เพื่อนรักสองสหายชายหนุ่ม ร่วมออกผจญภัยเพื่อการแสวงหา โดยเดินทางไปในที่ไม่รู้จัก การเดินทางครั้งนี้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคนานับประการ และถึงแม้ว่าทั้งสองจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและรักการผจญภัยเหมือนกัน แต่กลับมีพื้นฐานนิสัยที่แตกต่างกันที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้น
อุปนิสัยชายคนที่ 1: ชอบผจญภัย ใช้ไหวพริบ ปฎิภาณในการแก้ปัญหา รักการผจญภัย ที่ไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก
อุปนิสัยชายคนที่ 2: เอาชนะความยากลำบากด้วยความพยายาม ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่น เป็นคนตรงไปตรงมา
อุปสรรคท้าทายลำดับแรกเมื่อทั้งสองเดินทางมาแสนไกลก็พบแม่น้ำสายใหญ่ ขณะยืนอยู่ริมฝั่งมองออกไป ดูเวิ้งว้างไม่เห็นแม้กระทั่งอีกฝากฝั่งหนึ่ง ไม่มีแม้กระทั่งสะพาน หรือช่องทางที่จะข้ามได้ ครั้นพบปะผู้คนในละแวกนั้นจึงถามว่า เขาจะข้ามแม่น้ำสายนี้ได้อย่างไร ทางเลือกมีได้ 2 วิธี คือ
วิธีแรก: ในเวลาเที่ยงคืนจะมีเรือข้ามฝาก แต่ถ้าจะข้ามไปจะต้องแลกกับของบางอย่างที่คนพายเรือร้องขอ ซึ่งไม่ว่าขออะไรก็ต้องให้ได้ มิฉะนั้นจะต้องถูกออกจากเรือขณะล่องเรือข้ามไป
วิธีที่สอง: จะมีส่วนแคบขอแม่น้ำที่พอว่ายข้ามได้ แต่จะต้องเดินตามแม่น้ำไปอีกนานประมาณหนึ่งเดือน สหายรักทั้งสองต่างตัดสินใจว่าจะเลือกทางไหนดี และด้วยมีนิสัยที่มีความชอบแตกต่างกัน
ชายคนที่ 1 เลือกที่จะโดยสารเรือตอนเที่ยงคืน ด้วยคิดว่า คงจะให้ข้อเสนอกับคนพายเรือได้
ชายคนที่ 2 เลือกเดินตามแม่น้ำ ซึ่งถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลานานเพื่อหาส่วนที่แคบพอจะว่ายข้ามไปได้
เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน ขณะที่เรือข้ามฝากผ่านมา และชายคนที่ 1 ได้ขอโดยสารไปโดยยอมรับเงื่อนไข
ชายชราเจ้าของเรือ: ฉันอยากได้พระจันทร์ที่ส่องประกายสุกสว่างบนท้องฟ้า
ชายหนุ่มไม่รอช้า: ใช้ขันค่อย ๆตักน้ำในแม่น้ำแล้วบรรจงส่งให้กับชายชรา น้ำในขันมีเงาสะท้อนของพระจันทร์
ชายชราพอใจยิ่งนัก ชายหนุ่มคนที่ 1 ก็ข้ามแม่น้ำได้สำเร็จ และไปพบกับเพื่อนของเขาซึ่งว่ายน้ำข้ามมา พบกันตามที่นัดหมาย
อุปสรรคที่ท้าทายลำดับที่สองเมื่อทั้งสองเดินทางไปถึง หน้าผาสูง ไม่มีทางลงไปข้างล่าง จึงถามชายชราที่อาศัยบริเวณนั้นและได้รับการเสนอว่ามีทางเลือก 2 วิธี
วิธีที่หนึ่ง: ให้ไปร้องขอให้นกอินทรีพาบินข้ามไป แต่วิธีนี้ จะต้องตอบคำถามอะไรก็ตามที่นกอินทรีถามระหว่างบินอยู่ ไม่เช่นนั้นจะถูกปล่อยตกลงมา
วิธีที่สอง: ให้เดินไปในทิศเหนือต่อไปอีกหนึ่งเดือน แต่จะต้องเผชิญกับการหลอกหลอนของปีศาจต่างๆ ในที่สุดจะพบทางที่เดินลงไปจากหน้าผานี้ได้
ชายคนที่ 1:เลือกที่จะเสี่ยงด้วยการขอให้นกอินทรีพาบินข้าม
คำถามนกอินทรี: จะหาแสงตะวันอันอบอุ่นในฤดูหนาวอันเยือกเย็นและรัตติกาลมืดมิดได้อย่างไร
คำตอบชายหนุ่ม: ให้ไปหาต้นหญ้าที่เขียวในฤดูหนาว เพราะต้นหญ้าได้เก็บเอาแสงตะวันไว้ในใบของมัน
คำตอบสร้างความพอใจให้กับนกอินทรี ทำให้ชายคนที่ 1 ข้ามหน้าผาได้อย่างปลอดภัย ไปพบกับเพื่อน ที่ถึงแม้จะเผชิญกับการหลอกหลอนของปีศาจต่างๆ แต่ก็เอาตัวรอดข้ามผ่านมาได้เช่นกัน
อุปสรรคสุดท้ายเผชิญกับการข้ามทะเลกว้างใหญ่ โดยมีข้อเสนอจากผู้วิเศษว่าจะต้องจับสายลมให้ได้ก่อนจึงจะช่วยพาข้ามไป
ชายหนึ่งคนที่ 1: ร้องขอให้ผู้ผู้วิเศษใช้เวทย์มนต์ช่วย เพราะไม่อยากอดทนต่อเรือเป็นแรมเดือนจึงยอมรับข้อเสนอจากผู้วิเศษ แต่คราวนี้ชายหนุ่มผู้นี้ไม่สามารถจับสายลมได้ จึงกลายเป็น “ปีศาจสายลม”ไขว่คว้าสายลม ตลอดไปด้วยความสนุก ในขณะที่เพื่อนของเขาข้ามทะเลได้สำเร็จ รอเขาอยู่ที่ชายฝั่งอีกด้านหนึ่ง
บรรทัดส่งท้ายก่อนจบการเขียนบล็อก.... ฝากไว้คิด อ่านแล้วชอบความเฉียบในการแก้ปัญหา และคำพูดที่ลุ่มลึกและที่แฝงไว้ด้วยข้อคิดบ้างไหม๊เอ่ย ??? ด้วยอุปนิสัยของท่าน ท่านชอบใช้วิธีใดในการแก้ปัญหา