ภาพของผู้คนที่ง่วนกับงานตรงหน้า หากมีใครสักคนหยุดถามคำถามเดียวกันสำหรับคน 3 คน
ที่ทำงานอยู่ว่า “คุณกำลังทำอะไร”
คนที่หนึ่งตอบว่า “ฉันกำลังทำงานที่ดีและได้รับค่าจ้างดีเช่นกัน”
(วิเคราะห์: คำตอบดังกล่าวไม่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากนัก
คนที่สองมีคำตอบว่า “ฉันกำลังสร้างบ้านที่ดีที่สุดจากวัสดุที่ดีๆเหล่านี้”
(วิเคราะห์: คำตอบนี้อย่างน้อยก็ทำให้พอจะได้แนวคิดได้ว่า งานของเขาคืออะไร)
คนที่สามให้คำตอบว่า “เขากำลังจะสร้างวิหารขนาดใหญ่เพื่อก่อให้เกิดแรงบันดาลใจต่อคนรุ่นหลัง รุ่นแล้วรุ่นเล่าต่อๆไปแม้กระทั่งชีวิตเขาจะหาไม่”
(วิเคราะห์: คำตอบมีความชัดเจนในตัว)
ทั้งสามคำตอบบ่งชี้ถึงความแตกต่างของระดับการสร้างแรงจูงใจที่มีต่อการทำงานนั้นๆ
อาจจะเป็นช่างก่ออิฐ คนสร้างบ้าน หรือคิดสร้างวิหาร
อาจจะมีมีแรงจูงใจจากเงิน (คำตอบแรก) หรือจากความปราถนาที่จะพัฒนาทักษะและฝีมือใน
อาชีพของเขา (คำตอบที่สอง) และสุดท้ายมีแรงจูงใจสูงในระดับนักสร้าง นักคิด นักปรัชญา
คำนึงถึงชิ้นงานที่สร้างขึ้นจะมีผลต่อคนอื่นๆ
ขอเพียงให้รู้ว่าเรามีแรงจูงใจในการทำงานจากอะไร? มีวัตถุประสงค์อะไร? และต้องการผลอะไร?
หากปราศจากคำตอบเหล่านี้แล้ว อาจทำให้เราหลงทาง
ในทางกลับกันถ้าเรามีคำตอบในสิ่งเหล่านี้ก็จะมีโอกาสพบเพื่อน
ในกลุ่มที่มีแรงจูงใจคล้ายกัน. ช่วยกันเสริมสร้างแรงจูงใจ.. ใช่เลย...ชอบในสิ่งที่คล้ายกัน
“ครูเพื่อศิษย์” คงไม่ต้องถามว่าท่านทำงานในอาชีพนี้ด้วยมีอะไรเป็นแรงจูงใจ??
หากเหนื่อยนักด้วยภาระหน้าที่ที่แบกรับไว้ ก็หยุดถามตัวเองเป็นระยะๆ เพื่อมิให้หลงทาง
และคงไม่ปฏิเสธว่า ความทุ่มเท อุตสาหะ เพียรพยายาม ทุกชิ้นงานที่สร้างขึ้นเพื่อศิษย์
คงเป็นคำตอบที่ยืนยันได้
ถอดบทเรียน : จากคำตอบสามคำตอบข้างต้น พลังในการกำหนดยุทธวิธีในการทำงาน
มาจากการกำหนด จุดมุ่งหมาย (purpose), ผลที่เกิด (effect) และผลกระทบ (impact)……
ขอให้ท่านสนุกสนาน มีความสุขในเส้นทางที่เดินไป...อย่าได้สนใจเฉพาะจุดหมายปลายทาง
ฝากไว้คิดก่อนที่จะพบกันใหม่ค่ะ.... เชื่อมั่นและศรัทธาในครูเพื่อศิษย์ทุกคน