เช้านี้เข้าสอนช่วง 7 โมง ได้พูดคุยเรื่อง เทศกาลคริสต์มัส ศิษย์แต่ละคนรับรู้เกี่ยวกับวันคริสต์มัส ต่างกัน บ้างก็บอกว่า มีซานตา มีหิมะ มีของขวัญ ฯลฯ จึงเป็นโอกาสในการเรียนรู้วัฒนธรรมในช่วงเทศกาล "คริสต์มัส" ผ่านเรื่องเล่าเช่น White Christmas หรือการมีหิมะตกในช่วงเทศกาลคริสต์มัส นั้นก็ไม่เสมอไป การเฉลิมฉลองคริสต์มัสในแถบซีกโลกใต้ เป็นช่วงที่ค่อนไปทางฤดูร้อน จึงไม่มีหิมะแน่ๆ ต่างจากซีกโลกเหนือ เล่าให้ศิษย์ฟัง จึงเขียนบันทึกเพิ่มเติมไว้ให้อ่าน
คริสต์มัสกับการเฉลิมฉลองเทศกาล ท่ามกลางความหลากหลายของวัฒนธรรม ที่โลกในปัจจุบันดูราวจะไม่ไกลกัน ..วิถีชีวิตและวัฒนธรรม..เราต่างเรียนรู้ผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่อที่ทันสมัย หรือการดำรงชีพในสังคมนั้นๆ ครั้งหนึ่งถึงแม้ว่าจะจากบ้านเมืองไปไกล ชีวิตในช่วงเทศกาลคริสต์มัสก็ได้เรียนรู้เรื่องราวที่น่าประทับใจ จึงรู้จัก "คริสต์มัส" ในมิติต่างๆมากขึ้น ครั้งนั้นนับไว้ในใจว่า “คริสต์มัส” มาถึงอีกครา (เรายังไม่ได้กลับเมืองไทยอีกละนี่..ต้องรออีกกี่ปี??) .. ช่วงเวลานี้ของปีเป็นเทศกาลแห่งความผูกพัน รวมญาติ ครอบครัวอยู่พร้อมหน้า พากันไปโบสถ์ จึงมีแต่สิ่งที่ดีๆรวมอยู่ในสปิริตของคริสต์มัส ทั้งทางด้านจิตวิญญาณ ด้านใจ และด้านกาย ส่วนชีวิตวัยเด็กๆของผู้คนที่นี่มักจะได้สัมผัสว่า คริสต์มัสเป็นเทศกาลรื่นเริงที่สนุก เต็มไปด้วยของขวัญ
คริสต์มัสกับวัยเด็กมัธยม...ย้อนไปเมื่อก่อน เราได้เรียนรู้เทศกาลคริสต์มัส ผ่านทางกิจกรรมเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมในวิชาภาษาอังกฤษ พื่อนๆในห้องทุกคนจัดกิจกรรม โดยยืนเป็นล้อมต้นคริสต์มัส ต่อเก้าอี้ตามความสูงของต้นไม้ และแล้วเนื้อร้องที่เราพร้อมใจกันร้องก็ได้ยินขึ้นมา.. Silent night holy night …เพลง silent night ขณะเราร้อง ต้องปิดไฟในห้องเรียนให้มืด เพื่อจะให้ไฟประดับที่ต้นคริสต์มัสดุสว่างไสว นั่นดูราวจะเป็นสิ่งที่ได้เข้าใกล้ คำว่า คริสต์มัส.มากที่สุดในวัยเด็กๆ
เทศกาลคริสต์มัส ที่ได้สัมผัสในต่างแดน.....เมื่อไปใช้ชีวิต เรียนอยู่ในประเทศที่มีการเฉลิมฉลองคริสต์มัส ช่วงเวลาแห่งการตกแต่งประดับประดาถนน ห้างร้าน บ้านเรือน ประดับไฟ เป็นเรื่องราวของคริสต์มัส อย่างน้อยมีซานต้า มีกวางเรนเดียร์ มีต้นคริสต์มัส บางครั้งเดินไป/กลับจากมหาวิทยาลัย ด้วยความหนาวเย็น ยะเยือก ผสมกับลมแรง ทำให้แม้สวมถุงมือก็ไม่ประทัง เอามือซุกในเสื้อกันหนาว เดินไปชมไฟไปพลางก็เพลินดีเช่นกัน ดูอบอุ่นในความคิด อืมม์..คงเปลืองไฟมากเหมือนกัน แต่ก็เป็น Christmas spirit น่ะ
ต้นคริสต์มัส (Christmas tree) ที่บ้านพักต่างแดน.. เหล่าสมาชิกทั้งหมดเป็นนักเรียน ป.ตรี ป.โทและป.เอก ที่ล้วนแล้วแต่จากบ้านมา มีเพื่อนชาวต่างชาติแชร์บ้านพักกัน ... เจ้าของบ้าน (landlord ชื่อ Robert) มีธุรกิจปลูกต้นสนชนิดที่ไปประดับเป็น ..ต้นคริสต์มัส.. เป็นธรรมเนียมที่ใช้ต้นสน ซึ่งเขียวตลอดปี (evergreen tree) เป็นธุรกิจที่ปลูกไว้ขาย โดยส่งขายในปริมาณมากๆ เป็นประเภทขายส่ง (wholesale) ต้องวางแผนให้ ต้นสนมีขนาดโตได้ที่ พอดีกับเวลาคริสตืมัสนี้ ส่วนใหญ่ความสูง ประมาณ 4 ฟุต มีหลายพันธุ์สวยๆทั้งนั้น ตั้งแต่พันธุ์ดั้งเดิม ที่ปลูกง่าย โตเร็ว Norway spruce หรือพันธุ์Fraser firและอีกหลากหลายชนิด (ชนิดของสนเหล่านี้ต่างจากชนิดต้นสนในภาคใต้เรา ซึ่งเป็นชนิดสนปฏิพัทธ์ เป็นพืชดอก) แต่ละต้นที่นำไปทำต้นคริสต์มัสทำเงินได้หลาย แต่มวลสมาชิกบ้านเราก็จะขอไว้ทุกปี รางวัลแลกกับการที่เราดูแลบ้าน สะอาดเอี่ยมอ่อง ใครไป ใครมาก็ชม ทุกเทศกาลคริสมัส เราก็มีต้นสนจริงๆ ไว้ในบ้าน เพื่อนบ้าน (flat mate) คนใดมีประสบการณ์ ตกแต่งต้นคริสต์มัสมาตั้งแต่เด็กๆมาช่วยกัน คราวนี้เราคนที่ไม่เคยก็เลยได้มีโอกาส ตกแต่งต้นคริสต์มัสไปด้วย นางฟ้าอยู่บนสุด ดาว ของขวัญ ระฆัง ดอกฮอลลี่ (Holly)และช่อใบ ฯลฯ ทำทุกปีต่อไปก็ชำนาญ เข้าของก็เก็บไว้ใช้ซ้ำได้ทุกปี จนกว่าจะเรียนจบ ส่งมอบกันไว้ที่บ้านนั้น
คริสต์มัสกับเพลง Christmas carol… ช่วงสัปดาห์ก่อนถึงวันคริสต์มัสเป็นธรรมเนียม ปกติจะมีกลุ่มเด็กๆ ในละแวกโบสถ์ใกล้ๆกัน มาร้องเพลงX'mas carol จำได้ว่าปีแรก เรานั่งคุยกันในห้องโถง มีเสียงกระดิ่งดังที่หน้าบ้าน ก็บอกเพื่อนว่า.. I’ll get the door ..ออกไปก็งง งง !!!...มีกลุ่มเด็กๆมาล้อมวงเพื่อร้องเพลง ที่จำได้ก็มีเพลง ..Joy to the world ..เลยวิ่งไปถามเพื่อนๆว่าต้องทำไง??... ไม่เคยเจอ... แล้วทุกคนในบ้านก็ออกมาฟังและร้องคลอไปด้วย ครั้งนั้นให้เงินไปกับคณะเด็กๆ เพราะบ้านเราไม่ได้เตรียมของขวัญไว้ ปีต่อไปก็ทำได้เหมาะสมขึ้น
คริสมัสอีฟ (X’mas eve)กับการไปโบสถ์ ...เพื่อนบ้านเด็กป. ตรี ชาวอังกฤษ (home student) ช่วงเทศกาลคริสต์มัส กลับบ้านไป ก็จะเล่าให้ฟังว่า ในวันคริสต์มัสอีฟ (คืนที่ 24 รอยต่อ 25 ธค.) ทั้งตัวเขาและครอบครัวก็จะไปร้องเพลงในโบสถ์เพื่อทำพิธีทางศาสนา มีกิจกรรมอย่างสงบ จิตใจจนเลยเที่ยงคืน ย่างเข้าสู่วันใหม่ พร้อมใจกันฟังพระสันตปาปาใ้ห้พรจาก..วาติกัน..ในโรม ซึ่งเป็นการต้อนรับคริสต์มัส อย่างเตรียมพร้อมมีสติ.
คริสมัสต์และงานเลี้ยงที่มหาวิทยาลัย ...สำหรับบรรยากาศในมหาวิทยาลัย หยุดการเรียนการสอน จัดเป็น X’mas recess ก่อนหยุดยาวประจำปี ที่คณะฯ (school) อาจารย์ที่ปรึกษาให้ voucher แก่นักศึกษาทุกคนในความดูแล ทั้งกลุ่มไปร่วมงานของ X’mas party จัดโดยคณะฯก็ไปพร้อมๆกับเพื่อน ไปสวมหมวกที่สำหรับวันนี้ นอกจากกินอาหารสไตล์คริสต์มัสแล้ว ก็จะมี X’mas cracker ให้เล่น...โดยมีลักษณะคล้ายห่อท๊อฟฟี่ม้วนหัวท้าย ใช้คนสองคนจับหัวท้าย ของ cracker แล้วดึง ก็จะมีคำถามตลกๆ หล่นออกมา จะมีให้เล่นทายกัน ขำๆ แต่บางทีก็ไม่ขำ เพราะไม่รู้ในเรื่องตลกที่วิถีของเขา ตามวิถีของเราต่างวัฒนธรรมกัน แต่อยู่ไปนานขึ้นก็ขำและตลกได้มากขึ้นเพราะภาษาและวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปพร้อมกัน ทำให้เข้าใจมากขึ้น..
คริสต์มัสกับการแสดงของเด็กน้อย... โรงเรียนระดับประถม จัดให้มีการแสดงของเด็กๆ.. เป็นการส่งเสริมให้เด็กกล้าแสดงออก แม้เพียงหนึ่งประโยคที่ต้องจำมาพูดก็แสดงให้เห็นว่ามีความตั้งใจฝึกซ้อม ไม่ผิวคิว จำline ของตนเองได้ น่ารักมาก ผู้ปกครองไปให้กำลัง ติดขอบเวที เชียร์ลูกๆกัน ..ปีนั้นได้มีโอกาสไปให้กำลังใจ Tom (ลูกชายของเพื่อนในกลุ่ม) ชั้น ป 3 ..แสดงในโรงเรียนแถวบ้าน ซึ่งเป็นส่วนของโบสถ์ การแต่งกายเรียบง่าย สนุกๆ ใช้ผ้าเช็ดโต๊ะ (tea towel) โพกหัว แต่งตัว เป็น 3 wise men..สร้างความหรรษาไม่น้อย กับความสามารถและการคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆ
คริสต์มัสในเมืองหลวงลอนดอน.. ปีก่อนกลับบ้านไปเที่ยวกับครอบครัวเพื่อนทั้งTom & Ailish .. เด็กน้อยชวนกันปีนขึ้นไปถ่ายรูปกับสิงโต ฐานจัตุรัสกลางเมือง (Trafalgar square) ในลอนดอน แบ็คกราวด์เป็นต้นคริสต์มัสต้นใหญ่ไฟสวย ถ้าเป็นปัจจุบันนี้ไม่แน่ใจว่าถูกจับไหม?? (ตั้งแต่เหตุการณ์ 9/11) ปีนั้นสนุกกันถ้วนทั่วกันส่งท้ายชีวิตที่จากบ้านมานาน คืนนั้นนั่งรถเมล์สองชั้น ที่ว่างมาก เพราะผู้คนออกเดินทางไปต่างจังหวัด นั่งรถชมเมือง โดยเฉพาะแถวถนน oxford เงียบกว่าปกติ แต่เต็มไปด้วยสีสัน ไฟประดับประดา ส่วนห้างแฮรอด ก็เช่นเดิมดับคั่ง สมกับเป็นแหล่งช๊อบปิ้งของคนเมืองหลวง
คริสมัสกับโบสถ์แคนเทอเบอรรี (Canterbury Cathedral) ที่เมือง Kent ทางตะวันออกของ UK ที่เป็นต้นเสียงของเพลงคริสต์มัส ในแต่ละปี ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมประวัติศาสตร์ส่วนนี้ ชื่นชมความสวยงามในสถาปัตยกรรม ไม่น้อยไปกว่าการเดินทางจาริกของผู้แสวงบุญจาก ภาคพื้นทวีป ( continental)ที่เดินทางข้ามช่องแคบ ผ่านช่องแคบโดเวอร์มาที่โบสถ์นี้ ร่องรอยสึกของบันไดจำนวนหลายขั้น ที่ผู้แสวงบุญที่ปีนขึ้นไปทีละขั้น ๆ กว่าจะถึงตำแหน่งที่ใกล้ชิดสิ่งที่เคารพ จากการเดินทางยังคงมีให้เห็นประมาณได้ถึงความถี่ในการเข้าใช้พื้นที่ แห่งความเคารพทางจิตวิญญาณจริงๆ
คริสต์มัสกับครอบครัวต่างแดน นอกจากครอบครัวอาจารย์ที่ปรึกษาแล้วก็ยังมีครอบครัวเพื่อนสนิทไม่สลับกันไปมาหาสู่ในช่วงเทศกาล ได้รับ/และให้ของขวัญ (อย่างที่โชว์ในรูปเป็นของขวัญที่ได้รับ) เราไปร่วมพบปะและกินอาหารที่เป็นวัฒนธรรมดั้งเดิม อาหารหนักแคลอรี่กันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นไก่และคริสต์มัสพุดดิ้ง เช้าตื่นมารับประทานอาหารร่วมกันและจับฉลากของขวัญ ของใครชิ้นไหนก็จะวางไว้ที่ต้นคริสต์มัส จากนั้นก็ คุยกันไปข้างเตาผิง (fire place) เพราะอากาศหนาวมาก ตอนบ่ายรอฟัง Queen ให้โอวาท ส่วนวันรุ่งขึ้นยังเป็น mode ของการพักผ่อน ก็เป็นวัน boxing day สินค้าลดกระหน่ำ คนเข้าคิวรอช๊อบกันจนต้องออกไปร่วมดูว่าเป็นอย่างไร สมกับที่ได้รับคำเล่าลือจริงๆ
คริสมัสต์กับการฉลองทุกปี เมื่ออยู่ต่างบ้านต่างเมือง ก็ได้เตรียมของขวัญให้ครอบครัวที่ใกล้ชิด ครั้นเมื่อกลับมาเมืองไทย คริสต์มัสจึงเป็นโอกาสที่ได้โทรศัพท์พูดคุยกันกับสมาชิกในครอบครัวที่ยังมีความรักความผูกพันอยู่ อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้งถามไถ่ ความเป็นไป ได้ยินเสียงกัน หัวเราะกัน อย่างที่เคยใช้ชีวิตสมัยที่จากบ้าน ความอบอุ่นยังคงมี ปีนี้เมื่อวันคริสต์มัสอีฟ ก็ได้โทรศัพท์คุยกันกับครอบครัว อาจารย์ที่ปรึกษา ท่านบอกว่า อากาศไม่ดีเลย (wet & windy but no snow) น้ำท่วมในหมู่บ้าน ซึ่งก็เป็นปกติในช่วงนี้ของปี ฝนตก ลมแรง หนาว น้ำท่วม มีครบทุกอย่าง ยกเว้นหิมะ ยังไม่ตก ที่บ้านเพื่อนสนิทเด็กๆก็โตๆกันแล้ว ทั้งสองบ้านนี้ที่จะคอยเป็นห่วง ถามไถ่ให้ไป iร่วมงาน Christmas dinner เสมอในช่วงเทศกาล จึงต้องแบ่งๆกันไปเยี่ยมเยือน ขอบคุณในความอบอุ่นที่มีให้เสมือนญาติ เพราะไม่มีญาติทางสายเลือดเลยเมื่ออยู่ต่างแดน นี่คือความเอื้ออาทร ทำให้ถึงแม้ว่าอากาศหนาวแต่ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ได้รับ...
ขอให้ X’mas spirit มีอยู่ รักกันและปรารถนาดีต่อกันตลอดไป ปีนี้เอาของขวัญที่ได้รับ เป็นสิ่งที่ภรรยาอาจารย์ที่ปรึกษาท่านปักร้อยด้วยตัวเอง ผ้าปูโต๊ะลายดอกฮอลลี่ (สีแดง) และผ้ารองจานที่มีองค์ประกอบในวันคริสต์มัสให้คิดถึง (ใครทายได้บ้างว่า สัญญลักษณ์ในลายปักบนผ้ารองจาน มีอะไรบ้าง??) หยิบของขวัญขึ้นมาระลึกถึง ความดีของทุกคนในครอบครัวที่ต่างแดน ความอบอุ่นที่ได้รับ เป็น spirit ของคริสต์มัสที่ ร้อยรัดเชื่อมโยง ความรักความผูกพันที่ไม่เคยจางหายไป และคงมีอยู่ตลอดกาล แม้อยู่ไกลกันคนละฝากโลก...