน ในกลุ่มสารเคมีปราบศัตรูพืชและแมลง จากผักผลไม้ 8 ชนิด มี 3 ชนิดที่ตรวจพบแต่อยู่ในระดับที่ปลอดภัย (ทานได้) ได้แก่ ผักชี คะน้า และถั่วฝักยาว
สารฟอกขาว ตรวจพบใน ขิงซอย และน้ำตาลมะพร้าว
สารบอแรกซ์ ตรวจพบในลูกชิ้น หน่อไม้ดอง ไส้กรอก
สารกันรา ซาลิซิลิค ตรวจพบในมะม่วงดอง กระเทียมดอง ผักกาดดอง (แหล่งที่นำมาขาย จากเพชรบุรี เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช หาดใหญ่)
สารฟอร์มาลิน ตรวจพบใน น้ำแช่กุ้ง ปลาทู ปลาหมึก
อย่างไรก็ตาม ผลการทดสอบด้วยชุดทดสอบเป็นการตรวจสอบเบื้องต้นจึงไม่สามารถบอกปริมาณของสารพิษแต่ละชนิดได้
ผลงานจากการเรียนรู้ ปฏิบัติจริง คงเป็นกระบวนการที่ติดตัวศิษย์ไปบ้างตามความสนใจ อย่างน้อยก็ได้เริ่มต้นให้เห็นว่า “ขจัดความกลัวออกจากความคิด ชีวิตมีอะไรที่น่าค้นหา น่าสัมผัส ชื่นชม”และการเรียนรู้ เริ่มได้จากสิ่งใกล้ตัว ทำได้อย่างมีความสุขและสนุก”
เจ้าของผลงานทุกคน..(ในภาพ) ร่วมกันศึกษาค้นคว้าและนำเสนอผลงาานที่ภูมิใจร่วมกัน.......ขอบคุณค่ะ