คืนวันอาทิตย์ได้ดูรายการถ่ายทอดจาก BBC เป็นการโต้วาทีจัดขึ้นที่เมืองโดฮา (Doha debate)ซึ่งฝ่ายเสนอ/ค้าน ในกระทู้ที่ตั้งไว้น่าสนใจมากเกี่ยวกับการศึกษาในยุค 21st century ซึ่งเป็นยุคความรู้ หลังจากที่เราผ่านยุคการเกษตร ยุคอุตสาหกรรมมาก่อนหน้านั้น การเตรียมทักษะ (21st century skills) ให้พร้อมและเท่าทัน ดูจะเป็นประเด็นที่ต้องนำมาทบทวน หลังจากเพิ่งผ่านพ้นช่วง 10 ปีแรกผ่านไปของยุค 21st century นี้ซึ่งต้องพัฒนาไปด้วยกันทั้ง ระบบการศึกษา ครู และศิษย์
ประเด็นกระทู้ที่น่าสนใจคือ “This house believes education is worthless without freedom of speech” (ทีนี่มีความเชื่อ ว่าการศึกษาจะไม่คุณค่าอะไรเลย ถ้าปราศจากอิสระเสรีทางการพูด คิด และนำเสนอ) ซึ่งการโต้วาทีครั้งนี้จัดขึ้นก่อนวันประชุมสุดยอดนวัตกรรมเพื่อการศึกษา(Qatar's World Innovative Summit for Education (WISE)07/01/2011 จึงมีนักคิด นักวิจารณ์ นักวิชาการในวงการศึกษาจากทั่วโลกมาร่วมงาน และมีนักศึกษาร่วมให้ความสนใจในการฟังและแสดงความคิดเห็น ในการโต้วาทีครั้งนั้น
เนื่องจากการโต้วาทีจัดเมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ (Qatar) ส่วนใหญ่ผู้เข้าร่วมฟังจึงเป็นนักศึกษามุสลิม ชาวอาหรับ ผลการโต้วาทีส่วนใหญ่ (53 %)เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย (47%) คนรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมฟังได้แสดงข้อคิดเห็นทั้งในที่ประชุมและลงคะแนนเสียง เป็นการส่งสัญญานไปยังผู้นำในภูมิภาค ซึ่งข้อสรุปจากเวทีเป็นหัวข้อข่าวใหญ่ ที่สื่อสารกับออกไปทั่วโลก เราอยู่ที่เมืองไทยยังได้มีโอกาสฟัง คิดและได้ประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนในเวทีโลกวันนั้น
ถึงแม้ว่าทั้งฝ่ายนำเสนอและผ่ายค้านพูดโต้ตอบกับอย่างเท่าทัน เต็มไปด้วยข้อคิดที่น่าสนใจ ทั้งสองฝ่ายก็เห็นด้วยกับเรื่องของความมีอิสระทางความคิดและการพูด เป็นสิ่งที่ควรจะมีในระบบการศึกษา แต่ประเด็นที่ Prof. Tariq Ramadan ซึ่งเป็นนักคิด นักปรัชญา มีพื้นฐานการเลี้ยงดูจากครอบครัวที่นับถือศาสนาอิสลาม และเป็นนักวิชาการที่มีชื่อเสียง กล่าวเน้นว่า “ความสามารถที่ทุกคนจะแสดงออกได้ในสังคมที่มี อิสระและมีประชาธิปไตย สำคัญมากกว่าการเรียนรู้ ที่เกิดขึ้นในที่ซึ่งความอิสระเสรีข้างต้นได้ถูกริดรอนไป” ถ้าครูเป็นเพียงถ่ายทอดความรู้ โดยปราศจาการส่งเสริมการคิดสร้างสรรค์ การคิดแบบมีวิจารณญาณ ซึ่งเป็นหัวใจของการศึกษา เปรียบเสมือนกับการสร้างลูกศิษย์ ที่พูดซ้ำ ๆความรู้เดิม ๆ ในสิ่งที่เคยถูกสอน การศึกษาควรมีส่วนช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในโลก นอกจากนี้ได้เสริมว่าการศึกษา ควรส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความกล้า และท้าทายที่จะเสนอความคิดเห็นและมี autonomy (การกำหนดตนเอง) ถ้าผู้เรียนปราศจากความคิดในเชิงวิจารณญาน วิเคราะห์ วิพากย์ ครูก็เป็นเพียงผู้สร้างงานให้เกิดขึ้นในคนรุ่นใหม่ที่เหมือนเดิม คงไม่ต่างไปกับการเลี้ยง/ฝึก “นกแก้ว และแกะ” (parrots and sheep)
ฟังและคิดไปก็นึกถึงลูกศิษย์ไป จึงขอนำมาแลกเปลี่ยน เพราะบรรยากาศที่นั่นดูไม่ต่างไปมากนัก เช่นผู้เข้าร่วมในที่ประชุมแห่งนั้นแลกเปลี่ยนกับเวทีเปรียบเทียบว่า ตัวเขาเป็นอาจารย์ และลูกศิษย์ที่นั่นไม่ค่อยจะแสดงความคิดเห็น ขณะที่หัวข้อเดียวกัน เมื่อนำไปสอนในประเทศที่นักศึกษาถูกฝึกให้มีการคิดวิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ ก็จะได้บรรยากาศการเรียนที่ต่างกัน
บทบาทที่ทำหน้าที่สอน ครู-ศิษย์ในยุค 21st century ปี 2011 นี้จะเป็นแบบ นกแก้ว/แกะหรือไม่ ? การเปรียบเปรย “นกแก้วและแกะ” ตีความได้ว่า นกแก้ว: พูดได้เหมือนคนฝึก พูดซ้ำแบบเดิม ๆ ขณะที่แกะ: ก่อนออกจากคอกก็ต้องต้อน จะกลับเข้าคอกก็ต้องต้อน คิดที่จะออกและกลับเข้าคอกไม่เป็นด้วยตนเอง ทักษะต่าง ๆ (21st century skills)ต้องนำมาไตร่ตรอง ปฏิบัติ เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในแต่ละยุคสมัย นำไปสู่การพัฒนาที่เป็นจริง ทั้งระบบการศึกษา ผู้สอน และผู้เรียน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ความคิดเชิงวิจารณญานและแสดงความเป็นตัวเองได้ หากเป็นเช่นนั้นจริง ผลลัพธ์คงเป็นที่น่าชื่นใจไม่น้อยในคุณค่าของการศึกษา (the worth of education) ใช่ไหม๊ Parrot & Dolly….ooph!!นักศึกษาที่รัก