To Sir with Love: แด่คุณครูด้วยดวงใจ.. Philip D. Round
ขอคารวะครูผู้ที่รักและเคารพทุกท่าน “To sir with love” เป็นคำกล่าวจากใจ ด้วยความขอบคุณผนวกกับความรู้สึกดี ๆ ดั่งครู-ศิษย์ในภาพยนต์ เรื่อง “To Sir with Love” ขอรำลึกถึง “ครู” ผู้ชี้แนะ ทำให้เรามี “บูรงตานี” ในวันนี้ ท่านคือ Assistant Professor Dr. Philip D. Round หลายคนรู้จักท่านว่า อาจารย์ฟิล ส่วนเราอนุญาตเรียกท่านว่า “ฟิล”
ประสบการณ์ และการเก็บรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับนกได้เริ่มขึ้นอย่างที่เราต้องการ องค์ประกอบส่วนนี้มีความสำคัญไม่น้อย ต่อการเพิ่มคุณค่าของเว็บไซต์ “บูรงตานี” ที่เราท่านได้ใช้ประโยชน์ เส้นทางสายนี้เริ่มต้นในปลายเดือน พฤศจิกายน 2549 เราชาวบูรงตานีในเบื้องต้น 4 ชีวิต : แจง เกื้อ โก้ และฤทธิ์ โดยมีแบแวช่วยขับรถของโครงการพื้นที่ชุ่มน้ำ (Wetland international) นำคณะทำงาน ออกจากปัตตานีปลายทางที่เพชรบุรี เพื่อไปฝึกปฏิบัติการใส่ห่วงขานก (Bird ringing) กับครู “ฟิล” ซึ่งปกติมีโครงการใส่ห่วงขานกที่ท่่านและทีมงานทำเป็นประจำอยู่แล้ว ที่โครงการพระราชดำริ แหลมผักเบี้ย จ. เพรชบุรี ในวันนั้น “ฟิล” มีลูกศิษย์ที่กำลังเรียนปริญญาโท และใช้พื้นที่บริเวณแหลมผักเบี้ย ในการทำวิจัย เก็บข้อมูลเรื่องนกชายเลน เขาผู้นั้นก็คือ คุณสมชาย นิ่มนวล เราเรียกเขาว่า “วิน” ซึ่งเป็นผู้ที่ทำงานใกล้ชิดกับ ฟิล ช่วงเตรียมการโดยส่วนใหญ่เรามักติดต่อกับ น้องวิน
ถึงที่หมาย.. ฝากตัวเข้าสำนัก วันแรกที่เราเดินทางถึงแม้ว่าออกจากปัตตานีเช้าวันศุกร์ แวะรายทางบ้าง กว่าจะถึงที่หมายก็เกือบสองทุ่ม ก่อนเข้าโครงการฯ ที่แหลมผักเบี้ย เราถามทางกันจนเมื่อย เนื่องจากค่อนข้างมืดและเราก็ไม่คุ้นเคยเส้นทาง แต่ในที่สุดเราก็มาถึงได้เจอทั้ง ฟิลและ วิน ซึ่งทั้งสองก็รอเราอยู่ในที่พักนักวิจัย แฮ่ๆ... หัวหน้าทีมจากปัตตานี แนะนำตัวและสมาชิกพูดคุยกับฟิล (ภาษาอังกฤษล่ะนะ ...ทุกคนต้องฝึก) จากนั้น ถามกำหนดการทำงานวันรุ่งขึ้น (เสาร์เช้า) ทราบว่าทีมงานของฟิลพร้อมตี 5 ครึ่ง อืมม์...ทีมเราบูรงตานี ก็ไม่ท้อทอย เอาไงก็เอากัน หัวหน้าทีมมองหน้าทุกคน ขอฉันทามติด้วยสายตา พร้อมตอบอย่างมุ่งมั่นว่าทีมเราพร้อมตี 5 ครึ่งเช่นกัน เพราะตั้งใจมาฝึก ครูทำอย่างไรก็จะปฏิบัติตามครู ในวันเริ่มปฐมบท ชีวิตการใส่ห่วงขานก โดยความเหนื่อยจากการเดินทางไกลจากปัตตานีตรงมาที่นี่ มิเป็นอุปสรรคแต่อย่างใด คืนนั้นเรานอนกันในคาราวาน ขนาดกลาง ซึ่งปรับเป็นที่พักสำหรับนักวิจัย มีห้องน้ำและที่นอน แบ่งปันพื้นที่กันนอนได้ 5-6 คน ในคาราวานของผู้หญิง แจงและเกื้อก็เข้าพักร่วมกับพี่หมอผู้หญิง 2 น้องอีก 1 คน ส่วนโก้ ฤทธิ์ และแบแว พักรวมกับฟิล วินและทีมงานฝ่ายผู้ชาย วันนั้นเรามีผลไม้ไปฝากด้วย ทั้งเงาะ มังคุด และทุเรียนจากปักษ์ใต้ โดยเฉพาะทุเรียนจากสวนที่บ้านหลังสวน พ่อกะแม่ตัดไว้ให้ แวะรับเอาขึ้นรถมา ตั้งใจเอาความอร่อยจากสวนมาฝาก ทั้งฟิล และ วิน กินกันน่าอร่อยในกาแฟสูตรพิเศษ ! ! เพราะทราบว่า ฟิล ชอบกินทุเรียนกับกาแฟ ..ของโปรดของ “ครู”
สักตีห้าครึ่ง.....เปิดตาข่าย รุ่งขึ้นสางๆเราเริ่มทำงานด้วยการฝึกเปิดตาข่าย ได้บอกโก้ว่า “โก้ต้องดูให้ครบทุกขั้นตอน ฝึกทำทุกอย่างที่ฟิลและทีมทำ การเปิด-ปิดตาข่าย มีเทคนิคอย่างไรเป็นสิ่งที่สำคัญ” หลังจากพูดจบ ได้ยินเสียงฟิลยืนยันว่า "ใช่แล้ว" ด้วยความแปลกใจ มิรู้มาก่อนว่าฟิล ฟังภาษาไทยได้ละซิ .......อย่างน้อย นี่คือภาระกิจหลักของฝ่ายเทคนิค ที่จะต้องทำให้ถูกต้องตามหลักปฏิบัติสากล การที่ได้คุยกับโก้เช่นนั้น เพราะเมื่อทีมเรากลับไปทำเองที่ปัตตานี ไม่มีใครคอยชี้แนะนอกจากพวกเรากันเอง ฉะนั้นการฝึกวันนี้มีความหมายมาก ทีมเราควรทำทุกคน และทำทุกอย่างที่มีโอกาส จนทุกวันนี้ ทุกครั้งที่เรามีกิจกรรม “ริงนก” โก้ก็เริ่มปฏิบัติงานเปิดตาข่าย ตี 5 ครึ่งเสมอ ... ขอชื่นชมในความดี ของศิษย์รัก!!
เช้าสาย ๆ ..เก็บนกใส่ถุงผ้า โก้เรียนรู้งานเร็วมาก เพราะมีประสบการณ์เก่าในการยิงนก ตกปลา หาปลา แกะ/ปลดปลาจากอวน จาก แห ส่วนแจงกับเกื้อก็จะติดตามไปทุกครั้งที่ทีมออกไป ตรวจดู สังเกต การปลดนกจากตาข่าย ระหว่างนั้นก็จะมีผู้สนใจ นักดูนกต่างๆ แวะเวียนเข้ามาดุนกที่โครงการ ต่างทักทาย พูดคุยกับฟิล วิน และทีมงาน เราก็ได้รับการแนะนำว่าเป็นทีมน้องใหม่มาฝึกงาน มาจากปัตตานี แหม หลายคนก็ร้อง... อูว์ เดินทางมาไกล บรรยากาศเป็นที่สนุกสนาน เห็นถึงความเข้าใจ และรักในธรรมชาติ และงานที่ทำ ....ดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมงานที่สนุกสนาน ช่วยเหลือกันและมีใจใกล้ชิดธรรมชาติ ..พระเอกก็คือ นกผู้น่ารักที่นำเอาสีสันมาให้กับมวลมนุษย์และทำให้เราได้เจอกันกับผู้ร่วมทางในเส้นทางเรียนรู้เส้นนี้ ต่างมีใจภักดิ์ รักในธรรมชาติและเพื่อนตัวน้อยของเรา
นำนกมา ..ใส่ห่วงขา ส่วนที่สำคัญไม่น้อย ที่เราต้องเรียนรู้ ก็คือใส่ห่วงขา (bird ringing, bird banding) บันทึกข้อมูล เป็นระบบเพือนำไปสู่การศึกษา วิเคราะห์ และมีประโยชน์ต่อวงการวิชาการต่อไป การบันทึกข้อมูล น้ำหนัก ความยาวของโครงสร้างต่าง ๆ ของนก การผลัดขน ตามที่มีกำหนดไว้ในฟอร์ม การเลือกขนาดห่วงขา (ring) โดยเฉพาะการใส่ห่วงให้ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ทีมเราตื่นเต้น มีคำถามมากมาย และเราก็ฝึกทำกันได้ทุกคนทั้งตัวอย่างนกป่าและนกชายเลน โดยเฉพาะนกชายเลจะต้องใส่ธง (flag) เป็นพลาสติกสีดำ/เขียวให้ด้วย โดยมี ฟิล และ วิน คอยแนะนำ ชี้แนะ อยู่ใกล้ๆ เสริมสร้างความมั่นใจให้พวกเราอยู่ตลอดเวลา น่าประทับใจยิ่งนัก นกที่เข้ามามีหลากหลายชนิด เมื่อใส่ห่วงขาแล้ว ก็บันทึกภาพ จากนั้นก็ปล่อยนกกลับคืนสู่ธรรมชาติ
ได้เวลาอาหาร..เช้า สาย?? แสนสงสารทีมงานบูรงตานี โดยเฉพาะโก้ ซึ่งต้องกินข้าวเช้า อย่างอื่นไม่อยู่ท้องและไม่ใช่วิถี ส่วน ฤทธิ์ และเกื้อ ก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลย จริงๆแล้ว ฟิล ได้เตรียมขนม กาแฟและอื่น ๆ แต่อาหารเหล่านี้ ไม่ใช่สไตล์โก้ ชาวเขาโร !! ส่วนแจงทานขนมปังทาเนยถั่ว และชีส ก็ยังพอไหว อดทนมาก ๆจริงๆสำหรับฝ่ายเทคนิคของเราที่ทำงานแบบไม่ทานอะไรเลย รู้ไหม๊ ทีมงานบูรงตานีของเรา ทำงานอย่างแข็งขัน แม้ท้องใส้จะประท้วงส่งเสียงดังเล็กน้อย ขอความเห็นใจ
ก่อนบ่าย.. แลกเปลี่ยนพูดคุย ระหว่างที่นกเข้ามาให้ใส่ห่วงขามีจำนวนน้อยลงเนื่องจากล่วงเลยเวลาไปมาก ทีมงานบูรงตานี ได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกับ ฟิล และ วิน ถึงโครงการที่เราตั้งใจจะทำ ฟิลได้ชี้แนะให้เราติดต่อ กรมอุทยานฯ เพราะการใส่ห่วงขานกนั้น ทางกรมฯ จะเป็นหน่วยงานเดียวในประเทศที่รับผิดชอบ จัดหาห่วงขา (ring) เพื่อใช้ในโครงการใส่ห่วงขานก ทีมเรานึกถึง พี่สิริพร ทองอารีย์ ผู้ใหญ่ใจดีหัวหน้าที่ป่าฮาลา บาลา อ. แว้ง จ . นราธิวาส ซึ่งให้ความอนุเคราะห์กับเราเสมอมา งานนี้ก็คงรบกวนผ่านทางพี่พรผู้น่ารักอีกเช่นเคย ก่อนเสร็จกิจกรรมวันนี้ เราก็ตามออกไปในพื้นที่เพื่อปิดตาข่าย (close net) ต่อมาในวันรุ่งขึ้นจึงจะเปิด (open net) ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้นกมาติดตาข่ายโดยไม่ต้องการ อาจะเป็นอันตรายต่อตัวนกได้ จึงต้องระมัดระวัง
ออกไปลุย.. นอกสถานที่ วันนั้นได้ทานข้าวมื้อแรกของวันก็จวนบ่ายสองโมง ตอนเย็นมีนัดไปดูนก ฝึกการจำแนกนก ( identification, ID) นกชายเลนแถวปากทะเล ตามด้วยการฝึก ID นกตามรายทางแถวๆ นาเกลือ มีนกกาบบัวตัวใหญ่ให้เห็น ช่างเป็นบทเรียนที่ wrap up ได้ดีมาก ทีมงานเราก็พอมีความรู้อยู่บ้าง เพราะฝึก ID กันบ่อย (เมื่อก่อน) เลยได้ trick ดี ๆ การดูนกในวันนั้น โดยมีฟิล และวิน คอยแนะนำ อย่างใกล้ชิดเช่นเคย ภาพการนั่งดูนกวันนั้น จินตนาการว่าเรานั่งดูนก ได้ 360 องศา เป็น panorama ที่มีทะเลเบื้องหน้า ขอนไม้ มะพร้าว เป็นเก้าอี้นั่งดู เราต่างแลกเปลี่ยน พูดคุยมีความสุขมาก... ภาพสวรรค์บนดิน..... Heaven is a place on earth!! อย่างที่เพลงเขาว่าไว้จริง ๆ
ข้าฯนี้..ขอขอบคุณ Thanks Phil, Win and his team. It's great fun. We really enjoy it. เย็นวันนั้นชาวบูรงตานี ขอเป็นเจ้าภาพอาหารมื้อเย็นให้กับ “ครู”และทีมงาน กินกันที่ร้านอาหาร มื้อนั้นอร่อยมาก (good food ..good company) กลับเข้าที่พักนอนหลับสบาย พร้อมออกเดินทางไกลกลับปัตตานีในบ่ายวันถัดไป เพราะช่วงเช้าวันรุ่งขึ้นเรายังฝึกปฏิบัติเช่นเดิมและต้องทำให้ครบทุกขั้นตอน เนื่องจากเรายังไม่ฝึกการเก็บตาข่าย
ประเมินฝีมือ ท้ายที่สุดก่อนจบกิจกรรมหัวหน้าทีมจากปัตตานีได้ถาม ฟิล ให้ประเมินว่าทีมเรากลับไปทำงานนี้ต่อที่ปัตตานีได้ไหม๊ สิ่งที่ได้ยินก็คือ Sure!! ทำได้แน่นอน ทำได้ดีด้วย โดยเฉพาะโก้ ได้ฝึกและทำได้ดีทุกขั้น.....คำชมนี้ขอน้อมรับ และเราก็ฝึกทำให้ดี ยิ่งขึ้นเสมอมา จนบัดนี้ทีมเราก็ได้เติบโตจนมีเพื่อนเพิ่มขึ้น เรามีกัลยาณมิตรอีกคนหนีง คุณคณิศร รักจิตรที่มาเสริมทีมและช่วยสร้างเว็บไชท์บูรงตานี (burongtani) ร่วมมือกันสร้างคุณค่าของเว็บไซต์ “บูรงตานี” ในขณะที่ปรากฏบนโลกออนไลน์ ... “ธรณีนี่นี้เป็นพยาน ข้าฯก็ศิษย์มีอาจารย์หนึ่งบ้าง”….
เช้าตรู่ตีห้าครึ่ง... ออกปฏิบัติการสังเกตการเปิดตาข่ายเพื่อเริ่มกิจกรรมใส่ห่ว่งขานก
โก้...ดูไว้นะ Phil สอนการตรึงตาข่ายให้ตึง ต้องปรับเสาอะลูมิเนียมยังไง แต่พอมาทีปัตตานีเรากลับต้องใช้ไม้ไผ่แทน.. 555 ความรู้ apply กันได้ถ้ารู้หลักการ.. ใช่ไหม๊โก้ ??
โปรดสังเกต..ทีมบูรงตานีเอาจริงเอาจังมากในการฝึกงาน ทั้งจด ทั้งปฏิบัติ และซักถาม ก็ทีมของ Phil ออกจะมีประสบการณ์เพียบ พี่หมอต้อก็ทำงานแข็งขัน จะบอกว่าเราโชดดีมาก ที่ได้ฝึกงานกับทีมงานที่สุดยอด..
ช่วงเช้า สามสหายก็ด้อมๆ มองๆ ดูนก แต่ เอ๊ะ!! โก้มองมุมต่ำยังเลย เขาดูอะไรก็คงต้องให้โก้แถลงไข
วิน.. บอกว่านกหนึ่งตัวใส่ริงเพียงคนเดียวก็ได้ แต่เราร่วมด้วยช่วยกัน 2 คน นก 1 ตัวปลอดภัยดี... ก็ไหนจะจับ ไหนจะวัด และริง เอาไงดี
โก้..... จับให้ดีนะ เดี่ยวจะวัดให้ ก็นกปากออกจะยาวและแหลมอย่างนั้น ตัวก็โตด้วย กว่าจะใช้เวอเนียร์วัด tarsus ได้ อ่อนอกอ่อนใจไปพอดูหล่ะ
ช่วงที่ออกไปดูนกว่าติดตาข่ายหรือไม่ ก็เป็นช่วงที่มีนักดูนกเข้ามาร่วมงานกับ Phil ทำให้เราได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
โก้..ฝ่ายเทคนิคงานหนักหน่อยนะ ใข่แล้ว........กลับมาปัตตานีเราจะต้องทำได้ เพราะเราฝึกมาแล้ว ..ที่แหลมผักเบี้ย การวางตาข่าย วางในแปลงปลูกป่าชายเลนเพื่อใช้บำบัดน้ำเสีย ส่วนที่ปัตตานี ก็วางแผนว่า ริมเล
หลังเสร็จภาระกิจช่วงเช้า เราเดินทางไปที่ปากทะเล บริเวณไม่ไกลจากโครงการฯ ที่แหลมผักเบี้ย เพื่อฝึกจำแนก ( ID) นกชายเลน
ที่ปากทะเล เป็นภาพ Panorama มุมกว้าง มองเห็นทะเลข้างหน้ากว้างใหญ่ที่มีนกชายเลนหากินอยู่ไม่ไกล สถานที่นั่งมีขอนไม้มะพร้าวที่ชาวบ้านวางไว้สำหรับประโยชน์อย่างอื่น เราต่างยึดครองกันนั่งดูนกอย่างมีความสุข ในอริยาบทสบาย ๆ
หลาย ๆคนที่เป็นนักดูนกก็ใช้พื้นที่บริเวณปากทะเล ที่แหล่งเรียนรู้ ฝึก ID นกชายเลนช่วงที่น้ำขึ้น นกก็จะเดินตามน้ำเข้ามาหาเรา ซึ่งนั่งเงียบ ๆ รอดู ราเห็นนกชัดเจนจำแนกได้ไม่ยากนัก และเรียนรู้ trick ดี ๆ ผู้รู้น้อยอย่างเราก็ได้รับการชี้แนะจากผู้รู้มาก่อนเช่น Phil & Win น่าชื่นชมมาก
ระหว่างทางเป็นนาเกลือ เราจอดรถบนไหล่ทางและฝึก ID นกกันอีก ที่นั่นมีนกที่เราไม่เคยเห็น เช่น กาบบัวตัวโต ๆ เรียนรู้ พร้อมกับชื่นชมธรรมชาติอย่างมีความสุข
ทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลัง ของการฝึกงานครั้งนี้ ใครเป็นใครดูเอาเอง การเรียนรู้อย่างมีความสุข นั้นเป็นอย่างไร ??
ก่อนจาก เราขอเป็นเจ้าภาพ เพื่อขอบคุณ โดยรับบประทานอาหารร่วมกันทั้งทีมบูรงตานีและทีมของ Phil
(Good food ...good company)
เดินทางกลับปัตตานีและแวะพักค้างคืนที่สามร้อยยอด จ ประจวบคีรีขันธ์ แหล่งดูนกที่มี habitat เป็นอ้อ แขม ผืนใหญ่ผืนสุดท้ายที่ต้องรักษาไว้